ข่าวสังคม

สธ.บุรีรัมย์ รุดตรวจสอบวัดภูม่านฟ้าหลังชาวบ้านหลายร้อยแห่รักษากับ อ.เอกฝ่ามือพลังจิต ชี้ที่ยายน้องเตยบอกมองเห็น 3 วันเป็นการอุปทาน

สธ.บุรีรัมย์ ตร. ฝ่ายปกครองอำเภอนางรอง ลงพื้นที่ตรวจสอบและหาข้อมูล หลังทราบว่ามีชาวบ้านหลายร้อยคนมาเข้าคิวรอรักษากับ อาจารย์เอก ฝ่ามือพลังจิต เมื่อวันที่ 12 พ.ย.ที่ผ่านมา พร้อมออกประกาศเตือน อ.เอก ไม่ได้ผ่านการรับรองเป็นหมอพื้นบ้านอาจเสี่ยงอันตราย หรือเสียโอกาสได้รับรักษากับแพทย์แผนปัจจุบัน ชี้กรณีย่าน้องเตยวัย 68 ปีที่รักษากับ อ.เอกแล้วบอกว่ามองเห็น 3 วันเป็นเพียงการอุปทาน เพราะผลวินิจฉัยยายเป็นต้อหินโอกาสผ่าตัดรักษาให้กลับมามองเห็นค่อนข้างยาก

วันที่ 15 พ.ย. 2566 เจ้าหน้าที่จากสาธารณสุขจังหวัดบุรีรัมย์ พร้อมด้วยสาธารณสุขอำเภอนางรอง พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ และฝ่ายปกครองอำเภอนางรอง ได้ลงพื้นที่ไปตรวจสอบที่วัดภูม่านฟ้า และสอบถามข้อมูลรายละเอียดกับทางเจ้าอาวาส หลังมีการแชร์คลิปชาวบ้านจำนวนหลายร้อยคน ไปเข้าคิวรอให้ อาจารย์เอก ฝ่ามือพลังจิต รักษาตามศาสตร์ความเชื่อ ด้วยการเหยียบ เตะ และตบต่างจุดต่างๆ ของร่างกายแล้วจะหายจากอาการเจ็บป่วยที่เป็นอยู่ โดยจากการสอบถามทางวัดก็ให้ข้อมูลว่า อาจารย์เอกฝ่ามือพลังจิตเพียงมาใช้สถานที่วัดเท่านั้น

ทั้งนี้ ทางสาธารณสุขจังหวัดบุรีรัมย์ ยังได้ออกประกาศแจ้งเตือนโดยระบุข้อความว่า “จากที่มีกระแสข่าว “อาจารย์เอก ฝ่ามือพลังจิต” หมอเทวดาดนดังในโซเชียล ซึ่งอ้างว่า สามารถใช้พลังจิตรักษาอาการเจ็บป่วย โดยการใช้พลังจิตจับจุดต่างๆ ตามร่างกายที่มีปัญหา หรือบางครั้งก็ไม่จำเป็นต้องจับโดนร่างกายของผู้ป่วยก็สามารถรักษาได้นั้น

สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดบุรีรัมย์ ได้ทำการตรวจสอบฐานข้อมูลการรับรองหมอพื้นบ้าน ตามระเบียบกระทรวงสาธารณสุขว่าด้วยการรับรองหมอพื้นบ้าน พ.ศ.2562 และประกาศคณะกรรมการหมอพื้นบ้าน เรื่องลักษณะ ประเภท หรือกรรมวิธีของภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทย พบว่าอาจารย์ ไม่ได้รับการรับรองเป็นหมอพื้นบ้าน เพราะการกระทำดังกล่าวไม่เข้าข่ายคุณสมบัติและลักษณะประเภท หรือพิธีกรรมที่จะให้การรับรองเป็นหมอพื้นบ้านได้ และไม่ได้ขึ้นทะเบียนเป็นผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรม ตาม พ.ร.บ.วิชาชีพเวชกรรม พ.ศ. 2525 จึงขอให้ประชาชนที่จะไปรักษาโปรดใช้ความระมัดระระวัง และพิจารณาข้อดีข้อเสียที่จะเกิดขึ้นกับอาการโรคของตนเอง ถ้าหากมีข้อสงสัย ควรปรึกษาแพทย์ในสถานพยาบาลใกล้บ้านก่อนทำการรักษาทุกครั้ง เพราะอาจทำให้ท่านได้รับอันตราย หรือไม่ปลอดภัย หรือเสียโอกาสในการรักษากับแพทย์แผนปัจจุบัน

ขณะที่นายแพทย์พิเชษฐ พืชขุดทด สาธารณสุขจังหวัดบุรีรัมย์ ได้ระบุถึงกรณียายเสา ย่าของน้องเตย ที่ อ.ห้วยราช ว่า จากข้อมูลรายงานแพทย์ที่ทำการรักษาได้วินิจฉัยว่าเป็นต้อหิน ซึ่งได้รักษาต่อเนื่องที่ รพ.บุรีรัมย์ ทั้งได้รับการดูแลต่อเนื่องจากแพทย์ และทีมสหวิชาชีพที่เชื่อมโยงการดูแลทั้ง รพ.ห้วยราช รพ.สต. และ อสม.ในพื้นที่ ซึ่งโรคต้อหินก็ทำให้คุณยายตาบอด ยังไม่สามารถให้รักษาด้วยวิธีการอื่นได้ ส่วนที่มีข่าวว่าได้รักษากับอาจารย์เอกแล้วมองเห็นได้ช่วงหนึ่งนั้น สันนิษฐานว่าน่าจะเป็นเรื่องของการอุปทานมากกว่า ส่วนที่จะทำการผ่าตัดรักษานั้นโอกาสจะกลับมามองเห็นก็ค่อนข้างยาก ตอนนี้ก็จะทำการดูแลในเรื่องของการเฝ้าระวังอาการปวด ติดเชื้อ และการดูแลอื่นๆ เพื่อให้คุณยาย สามารถดำเนินคดีได้เป็นปกติมากที่สุด ซึ่งจากข้อมูลพบว่ายายเคยเข้ารักษาดวงตาเมื่อปี 2560 ที่ รพ.บุรีรัมย์ จากนั้นก็ไม่ได้ไปตรวจรักษาต่อเนื่องอีก เพิ่งจะมาเข้ารักษาอีกครั้งเมื่อช่วงเดือน มิ.ย.66 ช่วงที่เป็นข่าวดัง โดยหมอจะนัดไปตรวจที่ รพ.ห้วยราชบ้าง และ รพ.บุรีรัมย์ เฉลี่ย 2 – 3 เดือนครั้ง