ข่าวสังคม

คนเมืองน้ำดำถวายฎีกาค้านปลดเจ้าคณะจังหวัดยอดใกล้แตะแสน

ยอดใกล้แตะ 1 แสนพระป่า-คนเมืองน้ำดำ และสาธุชนทุกสารทิศลงชื่อถวายฎีกาคัดค้านปลดเจ้าคณะจังหวัดกาฬสินธุ์(ธรรมยุต) พร้อมสวดมนต์ถวายกำลังใจเจ้าคุณบัวศรี เฝ้ารอ มส.ให้ความเป็นธรรมหลังญาติธรรมถวายฎีกาแล้ววันนี้

จากกรณีมหาเถรสมาคม มีคำสั่งแต่งตั้งพระสังฆาธิการ  และถอดถอนเจ้าคณะจังหวัด 3 รูป  โดยปรากฏทางสื่อโชเชียล เมื่อวันที่ 30 กันยายน 2564 ซึ่งหนึ่งในนั้นมีพระเทพสารเมธี เจ้าคณะจังหวัดกาฬสินธุ์ (ธ) รวมอยู่ด้วย ผลดังกล่าวทำให้คณะสงฆ์จังหวัดกาฬสินธุ์(ธ) และ ญาติธรรมเคลื่อนไหวมีมติคัดค้านทันทีเพราะมองว่าไม่เป็นธรรม และมีการล่ารายชื่อหนึ่งแสนเพื่อถวายฎีกาต่อในหลวงรัชกาลที่ 10 รายงานยังระบุด้วยว่า สมเด็จชิน เลขานุการสมเด็จพระสังฆราช ปฏิเสธว่าไม่รู้ว่ามีคำสั่งปลดพระสังฆาธิการทั้งสามรูป ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ล่าสุดเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่วัดประชานิยม เขตเทศบาลเมืองกาฬสินธุ์ อำเภอเมืองกาฬสินธุ์ จังหวัดกาฬสินธุ์ ศิษยานุศิษย์ของพระเทพสารเมธี เจ้าคณะจังหวัดกาฬสินธุ์ (ธ) ยังคงเดินทางเข้ามาถวายภัตตาหารเช้าและร่วมกันปฏิบัติธรรมสวดมนต์ตามปกติ ซึ่ง เจ้าคุณบัวศรี หรือพระเทพสารเมธี ก็ลงมาฉันเช้าตามปกติ ท่ามกลางการเฝ้ารออย่างใจจดใจจ่อที่เชื่อว่า มส.จะทบทวน ปัญหาและจะให้ความเป็นธรรม กับ เจ้าคุณบัวศรี

ทั้งนี้การตั้งโต๊ะเพื่อรวบรวมรายชื่อคัดค้านก็ยังคงมีการดำเนินการต่อไป ภายในวัดประชานิยมและตามวัดต่างๆ ในสายธรรมยุต ทั้งในจังหวัดและหลายจังหวัดทางภาคอีสาน ที่เป็นสายครูบาอาจารย์ รวมไปถึงในโลกออนไลน์ ที่มีรายงานว่ายอดการลงทะเบียนใกล้แตะหนึ่งแสนรายชื่อแล้ว มีรายงานแจ้งว่า ถึงแม้ประชาชนจะทราบว่าวันนี้คณะญาติธรรม ได้เดินทางไปยื่นหนังสือต่อ คณะกรรมาธิการศาสนาและวัฒนธรรม สภาผู้แทนราษฎร และยังได้ถวายฎีกาที่สำนักพระราชวังถึงพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ

ด้านนางสาวสุขใข อายุวัฒน์ อายุ 78 ปี บ้านเลขที่ 11/3 ถนนเนื่องประดิษฐ์ ต.ในเมือง จ.ร้อยเอ็ด ซึ่งได้เดินทางมาถวายภัตตาหารเช้าในวันนี้ กล่าวว่า การปลดพระเทพสารเมธีตามมติของ มส.นั้นถือว่าไม่เป็นธรรมต่อ เจ้าคุณบัวศรี และศิษยานุศิษย์ของเจ้าคุณบัวศรี เพราะไม่มีคำตอบ ว่าปลดท่านเรื่องอะไร ไม่มีคำอธิบายด้วยเหตุผล ส่วนตัวเห็นว่าเป็นการทำลายบารมีของเจ้าคุณบัวศรีที่ได้สร้างคุณูประโยนช์ให้กับคณะสงฆ์และพุทธศาสนิกชนที่นับถือในคุณงามความดีของท่าน เป็นการทำลายศักดิ์ศรีของคนกาฬสินธุ์ คนอีสาน และก็จะรอฟังคำตอบว่าทาง มส. จะแก้ไขปัญหานี้อย่างไร

อย่างไรก็ตามรายงานแจ้งว่าหลังจากที่คณะญาติธรรมได้เดินทางไปยื่นหนังสือต่อคณะกรรมาธิการศาสนาและวัฒนธรรม สภาผู้แทนราษฎร และ ได้ยื่นหนังสือถวายฎีกาเพื่อขอความเป็นธรรมต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ก็ทำให้บรรยากาศเริ่มสงบลง แต่จะมีการเดินทางมาลงรายชื่อและทำวัดสวดมนต์ เพื่อถวายกำลังใจแด่เจ้าคุณบัวศรีในทุกวัน เพื่อเฝ้ารอกระบวนการแก้ไขปัญหาจากกรรมการมหาเถรสมาคม ที่คาดหวังว่าจะมีความชัดเจนในทุกคำตอบ รวมไปถึงจะต้องมีการตรวจสอบให้ชัดเจนว่าใครเป็นผู้นำรายชื่อไปสอดไส้ในการประชุมที่ต่างพากันวิจารณ์ว่าหากสมเด็จชินอ้างไม่รู้ ก็จะต้องสอบถามไปยังสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ สำนักนายกรัฐมนตรี ที่จะต้องมีคำตอบต่อไป ในส่วนของคณะสงฆ์พระสายป่าหรือธรรมยุติก็ยังคงติดตามการแก้ไขนี้เช่นกัน