ข่าวสังคม

สุรินทร์ ดราม่าแท็กซี่กัมพูชาเข้ามาหากินในไทย อ้างรับญาติพี่น้องกลับบ้าน

วันนี้ 29 กันยายน 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีผู้ใช้ TIKTOK ชื่อว่า Joio chuenngam ได้โพสตคลิปรถแท็กซี่จากฝั่งกัมพูชาเข้ามารับคนจากฝั่งไทย พร้อมกับระบุข้อความว่า แท็กซี่เขมรเย้ยไทยออกมารับจ้างไม่เกรงกลัวกฎหมายไทย” หลังจากคลิปดังกล่าวถูกเผยแพร่ลงในโลกออนไลน์ ชาวเน็ตได้เข้ามาคอมเม้นสนั่น พร้อมกับถามถึงเจ้าหน้าว่า “ที่ตอนนี้ทำอะไรกันอยู่” บางคนก็บอกให้ไปแจ้งขนส่ง และเกิดการตั้งคำถามอีกมามายในคอมเม้น

โดยคลิปดังกล่าวมีเนื้อหาความยาว 04.03 นาที ในคลิปพบว่าเจ้าของคลิปกำลังเดินไป และพูดกับลูกค้าคนกัมพูชาว่า ค่าบริการเขาคิดกันยังไงลูกค้าคนกัมพูชาตอบมาว่า ครั้งละ 500บาทไทย ไปเที่ยวฝั่งไทยได้ 2-3ที่ เช่นไปดูวัดหลวงปู่สรวง และรถแท็กซี่มี 2คัน และเจ้าของคลิปได้เดินไปพูดคุยกับทางคนขับแท็กซี่ชาวกัมพูชาว่า (บทสนทนาในคลิป)
(เจ้าของคลิป) : ไม่ใช่ว่าเขาไม่ให้พี่มาหารับจ้างฝั่งไทยมันผิดกฎหมาย
(คนขับแท็กซี่ชาวกัมพูชา) : มารับญาติพี่น้องกลับ
(เจ้าของคลิป) : พี่น้องอะไรมารับทุกวันจังเลยไหนเอาเอกสารของพี่มากางดูว่าเขาให้รับไปได้ครั้งละไม่เกินกี่คน
(คนขับแท็กซี่ชาวกัมพูชา) : อ๋อผมมาส่งเพื่อนไป
(เจ้าของคลิป ) : เอ็งมาหากินฝั่งไทยแบบนี้มันไม่ถูก เอ็งส่งเพื่อนอะไรได้ทุกวันแท้ เห็นเอ็งออกทุกวัน พี่น้องอะไรมากันทั้งประเทศจังว่ะ โดยคนถ่ายคลิปกับคนขับแท็กซี่ชาวเขมร ได้ยืนการโต้งเถียงกันนานพอสมควร

ต่อมาผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปพูดคุยกับชาวบ้านที่ขับรถรับจ้าง ในจังหวัดสุรินทร์ พูดคุยสอบถาม ถ้าคนกัมพูชามารับจ้างฝั่งไทยแบบนี้จะได้รับผลกระทบไหม และเรารู้สึกอย่างไรที่ประเทศเพื่อนบ้านเข้ามาแย้งอาชีพเราแบบนี้ และอยากฝากอะไรถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
สัมภาษณ์นายกฤษ ช่อจันทร์ อายุ48 ปี (คนขับรถมอเตอร์ไซต์ รับจ้างส่งผู้โดยสารในจังหวัดสุรินทร์) เล่าว่า ถ้ารถแท็กซี่มาจากกัมพูชาแล้วรับจ้างผู้โดยสารในสุรินทร์ เราเห็นก็รู้สึกแย่และก็อาจขาดรายได้ ขนาดเงินร้อยยังหาแทบไม่ได้เลย ถ้าแท็กซี่จากกัมพูชามาวิ่งแย่งผู้โดยสารแบบนี้ก็แย่ ตนก็ไม่อยากให้แท็กซี่จากกัมพูชาออกมารับผู้โดยสารแบบนี้ โดยเหตุการณ์แบบนี้ไม่เคยมีมาตั้งแต่ไหนแต่ไร ถ้าคนกัมพูชายังสามารถเข้ามารับนักท่องเที่ยวแบบนี้ คนที่ขับรถแท็กซี่หรือรถโดยสารรวมถึงวินมอเตอร์ไซต์ก็อาจส่งผลกระทบทางตรง

สัมภาษณ์ นายแก่น อายุ 44 ปี (คนขับรถรับจ้างในสุรินทร์) เล่าว่า ถ้าเกิดเหตุการณ์แบบนี้ก็แย่ เพราะทุกวันนี้เศรษฐกิจบ้านเราก็ไม่ค่อยดี อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงมาช่วยดูแล ถ้ามีแท็กซี่หรือรถรับจ้างมาจากเพื่อนบ้านเข้ามาแย่งลูกค้าแบบนี้ก็อาจส่งผลกระทบที่แย่ต่อรายได้ของอาชีพรถรับจ้างรับส่งนักท่องเที่ยว อยากให้เจ้าหน้าที่มาช่วยดูแลเพราะเมื่อก่อนไม่เคยมีแบบนี้ รายได้ที่เคยได้รับก็อาจโดนแย่งไป

สัมภาษณ์ นายไพฑูลย์ อายุ 45 ปี (ชาวบ้านที่อยากออกความคิดเห็น) เล่าว่า ถ้ามีรถแท็กซี่หรือรถรับโดยสารท่องเที่ยวที่ไม่ใช่ของคนไทยมารับจ้างหรือหากินในประเทศไทยในจังหวัดสุรินทร์ อยากฝากถึงหน่วยงานให้ตรวจสอบดูว่าถูกกฎหมายหรือไม่อย่างไร เพราะอาจกระทบต่อรถรับจ้างที่หาเช้ากินค่ำ เพราะอาจมาแย่งอาชีพคนไทยทำให้รายได้ลดน้อยลง

สัมภาษณ์นายอ้วน อายุ 50 ปี (คนขับรถตุ๊กๆ) เล่าว่า ถ้าเกิดเหตุการณ์ในลักษณะนี้มากขึ้นอาชีพรับส่งผู้โดยสารหรือนักท่องเที่ยวอาจได้รับผลกระทบ เพราะกลุ่มลูกค้าส่วนใหญ่ของตนเป็นนักท่องเที่ยวชาวกัมพูชาที่มาพักตามโรงแรม ตนรู้สึกไม่ดีที่มีชาวกัมพูชามาแอบรับจ้าง เพราะตนเองไม่รู้ว่าเป็นรถรับจ้างเพราะคนกัมพูชาที่มารับจ้างเป็นแท็กซี่ขับรถธรรมดาทั่วไป ไม่มีป้ายบอกทำให้มองไม่ออก และคิดว่าชาวกัมพูชาพาครอบครัวมาเที่ยวมาหาหมอในสุรินทร์
สัมภาษณ์นายแดง อายุ 49 ปี (ใส่เสื้อวิน เบอร์ 16 ) เล่าว่า ตนเห็นรถรับจ้างจากกัมพูชามาบ่อยตั้งแต่ปีที่แล้ว มองผ่านๆตนคิดว่าเป็นชาวกัมพูชามาท่องเที่ยว และคิดว่าเป็นแกร็ปวิ่งมาจากประเทศกัมพูชาเพราะมาบ่อย