ข่าวสังคม

“พระเล็ก” เดินหน้าตั้งเลขานุการฯยึดปกครองสงฆ์กาฬสินธุ์ ขณะ“คนกาสิน”ยกระดับ ขอนิมนต์พระเล็กลาออก เพื่อหยุดวิกฤติศรัทธา-สังฆเภท ลั่นจะปกป้องพ่อแม่ครูอาจารย์ด้วยชีวิต

ป้ายต่อต้าน “พระเล็ก” ยกระดับรุนแรง คนกาสิน ประกาศจะปกป้องพ่อแม่ครูอาจารย์ด้วยชีวิต เชื่อมาเมื่อไหร่เกิดเหตุวิกฤติศรัทธารุนแรง แนะให้ลาออกเพื่อหยุดสังฆเภทในทุกปัญหา ขณะที่มีข่าวลือเจ้าอาวาสวัดนทีศิลาวาส ในเขตตำบลภูดิน อำเภอเมืองกาฬสินธุ์ ได้รับการทาบทามเป็น เลขานุการเจ้าคณะจังหวัดกาฬสินธุ์(ธ) พร้อมเดินหน้าปกครองคณะสงฆ์กาฬสินธุ์แล้ว

เมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานกระแสการเคลื่อนไหว ที่ไม่สนใจเสียงคนกาฬสินธุ์ ที่ต่อต้าน พระครูสุทธิญาณโสภณ (เล็ก สุทธิญาโณ) เจ้าคณะอำเภอสังคม จ.หนองคาย ซึ่งกำลังหาวิธีเข้ามาบริหารปกครอง คณะสงฆ์สายธรรมยุตินิกาย กลายเป็นประเด็นร้อนแรงในพื้นที่ขึ้นมาทันที หลังจากที่ “พระเล็ก” ปรากฏตัวเข้าไปกราบ เจ้าคุณหลวงปู่หา หรือ พระเทพมงคลมุนี เจ้าอาวาสวัดป่าสักกาะวัน ไดโนเสาร์ อายุ 97 ปี ในเขตอำเภอสหัสขันธ์ เมื่อช่วงบ่ายของ วันที่ 19 พฤจิกายน ที่ผ่านมา ทำให้บรรดาพุทธศาสนิกชนในจังหวัดไม่สบายใจอย่างมาก เพราะเชื่อแน่ว่า “พระเล็ก” มีทิฐิ ไม่ปล่อยวางและต้องการที่จะเข้ามาปกครองสงฆ์ ทั้งที่ชาวพุทธกาฬสินธุ์ ไม่ต้อนรับเนื่องจากชาวพุทธเห็นว่าเป็นการได้มาซึ่งตำแหน่งเจ้าคณะจังหวัดกาฬสินธุ์(ธ) ที่ไม่สง่างาม ผิดจารีตประเพณี ผิดธรรมเนียมปฎิบัติของพระสายกรรมฐาน ผิดกฏมหาเถรสมาคม และผิด พ.ร.บ.สงฆ์ฯ และรวมไปถึงผิดกระบวนการทางปกครองทางสงฆ์ที่เอา เจ้าคณะอำเภอสังคม ที่อยู่ในภาค 8 มาเป็น เจ้าคณะจังหวัดกาฬสินธุ์ ที่อยู่ในภาค 9 ทำให้เกิดปัญหาสังฆเภท

นางบัวแก้ว ภูครองเชิง อายุ 61 ปี เลขที่ 59 ถนนอนรรคนาค เขตเทศบาลเมืองกาฬสินธุ์ กล่าวว่า ตนได้ติดตามข่าวนี้ตั้งแต่มีคำสั่งปลดเจ้าคุณบัวศรี เชื่อว่าคนกาฬสินธุ์ไม่มีใครเห็นด้วยกับคำสั่งนี้อย่างแน่นอนแม้จะมีพระบัญชา เพราะกรณีนี้เชื่อว่าเป็นการ “สอดไส้” แม้ว่า “พระเล็ก” จะปรากฏตัวเพื่อไปกราบ เจ้าคุณหลวงปู่หา จึงเหมือนเป็นการสร้างภาพ ที่จะหาความชอบธรรมเพื่อเข้ามา บริหารคณะสงฆ์กาฬสินธุ์เท่านั้น

“สิ่งที่ตนไม่เข้าใจก็คือ ทำไม พระเล็ก ถึงไม่ปล่อยวาง ทั้งที่เป็นพระสายกรรมฐานยิ่งต้องปล่อยวางส่วนตัวเท่าที่สอบถามกับญาติธรรมด้วยกัน คนกาฬสินธุ์ ไม่มีใครเคยรู้จักหรือเคยทำบุญใส่บาตรพระเล็กแม้แต่คนเดียว ดังนั้นส่วนตัวจึงไม่อยากที่จะต้อนรับพระเล็ก เพราะมาโดยไม่ชอบธรรม แต่หากมาในช่วงที่ เจ้าคุณบัวศรีเกษียญแล้ว ก็ยังมีพระผู้ใหญ่ที่จะเป็นแทนกันได้หรือจะมาแบบนี้ก็ยังพอรับได้แต่มาแบบมีการปลดเจ้าคณะบัวศรีนั้นรับไม่ได้ จึงขอนิมนต์ให้พระครูเล็กกลับไปอยู่ที่วัดของท่านจะดีที่สุด”

นางบัวแก้ว กล่าวต่อว่า หากพระเล็กมาที่กาฬสินธุ์จริงถ้ามีโอกาสก็จะเข้าไปถามว่า ใครนิมนต์ให้ท่าานพระเล็กมาอยู่ที่นี่ เพราะรู้สึกว่าเมื่อท่านมาได้ทำให้พระสงฆ์กาฬสินธุ์แตกแยกกัน ไม่ได้รวมกลุ่มเหมือนเดิม เพื่อเป็นการยุติปัญหานี้ทั้งหมดก็อยากจะกราบขอร้องให้ “พระเล็ก” ลาออกจากตำแหน่งเจ้าคณะจังหวัดกาฬสินธุ์ ไม่ต้องเข้ามาที่กาฬสินธุ์ “ท่านพระเล็ก” จะไปไหนก็ขอนิมนต์ให้ท่านพระเล็กไปอยู่จังหวัดอื่นจะดีกว่า เพราะขนาดนี้ “พระเล็ก” ยังหาวัดอยู่ไม่ได้จะมาปกครองพระสงฆ์กาฬสินธุ์ ได้อย่างไร อีกทั้งพี่น้องคนกาฬสินธุ์ ก็ไม่ยอมรับท่านพระเล็ก ท่านยังจะกล้าเข้ามากาฬสินธุ์อีกหรื๋อ

ขณะที่ป้ายการต่อต้านเริ่มยกระดับตัวอักษรที่เริ่มรุนแรงขึ้น แสดงออกถึงอารมณ์ของประชาชนที่ไม่ต้องการ “พระเล็ก” ล่าสุดพบมีการติดป้ายที่ริมถนนหลวงทางเข้า บ้านเล้า-บ้านโปโล ต.หลักเมือง อ.กมลาไสย จ.กาฬสินธุ์ มีการปักป้ายต่อต้าน ถึง 4 ป้าย เรียงรายตามถนน ที่มีข้อความยกระดับว่า “มส.พศ.ตั้งพระเล็ก=สังฆเภท หยุดทำลายสงฆ์” ,”มติสอดไส้ ทำร้ายจิตใจคนกาสินพระเล็ก=สังฆเภท” หรือแม้แต่ “เราขอปกป้องพ่อแม่ครูอาจารย์ด้วยชีวิต พระเล็ก=สังฆเภท”และป้ายที่เขียนว่า “หยุดทำหินแตก หยุดแยกศรัทธา หยุดเถอะพระเล็ก”

ส่วนความเคลื่อนไหวที่ไม่สนใจเสียงต่อต้านนั้น มีรายงานว่า “พระเล็ก” พร้อม รปภ. มีความพยามที่จะเข้าหาพระผู้ใหญ่ โดยเฉพาะ หลวงพ่อเจ้าคุณแผน รองเจ้าคณะจังหวัดกาฬสินธุ์ ที่อยู่ในเขตอำเภอสมเด็จแต่ก็ไม่พบ ซึ่งในทางบริหาร เจ้าคณะจังหวัดกาฬสินธุ์ จำเป็นที่จะต้องมี พระผู้ทำหน้าที่เลขานุการเจ้าคณะจังหวัด จึงมีข่าวลือว่า มีการทาบทาม พระครูพิพัฒน์ ปุญโญวาส วัดนทีศิลาวาส ที่บ้านพักสุขใจ ต.ภูดิน อ.เมืองกาฬสินธุ์ จ.กาฬสินธุ์ มาดำรงตำแหน่งเลขานุการเจ้าคณะจังหวัดกาฬสินธุ์ โดยไม่สนเสียงคัดค้าน เนื่องจากจะครบ 30 วัน ในวันที่ 23 พฤศจิกายนนี้ หากไม่มีวัดเข้าพื้นที่ไม่ได้ก็จะเป็นการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ตามตำแหน่งเจ้าคณะจังหวัด ซึ่งเป็นเจ้าพนักงานของรัฐเช่นกัน ทำให้ญาติธรรมเคลื่อนไหวติดตาม ขบวนพระเล็ก ที่จะเข้าไปหาพระผู้ใหญ่ภายในกาฬสินธุ์ ซึ่งหากประชาชนรู้พิกัดการเคลื่อนไหวของ “พระเล็ก” ว่าอยู่ที่ใด ก็จะมีญาติธรรมยกระดับเข้าหา ที่อาจจะมีปัญหาถึงการขับไล่ออกจากพื้นที่จังหวัดกาฬสินธุ์ก็เป็นได้