ข่าวสังคม

บุรีรัมย์ เจอแล้วหนุ่มไปดักหนูหายตัวปริศนาค้นหา 2 วันเผยเห็นดวงไฟประหลาดตกใจวิ่งหนีเข้าป่าอ้อยหาทางออกไม่ได้

คืบหน้าหนุ่มวัย 36 ชาว อ.หนองกี่ จ.บุรีรัมย์ ไปดักหนูหายตัวปริศนาญาติ ตร.กู้ภัยฯ ระดมค้นหาทั้งบนบกในน้ำ 2 วันไม่เจอ ล่าสุดพบเดินออกมาจากป่าอ้อยสภาพอิดโรยเชื่อลี้ลับบังตา เจ้าตัวเผยเห็นดวงไฟประหลาดลอยเข้าหาตกใจกลัววิ่งหนีเข้าป่าอ้อยหาทางออกไม่ได้ ไม่น่าเชื่อพอทำพิธีเซ่นไหว้และแก้บนตามความเชื่อไม่นานก็มีชาวบ้านเห็นเดินจากป่า ชาวบ้านเผยหลายปีก่อนก็เคยเห็นดวงไฟแบบเดียวกัน

ความคืบกรณีที่นายนิพนธ์ บุตรทอง อายุ 36 ปี ชาวบ้านโนนจันทรา ต.เมืองไผ่ อ.หนองกี่ จ.บุรีรัมย์ ได้หายตัวออกจากบ้านตั้งแต่ คืนวันที่ 21 ม.ค.67 หลังบอกกับภรรยาว่าจะออกไปหนูตามป่าและทุ่งนา กระทั่งรุ่งเช้าวันที่ 22 ม.ค.67 ภรรยาไม่เห็นสามีกลับบ้านจึงออกตามหา ก็พบเพียงกระเป๋าสะพายตกอยู่ในสระน้ำด้านทิศตะวันตกของหมู่บ้านโนนจันทรา และรถจักรยานยนต์ซาเล้งจอดอยู่ริมสระ จึงสันนิษฐานว่านายนิพนธ์ อาจจะพลัดตกน้ำเสียชีวิตหรือไม่ จึงได้ประสานหน่วยกู้ภัยหนองกี่ กู้ภัยตำรวจทางหลวงบุรีรัมย์ และชุดประดาน้ำมูลนิธิกู้ภัยสว่างจรรยาธรรมบุรีรัมย์ ร่วมค้นหาในสระน้ำที่พบกระเป๋าลอยอยู่จนถึงเที่ยงคืนแต่ก็ไม่เจอจึงถอดกำลัง จากนั้นวันที่ 23 ม.ค. ทั้งกู้ภัยฯ และชาวบ้านก็เริ่มภารกิจค้นหาทั้งในน้ำ และเดินเท้าหาตามป่า ทุ่งนาใกล้จุดที่พบรถ จยย.จอดอยู่ ซึ่งก็ได้ค้นทั้งตลอด 2 วันแต่ก็ไม่เจอ

ขณะที่ทางครอบครัวก็ได้หันพึ่งสิ่งศักดิ์สิทธิ์ด้วยการบนบานสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ปู่ตาประจำหมู่บ้านตามความเชื่อ เพื่อให้เห็นตัวนายนิพนธ์ ที่หายตัวไปอย่างเป็นปริศนา กระทั่งช่วงเช้าวันนี้ (24 ม.ค.67) ทางครอบครัวและชาวบ้านก็ได้พากันนำหัวหมู อาหารคาวหวาน และเครื่องเซ่นไหว้ ไปทำพิธีเซ่นไหว้และแก้บนหลังจากที่บนเอาไว้ก่อนหน้านี้ ซึ่งหลังจากทำพิธีเสร็จไม่นานก็มีคนโทรศัพท์มาแจ้งว่าเห็นนายนิพนธ์ เดินออกมาจากป่าอ้อยฝั่งทิศตะวันออกของหมู่บ้าน ซึ่งห่างจากจุดที่หายไปราว 3 กิโลเมตรในสภาพอิดโรย ต่างก็ดีใจและขนลุก เพราะบางคนก็เชื่อว่าที่หาตัวนายนิพนธ์ ไม่เจอเพราะอาจจะมีสิ่งลี้ลับที่พิสูจน์ไม่ได้และมองไม่เห็นบังตาเอาไว้ แต่เมื่อทำพิธีเซ่นไหว้หรือแก้บนแล้ว ตัวนายนิพนธ์ ก็ออกมาเอง

หลังจากที่แม่และภรรยาเห็นนายนิพนธ์ กลับมาถึงบ้านอย่างปลอดภัยก็สวมกอดด้วยความดีใจ จากนั้นทั้งญาติพี่น้องและชาวบ้านต่างก็พากันนำสายสิญจน์ไปผูกแขนเรียกขวัญให้กับนายนิพนธ์ ที่รอดชีวิตกลับมา ซึ่งหน่วยกู้ภัยหนองกี่ ได้พาผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปดูจุดที่ชาวบ้านพบนายนิพนธ์ เดินออกมาจากป่าอ้อย พบเป็นป่าอ้อยค่อนข้างรกทึบ ใกล้ป่าอ้อยก็จะมีสระน้ำ และรอยก่อกองไฟด้วย

จากการสอบถามนายนิพนธ์ ก็เล่าให้ฟังว่า คืนวันที่ 21 ม.ค.ได้ออกไปหาดักหนูตามปกติ แล้วบังเอิญไปเจอเพื่อนที่หาดักหนูด้วยกัน ก็ชวนกันนั่งดื่มเหล้าที่กระท่อมประมาณ 4 – 5 คน ถึงประมาณตี 4 ก็แยกย้ายกันตนก็เดินย้อนกลับมาจุดที่จอด จยย.พ่วงข้างเอาไว้ แต่ระหว่างทางมองเห็นดวงไฟสีลูกกลมๆ ขนาดเท่ากำปั้นมีสีแดงและสีส้ม ลอยเข้ามาหาห่างจากตัวประมาณ 20 เมตร ก็ตกใจมากจึงวิ่งหนีเข้าไปหลบในป่าอ้อย พอตอนเช้าก็พยายามหาทางออกแต่ก็หาไม่เจอจึงนอนอยู่ในป่าอ้อยก็กินอ้อยประทังความหิว ส่วนที่มีคนมาตามหาตนก็ไม่เห็นและไม่ได้ยินเสียงใครเลย ก็ไม่รู้ว่าเพราะสิ่งลี้ลับหรืออะไรบอกไม่ถูก และไม่รู้ว่าดวงไฟที่เห็นนั้นเป็นอะไร กระทั่งจู่ๆ ก็เหมือนมีอะไรดลใจให้เดินออกมาจากป่าอ้อยจนมีชาวบ้านมาเจอ ก็ดีใจที่ได้กลับมาอยู่กับครอบครัวอีกครั้ง หลังจากนี้ก็ไม่กล้าออกไปหาหนูกลางคืนคนเดียว

ด้าน น.ส.บังอร ภรรยา นายนิพนธ์ บอกว่า หลังจากตามหา 2 วันไม่เจอ วันนี้ทางครอบครัวจึงนำหัวหมูไปเซ่นไหว้และแก้บนตามความเชื่อที่บนเอาไว้ก่อนหน้านี้ ก็ไม่น่าเชื่อว่าพอทำพิธีเสร็จแล้วก็มีชาวบ้านไปเจอสามีเดินออกมาจากป่าอ้อย ส่วนตัวไม่รู้ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นจะเกี่ยวกับสิ่งลี้ลับอะไรหรือไม่แต่ดีใจที่สามีรอดชีวิตกลับมาอยู่กับครอบครัว แม้สิ่งลี้ลับบางอย่างจะพิสูจน์ไม่ได้แต่ในสถานการณ์แบบนี้ครอบครัวก็ทำทุกทางเพื่อให้เจอสามี ก็ขอบคุณทุกคนทุกหน่วยงานที่ช่วยตามหา

ขณะที่นางณัฐกานต์ อายุ 50 ปี ชาวบ้านในหมู่บ้าน บอกว่า จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นส่วนตัวก็เชื่อเรื่องสิ่งลี้ลับว่ามีจริงแม้จะมองไม่เห็นและพิสูจน์ไม่ได้ เพราะเรื่องแบบนี้ใครไม่เจอกับตัวก็คงไม่รู้ ส่วนที่นายนิพนธ์ บอกว่าเห็นดวงไฟประหลาดแล้วตกใจวิ่งหนีนั้น ตนก็ไม่รู้ว่าคืออะไร แต่เมื่อหลายปีก่อนตนก็เคยเห็นตัวอะไรบางอย่างที่เป็นสีแดงตอนกลางคืน ก็ไม่รู้ว่าเป็นอะไร แต่ทุกวันนี้ไม่เห็นแล้ว เรื่องแบบนี้ก็เป็นความเชื่อส่วนตัวต้องเจอกับตัวเองถึงจะเชื่อ