ข่าวสังคม

บุรีรัมย์ ชาวบ้านร้อง ผญบ.และญาติสร้างบ้านล้ำทางสาธารณะเดือนร้อนเข้าออกที่ดินตัวเองไม่ได้นาย 7 ปี อบต.รุดตรวจสอบ

ชาวบ้านร้อง ผญบ.และญาติสร้างที่อยู่อาศัยรุกล้ำทางสาธารณะเดิม ปิดทางเข้า-ออกทำให้ไม่สามารถเข้าไปทำประโยชน์ในที่ดินของตัวเองได้เดือดร้อนมานานกว่า 7 ปี ร้องหลายหน่วยงานยังไม่ได้รับการแก้ไข แถมมี จนท.พูดประชดอยากได้ก็ซื้อเอา ขณะนายก อบต.ลงพื้นที่ตรวจสอบด้วยตัวเองรับปากต้นเดือน ต.ค.จะประสานหน่วยงานเกี่ยวข้องตรวจพิสูจน์และหาทางออกร่วมกัน

วันที่ 26 ก.ย. 2566 น.ส.ฐิตารีย์ ปรังประโคน อายุ 56 ปี ชาวบ้านบ้านโคกกี่ ต.บ้านไทร อ.ประโคนชัย จ.บุรีรัมย์ พร้อมน้องชายและพี่สาว ได้นำเอกสารหลักฐานโฉนดที่ดินรวมถึงหนังสือที่เคยยื่นร้องขอความเป็นธรรมกับหลายหน่วยงาน เข้าติดตามสอบถามความคืบหน้าที่องค์การบริหารส่วนตำบลบ้านไทร กรณีที่เคยร้องเรียนกล่าวหาว่า ผู้ใหญ่บ้านและญาติพี่น้อง สร้างที่อยู่อาศัยรุกล้ำทางสาธารณะเดิม และปิดทางเข้า-ออกทำให้ไม่สามารถเข้าไปใช้ประโยชน์ในที่ดินของตัวเองได้ เดือดร้อนมาตั้งแต่ปี 2559 จนถึงปัจจุบันเป็นเวลานานกว่า 7 ปี ที่ผ่านมาเคยร้องเรียนไปหลายหน่วยงานทั้ง อบต.บ้านไทร ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัด อำเภอ แต่ก็ยังไม่ได้รับความเป็นธรรม จึงได้มาติดตามความคืบหน้าอีกครั้ง

หลังจากทราบเรื่องนายโอภาส ปุยะติ นายก อบต.บ้านไทร ก็ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบยังที่ดินที่มีการร้องเรียนด้วยตัวเอง แต่จากการตรวจสอบเบื้องต้น พบว่าที่ดินของผู้ร้องไม่มีทางเข้าออกจริง เนื่องจากมีบ้านและที่ดินของบุคคลอื่นล้อมรอบอยู่ แต่จากการตรวจสอบด้วยสายตา ก็ยังไม่สามารถระบุได้ว่าบ้านของผู้ใหญ่บ้าน และญาติพี่น้องมีการปลูกสร้างรุกล้ำที่สาธารณะตามที่มีการร้องเรียนจริงหรือไม่ แต่เมื่อมีการร้องเรียนก็จะได้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งอำเภอ ที่ดินอำเภอ กำนัน ร่วมตรวจพิสูจน์อีกครั้งว่าที่ดินดังกล่าวเป็นที่สาธารณะประโยชน์จริงหรือไม่ และมีการปลูกสร้างที่อยู่อาศัยรุกล้ำจริงหรือไม่ ซึ่งหากมีการสร้างรุกล้ำที่สาธารณะประโยชน์จริง ก็ต้องดำเนินการระเบียบกฎหมายที่กำหนด แต่หากพิสูจน์แล้วไม่ได้มีการรุกล้ำ ก็จะได้มีการพูดคุยเพื่อหาทางออกร่วมกันว่าจะดำเนินการอย่างไรเพื่อให้ผู้ร้องสามารถเข้า-ออกที่ดินตัวเองได้ คาดว่าจะดำเนินการได้ต้นเดือน ต.ค.66 ที่จะถึงนี้ ซึ่งจะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย

นางฐิตารีย์ ผู้ร้อง ระบุว่า ที่ดินที่ตนเองครอบครองอยู่ปัจจุบันเป็นที่มรดกได้รับโอนมาจากพ่อ มีเนื้อที่ 2 งาน 46 ตารางวา ออกโฉนดถูกต้อง ที่ผ่านมาก็เคยเข้าไปทำประโยชน์ได้ตามปกติ แต่หลังจากพ่อเสียชีวิต ผญบ.และญาติพี่น้องก็สร้างที่อยู่อาศัยขวางทางเข้าออกซึ่งเป็นที่สาธารณะเดิมที่เคยใช้ประโยชน์ร่วมกัน ทำให้ตนเองไม่สามารถเข้าไปทำประโยชน์ในที่ดินของตัวเองได้ตั้งแต่ปี 2559 เคยไปพูดคุยกับ ผญบ. และญาติพี่น้องผู้ใหญ่แต่เขากลับไม่ยอมเปิดทางให้ ตนจึงเดินเรื่องร้องขอความเป็นธรรมไปยังหน่วยงานต่างๆ กระทั่งปี 2561 อบต.บ้านไทร ได้มาทำการรังวัดตามที่มีการร้องเรียนแต่เรื่องก็เงียบหายไป ต่อมามีการเลือกตั้ง อบต.และได้นายกฯ คนใหม่ ตนจึงทำเรื่องร้องอีกครั้ง ล่าสุดวันที่ 22 ก.ย.66 ก็มี จนท.จากหลายหน่วยงานลงไปตรวจสอบและพูดคุย แต่มี จนท.คนหนึ่งใช้คำพูดที่เป็นการซ้ำเติมความรู้สึก โดยบอกว่าถ้าอยากให้ทางเข้า-ออกก็ให้ซื้อเอา ก็รู้สึกเสียใจทั้งที่ตนเองเดือดร้อนหวังพึ่งทางภาครัฐ อย่างไรก็ตามหากการร้องเรียนครั้งนี้ ยังไม่ได้ความเป็นธรรมก็จะนำหลักฐานร้องต่อศาลปกครองต่อไป

ด้านนายเติม สหุนาลุ ผู้ใหญ่บ้านที่ถูกร้องเรียนกล่าวหาว่าสร้างบ้านรุกล้ำทางสาธารณะ ก็ยืนยันว่าตนเองและญาติพี่น้องสร้างที่อยู่อาศัยตามเอกสารสิทธิ์ นส.3 ก อย่างถูกต้อง ไม่ได้รุกล้ำทางธารณะตามที่ผู้ร้องกล่าวหา แต่เมื่อมีการร้องเรียนตนก็พร้อมให้ตรวจสอบและพิสูจน์ข้อเท็จจริงตามขั้นตอน