ข่าวสังคม

เสี่ยใหญ่เมืองอุดร “เสี่ยปรีชา” ควงภรรยาออกแจกอั่งเปา 1 หมื่นซอง 2 ล้านบาทเ เผยเศรษฐกิจปีนี้ดีขึ้น

เมื่อเวลา 09.00 น.วันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2567 ที่หน้าบ้านสำลีเงิน เลขที่ 559 ถนนนิตโย เขตเทศบาลนครอุดรธานี ได้มีประชาชนนับหมื่นคน มาเข้าแถวรับซองอั่งเปาจาก “เสี่ยปรีชา” นายปรีชา ชัยรัตน์ อายุ 74 ปี คหบดีใจบุญ เจ้าของโรงงานน้ำตาลเริ่มอุดม และอสังหริมทรัพย์ ในจ.อุดรธานี พร้อมด้วยนางสรรค์นรา ชัยรัตน์ ภริยา และ นายประชา ชัยรัตน์ “เสี่ยประชา” น้องชาย ของ “เสี่ยปรีชา” โดยมีตำรวจและทหาร มาช่วยจัดระเบียบและดูแลความเรียบร้อย นอกจากนี้ยังมีการแจกเสื้อยืดสีแดงลายมังกรทอง 1 หมื่นตัว ตรุษจีนปีนี้ ให้ผู้ที่มาเข้าแถวรอรับแจกอั่งเปาด้วย ซึ่งมีตำรวจและทหาร มาช่วยจัดระเบียบและดูแลความเรียบร้อย

หลังจากเสี่ยปรีชา และญาติพี่น้อง ลูกหลาน ได้ทำพิธีไหว้บรรพบุรุษเสร็จแล้ว “เสี่ยปรีชา”ได้ให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชน เริ่มจากการอวยพร เนื่องในวันตรุษจีนว่า ตรุษจีนปีนี้เป็นปีงูใหญ่ หรือปีมังกร ขออำนวยอวยพรทุกท่าน มีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง ผ่านพ้นอุปสรรคต่างที่เกิดขึ้น มีความสมหวังทุกประการ ขอให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ในสากลโลก ช่วยดลบันดาลให้มีความสุขความเจริญ

“เสี่ยปรีชา” กล่าวต่อไปว่า ส่วนสภาพเศรษฐกิจในปีนี้ “เสี่ยปรีชา” ขอพูดในฐานะประชาชนว่าโดยทั่วไปเศรษฐกิจปีนี้ไม่เลวร้ายเหมือนปีที่ผ่านมา รวมทั้งปีที่มีโควิดด้วย และการแจกอั่งเปาปีนี้มี คนมาเท่าไหร่ก็จะดำเนินการเท่านั้น ซึ่งตนก็เตรียมตัวมาดี ปีนี้เตรียมซองไว้ 1 หมื่นซอง 2 ล้านบาท และมีการแจกเสื้อมังกรทองด้วย 1 หมื่นตัว ใครที่มารับอั่งเปาก็ได้เสื้อไปด้วย ส่วนซองอั่งเปานั้นถ้าหมดก็เตรียมไว้เพิ่มอีก จนกว่าคนที่มารับจะหมดไป คือให้กับทุกคนที่มาในวันนี้

“สาเหตุที่แจกอั่งเปาต่อเนื่องทุกปี เพราะเป็นสิ่งที่ทำได้ ทำแล้วไม่มีความทุกข์ก็ทำไป พอถึงอายุ 80 ปี ก็คงไม่รู้เรื่องแล้ว เราก็ทำไปเท่าที่ทำได้ ไม่สร้างความลำบากให้ใคร แค่นั้นก็เป็นสิ่งที่เราพอใจแล้ว วันที่เราจากไป ขออย่างเดียวว่า ขออย่าเจ็บไข้ได้ป่วย ถ้าจะจากไปก็ให้จากไปอย่างสงบ แค่นั้นก็พอแล้ว ”

นอกจากนั้น “เสี่ยปรีชา” ยังได้เล่าถึงจุดกำเนิดในการแจกอั่งเปาว่า เริ่มแรกมาจากสามล้อ ซึ่งเล่าให้ตนฟังว่า ขี่สามล้อตั้งแต่ตี 4 ตี 5 ไม่รู้ว่าจะได้ผู้โดยสารตอนไหน ค่าน้ำมันก็ต้องเสีย แต่ถ้ามารับอั่งเปาที่นี่ได้แน่นอน 200 บาท ขอให้อดทนรอให้ตนไหว้พ่อแม่ให้จบ ได้แน่นอนเพราะตนไม่เคยปฏิเสธ คนมารับอั่งเปา มาเท่าไหร่ก็ให้เท่านั้น

หลังจากที่ “เสี่ยปรีชา” ทำธุระเสร็จแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจและทหารที่มาช่วย ก็ได้เปิดประตูด้านตะวันตกให้ประชาชนที่เข้าแถวรออยู่หน้าบ้าน เดินเข้ามารับอั่งเปาภายในบ้าน โดยมี “เสี่ยปรีชา” และ “เสี่ยประชา” น้องชาย นั่งแจกซองอั่งเปา ซึ่งทุกคนที่ได้รับต่างยิ้มแย้มแจ่มใส เมื่อได้ได้รับซองอั่งเปาแล้วก็เดินออกจากบ้านประตูด้านตะวันออก

นายปรีชา สิงห์นันท์ อายุ 70 ปี ประชาชนที่เดินทางมารับอั่งเปา กล่าวว่า ตนพึ่งมารับอั่งเปาเป็นปีแรก เมื่อเดินทางมาถึงหน้าบ้านสำลีเงิน ตนเห็นประชาชนจำนวนมาก ก็รู้สึกถอดใจ แต่ก็ตัดสินใจเข้ามารับ โดยอดทนเข้าแถวรอ เมื่อได้รับอั่งเอาก็รู้สึกดีใจ เงินที่ได้ 200 บาท ตนจะเก็บไว้เป็นขวัญถุง เพราะเป็นเงินของเศรษฐีใจบุญ เหมือนเทวดา และขออวยพรให้เสี่ยปรีชา มีสุขภาพแข็งแรง อยู่เป็นร่มโพธิ์ร่มโทร ให้กับประชาชนคนรากหญ้าไปนานๆ

ส่วนนางอัมพร แสนสุข อายุ 74 ปี กล่าวว่า ตนและสามีอาศัยอยู่บ้านเช่า ตนและสามีจะ มารับอั่งเปาทุกปี ดีใจที่เสี่ยแจกเงินคนยากจน มีเมตตาต่อคนยากไร้ และไร้ญาติ ขอบคุณที่แจก ขอให้เสี่ยมีความสุข ความเจริญก้าวหน้า เงินที่ได้ตนเอาไปซื้อข้าวกินได้ 2-3 วัน เพราะประหยัดกินประหยัดใช้ และเอาไปทำบุญ

นาย จาม ฤทธิ์เดช อายุ 53 ปี ที่พิการขาข้างขวา เป็นอัมพฤษ ราชฎรชาวบ้านถ่อน อ.เมืองอุดรธานี กล่าวว่าเดิมตนมีอาชีพขับรถสายแม่สอด-กรุงเทพ แล้วเกิดขาไม่มีแรงแล้วเกิดพิการ จึงมาอยู่กับลูกสาวที่อุดรานี 20 ปีแล้ว วันนี้ได้รับข่าวจากเพื่อนบ้านว่า “เสี่ยปรีชา” จากอั่งเปาให้กับคนที่ยากไร้ จึงได้อาศัยเพื่อนมารับการแจกด้วย ก็ขอขอบคุณที่ท่านได้แจก ขอให้เสี่ยได้มีความสุข ความเจริญก้าวหน้ายิ่งขึ้นๆ ไป ส่วนเงินตนก็เอาไว้ใช้ซื้ออาหารกิน