ข่าวสังคม

บุรีรัมย์ เปิดคลิปนาทีระทึกพายุถล่ม ร.ร.หนักสุดรอบ 30 ปีอาคารเรียนบ้านครูโรงอาหารพังยับสะเทือนใจพระพุทธถูกพัดคอขาด

คลิปนาทีระทึกพายุฤดูร้อนถล่ม ร.ร.หนองย่างหมู จ.บุรีรัมย์ หนักสุดรอบ 30 ปี อาคารเรียน บ้านพักครู โรงอาหาร สนามบาสพังยับ ครูเผยสะเทือนใจพระบรมรูปหล่อในหลวงรัชกาลที่ 6 และพระพุทธรูปปางประทานพร ที่สร้างเป็นอนุสรณ์สถานหน้าเสาธง ร.ร.ถูกพัดพังเสียหาย เคราะห์ดีเป็นช่วงปิดเทอมไม่มี นร.บาดเจ็บ เร่งสำรวจความเสียหายรายงานต้นสังกัดเพื่อเร่งจัดงบซ่อมแซมก่อนเปิดเทอม

(21 เม.ย.67) นางสาวอ้อยทิพย์ โอฬาสาตร์ รักษาการผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านหนองย่างหมู ตำบลเมืองฝ้าย อำเภอหนองหงส์ จังหวัดบุรีรัมย์ ได้ตรวจสอบสภาพอาคารเรียน บ้านพักครู โรงอาหารเด็กนักเรียน อาคารประกอบอาหาร อาคารสำนักงานครู สนามบาส รวมถึงพระบรมรูปหล่อในหลวงรัชกาลที่ 6 และพระพุทธรูปปางประทานพร ที่สร้างเป็นอนุสรณ์สถานไว้บริเวณหน้าเสาธง หลังจากได้ถูกพายุฤดูร้อนพัดถล่มได้รับความเสียหาย เมื่อช่วงเย็นวันที่ 19 เม.ย.67 ที่ผ่านมา ซึ่งกล้องวงจรปิดของทางโรงเรียนที่ติดตั้งไว้สามารถบันทึกภาพขณะพายุพัดโรงอาหาร และจุดต่างๆ ภายในโรงเรียนได้อย่างชัดเจน ซึ่งในวงจรปิดจะเห็นความแรงของลมพายุที่เกิดขึ้นซึ่งน่ากลัวมาก ซึ่งแรงลมพายุพัดประมาณ 10 นาที แต่สร้างความเสียหายจำนวนมาก นอกจากนี้ยังมีบ้านเรือนราษฎรในหมู่บ้านถูกพายุพัดพังเสียหายอีก 7 หลัง

รักษาการผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านหนองย่างหมู บอกว่า จากการสำรวจเบื้องต้น พบว่า อาคารเรียนถูกพายุพัดถล่มกระเบื้องหลังคาแตกเสียหาย บ้านพักครูทั้งหลังคากระเบื้องกระจกหน้าต่างแตกเสียหายหลายบาน ส่วนอาคารสำนักงานครูลมพัดหลังคากระเบื้องแตกทับฝ่าเพดานพังเสียหายหวิดถล่มลงมา แป้นบาสก็พังเสียหาย เคราะห์ที่ช่วงนี้ปิดภาคเรียนจึงไม่มีนักเรียนได้รับบาดเจ็บ ส่วนเด็กที่มาเล่นบาสที่สนามก็กลับบ้านไปก่อนจะเกิดเหตุ แต่ที่รู้สึกสะเทือนใจ คือ พระบรมรูปหล่อในหลวงรัชกาลที่ 6 และพระพุทธรูปปางประทานพร ที่สร้างไว้เป็นอนุสรณ์สถาน และกราบไหว้ ถูกพายุพัดจนแตกหักเสียหายและคอขาดทั้ง 2 องค์ ซึ่งในช่วงเกิดเหตุตนเองก็เพิ่งออกจากอาคารสำนักงานครู กลับไปที่บ้านพักครูได้ไม่นานก็เกิดอายุถล่มแบบไม่มีสัญญาณบ่งบอกล่วงหน้าเลยตอนนั้นลมแรงมากจนไม่สามารถเปิดประตูได้ ซึ่งครั้งนี้ถือว่ารุนแรงสุดในรอบ 30 ปี ซึ่งทางโรงเรียนก็จะได้เร่งสำรวจรายงานให้ทางผู้บังคับบัญชาและต้นสังกัดทราบ เพื่อจะได้พิจารณาจัดสรรงบประมาณมาดำเนินการซ่อมแซมก่อนจะเปิดภาคเรียน เพราะบางจุดหากไม่ซ่อมแซมจะเสี่ยงอันตรายทั้งกับเด็กนักเรียนและครูผู้สอน

ด้านนางสากร สุดสายเนตร อายุ 65 ปี อดีตข้าราชการครูเกษียณ ที่มีบ้านติดอยู่กับรั้วโรงเรียน เล่าว่า ช่วงเย็นวันเกิดเหตุตนอยู่ในบ้านแต่พายุลมแรงน่ากลัวมาก จนไม่กล้าออกมาเพราะได้ยินเสียงดังสนั่น ตอนที่อยู่ในบ้านไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง พออีกวันมาดูถึงเห็นสภาพอาคารเรียน บ้านพักครู และจุดต่างๆ ในโรงเรียนได้รับความเสียหาย ที่ผ่านมาในหมู่บ้านก็เคยเกิดพายุพัดถล่ม แต่ไม่หนักเท่าครั้งนี้
สุรชัย พิรักษา / บุรีรัมย์