เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 18 เมษายน 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังจากการฉลองเทศกาลสงกรานต์เสร็จสิ้น ซึ่งประชาชนได้ใช้เงินไปกับการไปเยี่ยมบ้านและท่องเที่ยวเป็นจำนวนมาก ทำให้มีประชาชนนำสิ่งของมีค่าไปจำนำที่โรงรับจำนำต่างๆ ในพื้นที่ จ.ขอนแก่น กันอย่างเนืองแน่น เพื่อนำเงินไปใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน
โดยเฉพาะที่สถานธนานุบาลเทศบาลนครขอนแก่น 1 ถนนรอบเมือง เขตเทศบาลนครขอนแก่น มีประชาชนนำของมีค่ามาจำนำกันอย่างคึกคัก โดยพบว่าสิ่งของที่ประชาชนนำมาจำนำส่วนใหญ่จะเป็นทองรูปพรรณ และทองคำแท่ง เนื่องจากช่วงนี้ราคาทองคำพุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้หลายคนตัดสินใจนำทองคำมาจำนำ เพราะได้ราคาดีกว่าของมีค่าอื่นๆ นอกจากนี้ยังมีของมีค่าชนิดอื่นๆ ที่ประชาชนนิยมนำมาจำนำ อาทิ เครื่องมือช่าง, เครื่องใช้ไฟฟ้า, เป็นต้น
น.ส.ปิยะดา วงศ์ละคร ผู้จัดการสถานธนานุบาลเทศบาลนครขอนแก่น 1 เปิดเผยว่า วันนี้เปิดทำการเป็นวันที่สองช่วงหลังฉลองเทศกาลสงกรานต์ โดยในวันแรก มีประชาชนให้ความสนใจนำสิ่งของมีค่ามาจำนำที่สถานธนานุบาลฯ กันอย่างคึกคักกว่าช่วงปกติ ซึ่งของมีค่าที่ประชาชนนำมาจำนำมากที่สุด จะเป็นทองรูปพรรณ เช่น สร้อยคอทองคำ, แหวน, กำไลข้อมือ, และทองคำแท่ง เป็นต้น เนื่องจากช่วงนี้ราคาทองคำพุ่งสูงขึ้นมากกว่าบาทละ 41,000 บาท ทำให้ประชาชนส่วนใหญ่ยังเสียดายที่จะนำไปขาย เพราะราคาทองคำมีท่าทีว่าจะปรับราคาขึ้นต่อเนื่อง จึงได้นำทองคำมาจำนำกันเป็นจำนวนมาก
โดยเมื่อวานที่ผ่านมา (17 เม.ย.67) ซึ่งเปิดทำการวันแรก มีผู้นำทองคำมาจำนำและเครื่องมือช่างและอุปกรณ์ไฟฟ้าจำนวนกว่า 158 รายเป็นเงินกว่า 4 ล้านบาท ส่วนผู้ที่มาไถ่ทองคำไปนั้น ค่อนข้างมีจำนวนน้อยจำนวน 150 ราย เป็นเงินกว่า 3 ล้านบาท
ทั้งนี้สถานธนานุบาลเทศบาลนคขอนแก่น 1 ได้เตรียมเงินทุนสำรองไว้กว่า 137 ล้านบาท เพื่อรองรับความต้องการของประชาชนอย่างทั่วถึง พร้อมกันนี้ยังคิดอัตราดอกเบี้ยต่ำไปจนถึงสิ้นปี 2567 โดยเงินต้นไม่เกิน 5,000 บาท คิดดอกเบี้ยร้อยละ 50 สตางค์ ส่วนเงินต้นตั้งแต่ 5,001-30,000 บาท คิดดอกเบี้ยร้อยละ 1 บาท จึงมีประชาชนให้ความสนใจนำสิ่งของมีค่ามาจำนำเป็นจำนวนมาก