สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ นายไกรสร กองฉลาด ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น เป็นผู้แทนพระองค์ อัญเชิญพวงมาลาพระราชทาน ไปวางไว้หน้าหีบศพของนายอภิชาต กุสะรัมย์ ชาวอำเภอหนองสองห้อง จังหวัดขอนแก่น แรงงานไทย ที่เสียชีวิตจากสงครามที่เกิดขึ้นในประเทศอิสราเอล
เมื่อเวลา 18.00 น. วันที่ 27 ต.ค. 2566 ที่ บ้านเลขที่ 34/1 บ้านโคกสว่าง หมู่ 6 ต.โนนธาตุ อ.หนองสองห้อง จ.ขอนแก่น สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ นายไกรสร กองฉลาด ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น เป็นผู้แทนพระองค์ อัญเชิญพวงมาลาพระราชทาน ไปมอบให้กับครอบครัวกุสะรัมย์ แรงงานไทย ชาวอำเภอหนองสองห้อง จังหวัดขอนแก่น ที่เสียชีวิตจากสงครามที่เกิดขึ้นในประเทศอิสราเอล ที่บ้านของนายลำเพย กุสะรัมย์ บิดาของ นายอภิชาติ กุสะรัมย์ อายุ 29 ปี ซึ่งจะมีการตั้งบำเพ็ญกุศลที่บ้าน เป็นเวลา 2 คืน ก่อนจะมีการฌาปนกิจส่งดวงวิญญาณเป็นครั้งสุดท้าย ในวันที่ 28 ตุลาคม นี้
พร้อมกันนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น ได้นำความห่วงใยจากสมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี มาถึงครอบครัวผู้เสียชีวิตด้วย
“จังหวัดขอนแก่น ได้รับแจ้งว่ามีแรงงานไทยในอิสราเอลเสียชีวิต 4 ราย ประกอบด้วย 1.นายพิชิต นาจันทร์ 2.นายพงษ์เทพ กุสะรัมย์ ชาว อ.หนองสองห้อง จ.ขอนแก่น โดยทั้งสองศพได้ทำพิธีฌาปนกิจศพไปแล้วเมื่อวันที่ 23 ตุลาคม ที่ผ่านมา 3.นายอภิชาต กุสะรัมย์ ซึ่งได้นำศพกลับมาถึงบ้านเกิดเมื่อวานนี้ และรายที่ 4 คือ นายพิทักษ์ โทแหล่ง อายุ 54 ปี ชาวไทยที่ไปทำงานอยู่ที่ประเทศอิสราเอลกว่า 20 ปี โดยมีครอบครัวอยู่ที่ประเทศอิสราเอล และเป็นผู้ได้รับ 2 สัญชาติ ซึ่งอยู่ที่บ้านโนนทัน หมู่ที่ 9 ต.ดอนดั่ง อ.หนองสองห้อง จ.ขอนแก่น ขณะนี้ทางครอบครัวที่อยู่ประเทศไทย ได้ทำเรื่องประสานไปยังสถานทูตไทยในประเทศอิสราเอล เพื่อขอให้ส่งศพนายพิทักษ์ กลับมาประกอบพิธีทางศาสนาที่บ้านเกิด อ.หนองสองห้อง จ.ขอนแก่น”
นายไกรสร กองฉลาด ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น เปิดเผยว่า จังหวัดขอนแก่น ได้ให้การช่วยเหลือแรงงานไทยและครอบครัวของแรงงานไทย ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุสงครามในอิสราเอล ในทุกมิติ โดยหน่วยงานในสังกัดกระทรวงแรงงาน ได้ให้การช่วยเหลือเยียวยา โดยการจ่ายเงินตามมาตรการเยียวยาแรงงานไทย และสิทธิประโยชน์ที่จะได้รับนั้น จังหวัดขอนแก่น ได้ดำเนินการตามระเบียบทางราชการและเป็นไปตามนโยบายของรัฐบาล ในกรณีเสียชีวิต ได้ดำเนินการจ่ายเงินสงเคราะห์ เป็นค่าจัดการศพ ศพละ 40,000 บาท และสิทธิประโยชน์ที่จะได้รับจาก กองทุนเงินประกันสังคม กองทุนเงินบำเหน็จชราภาพ สำหรับผู้ประกันตนตามมาตรา 33 ที่เสียชีวิต ได้ดำเนินการจ่ายเงินเยียวยาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ส่วนเงินช่วยเหลือคนหางานไปทำงานต่างประเทศ สำหรับผู้ที่เป็นสมาชิกกองทุนจะได้รับเงินสงเคราะห์กรณีเสียชีวิต 40,000 บาท นั้น ขณะนี้อยู่ในระหว่างดำเนินการเบิกจ่าย
นอกจากนี้ นายไกรสร กองฉลาด ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น ได้กำชับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ ตั้งแต่ระดับหมู่บ้าน ตำบล อำเภอ และจังหวัดให้ให้การช่วยเหลือครอบครัวของผู้สูญเสียในทุกมิติ โดยเฉพาะเรื่องสภาพจิตใจ โดยเฉพาะครอบครัว “กุสะรัมย์” ชาวอำเภอหนองสองห้อง ที่ต้องสูญเสียลูกชายไปพร้อมกันถึง 2 คน
นอกจากนี้ ยังมีแรงงานไทยที่เป็นชาว อ.บ้านแฮด จ.ขอนแก่น อีก 1 คน ที่ถูกกลุ่มฮามาสจับเป็นตัวประกัน ซึ่งรัฐบาลไทยอยู่ระหว่างการประสานไปยังประเทศอิสราเอลในการเจรจาให้ปล่อยตัว