จังหวัดยโสธรจัดงานสืบสานประเพณีสงกรานต์วิถีถิ่น วิถีไทย ร่วมสานใจสู่สากล เพื่ออนุรักษ์ สืบสานคุณค่าทางวัฒนธรรมเนื่องในประเพณีสงกรานต์ในท้องถิ่น และแสดงออกถึงวัฒนธรรมอันดีงาม พร้อมสนับสนุนประเพณีสงกรานต์ตามแนวคิด Soft Power ด้านอนุรักษ์และขับเคลื่อนเทศกาลประเพณี
เมื่อวันที่ 13 เมษายน 2566 เวลา 10.30 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ณ วัดสิงห์ท่า ตำบลในเมือง อำเภอเมืองยโสธร จังหวัดยโสธร นายวิรุจ วิชัยบุญ ผู้ว่าราชการจังหวัดยโสธร ประธานในพิธีเปิดโครงการสืบสานประเพณีสงกรานต์วิถีถิ่น วิถีไทย ร่วมสานใจสู่สากล ประจำปี พ.ศ. 2566 จังหวัดยโสธร โดยมี นางสาววาสนา ไชยพรรณา วัฒนธรรมจังหวัดยโสธร กล่าวรายงาน และมีพระครูอนุรักษ์วรดิษฐ์ เจ้าอาวาสวัดสิงห์ท่า เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ ตามที่กระทรวงวัฒนธรรม โดยกรมส่งเสริมวัฒนธรรม ได้กำหนดแนวทางและมาตรการรณรงค์เพื่อสืบสานคุณค่าทางวัฒนธรรมเนื่องในประเพณีสงกรานต์ พุทธศักราช 2566 “สืบสานสงกรานต์วิถีถิ่น วิถีไทยร่วมสานใจ สู่สากล” โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสืบสานประเพณีสงกรานต์ที่ดีงามเหมาะสมรวมทั้งการป้องกันและแก้ไขปัญหาต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นในช่วงเทศกาลสงกรานต์ รวมถึงกำหนดแนวทางการประชาสัมพันธ์และเผยแพร่ประเพณีสงกรานต์ในโอกาสที่ประเทศไทยเสนอเป็นรายการตัวแทนมรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติต่อยูเนสโกในปี พ.ศ. 2566
ในการนี้ เพื่อเป็นการสืบสานคุณค่าทางวัฒนธรรมเนื่องในประเพณีสงกรานต์พุทธศักราช 2566 และในโอกาสที่ประเทศไทยเสนอประเพณีสงกรานต์เป็นรายการตัวแทนมรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติต่อยูเนสโก ในปี พ.ศ. 2566 จังหวัดยโสธร โดยสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดยโสธร ร่วมกับสภาวัฒนธรรมจังหวัดยโสธร ภาคีเครือข่ายทางวัฒนธรรม ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน จึงได้จัดโครงการสิบสานประเพณีสงกรานต์วิถีถิ่น วิถีไทย ร่วมสานใจ สู่สากล ประจำปี พ.ศ. 2566 จังหวัดยโสธรขึ้น เป็นการรณรงค์ให้ประชาชนได้สืบสานคุณค่าสาระของประเพณีโดยมีวัตถุประสงค์เพื่ออนุรักษ์ สืบสานคุณค่าทางวัฒนธรรมเนื่องในประเพณีสงกรานต์ในท้องถิ่น และแสดงออกถึงวัฒนธรรมอันดีงาม พร้อมสนับสนุนประเพณีสงกรานต์ตามแนวคิด Soft Power ด้านอนุรักษ์และขับเคลื่อนเทศกาลประเพณี โดยมีกิจกรรมที่ดำเนินการ ประกอบด้วย พิธีทำบุญอัฐิบังสุกุลอุทิศส่วนกุศลแต่บรรพบุรุษ พิธีถวายภัตตาหารเพลแด่พระสงฆ์ การก่อเจดีย์ทราย พิธีสรงน้ำพระพุทธรูปและสรงน้ำพระสงฆ์ กิจกรรมรดน้ำขอพรผู้สูงอายุ และ การแสดงศิลปวัฒนธรรมพื้นบ้าน