ข่าวสังคม

ขอนแก่น ชาวบ้านรวมตัว ยื่นร้องต่อนายอำเภอให้ตรวจสอบกำนัน วางตัวไม่เป็นกลาง เรียกเก็บบัตรประชาชนให้ไปลงคะแนนเลือกตั้งล่วงหน้า

เมื่อเวลา 11.00 น.วันที่ 24 เมษายน 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่หน้าที่ทำการที่ว่าการอำเภอเมืองขอนแก่น นางจงกลรัตน์ แสงศรีเรือง อายุ 54 ปี อยู่บ้านเลขที่ 46/1ม.15 บ้านหินขาว ต.สาวะถี อ.เมือง จ.ขอนแก่น พร้อมด้วยชาวบ้านในพื้นที่ตำบลสาวะถี กว่า 100 คน เดินทางเข้ายื่นหนังสือร้องเรียน กับนายประจวบ รักแพทย์ อำเภอเมืองเมืองขอนแก่น ว่า กำนันตำบลสาวะถี วางตัวไม่เป็นกลางและทำผิดกฎหมาย ขอให้นายอำเภอทำการตรวจสอบ แต่นายอำเภอติดราชการ จึงมอบหมายให้ นายบัญชา สุวรรณมาโจ ปลัดอำเภอมาพบกับชาวบ้านและรับหนังสือร้องเรียนจากชาวบ้านแทน

นางจงกลรัตน์ แสงศรีเรือง อายุ 54 ปี ชาวบ้าน ต.สาวะถี กล่าวว่า การเลือกตั้งครั้งนี้ส่อไปในทางทุจริต แม้ไม่มีการจ่ายเงินให้ประชาชน แต่ตนเห็นมีชื่อแม่ของตนไปใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้าจึงได้สอบถามแม่ และแม่บอกว่าไม่รู้เรื่อง แต่มีทาง อสม.ได้มาจดชื่อไป ซึ่งมีชื่อแม่ปรากฎอยู่ในหน่วยเลือกตั้งล่วงหน้าก่อนนอกเขต และแม่ของตนยังบอกอีกว่าไม่เคยคิดจะไปเลือกตั้งล่วงหน้าแต่อย่างใด จึงอยากจะฝากถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ตรวจสอบหน่วยงานที่สามารถทำเรื่องแบบนี้ได้ อยากให้ตรวจสอบให้ชัดเจนและอีกอย่างกลุ่มชาวบ้านบางคนที่มีอายุมากถ้าพูดถึงเรื่องข่าวสารสื่อเกี่ยวกับโซเชียลคงไม่ค่อยรู้เรื่องและเข้าใจในจุดนี้ และอยากสอบถามว่าเราขอยกเลิกได้หรือไม่ในส่วนของตรงนี้ และสามารถขอใช้สิทธิ์เลือกตั้งอยู่ในหน่วยบ้านตนเองได้หรือไม่
“ตนเพิ่งเห็นเมื่อวานจึงยังไม่ได้ไปสอบถามกับอ.ส.ม.คนที่มาจดรายชื่อของคุณแม่ไปลงเลือกตั้งล่วงหน้าและกลับจากอำเภอไปถึงบ้านจะไปถาม เพราะในความคิดของตน ในการที่แม่อายุ 78 ปี แกเดินเหินลำบากแกจะไปเลือกตั้งล่วงหน้าคงไม่ใช่การทำแบบนี้ ก็เหมือนกับจะโกงเลือกตั้งหรือไม่”

ขณะที่ นายพีระพงษ์ มาหา อายุ 27 ปี ชาวบ้านโคกล่าม ต.สาวะถี อ.เมือง จ.ขอนแก่น กล่าวว่า มีคนในหมู่บ้านมีคนมาเก็บบัตรประชาชนผุ้สูงอายุในหมู่บ้านไป จึงได้พากลุ่มคนเหล่านี้มาแจ้งความกับตำรวจ เพราะทุกคนยืนยันว่า ไม่ทราบว่า จะเอาบัตรประชาชนไปลงชื่อเลือกตั้งล่วงหน้า เท่ากับว่า คนที่เอาบัตรประชาชนชาวบ้านไปนั้น มีเจตนาที่จะโกงการเลือกตั้ง ด้วยเหตุลตรงนี้ ชาวบ้านที่เสียรู้ เขาไม่ได้เต็มใจเสียสิทธิ์ เพราะทุกคนรู้สิทธิ์ของตัวเองว่าต้องไปเลือกตั้งที่เลือกตั้งตามปกติ แต่ไม่ได้อยากไปใช้สิทธิ์ล่วงหน้า จึงต้องไปแจ้งความ ลงบันทึกประจำวันไว้ว่า ทุกคนไม่ได้ซื้อสิทธิ์ขายเสียง แต่เพราะคนแก่บางคนเขาไม่รู้เรื่องกฎหมายและไม่รู้ว่าเขาเอาบัตรประชาชนไปทำอะไร

โดยกลุ่มหลักที่จะทำเป็นผู้ใหญ่บ้านกับผู้ช่วยซึ่งเป็นแกนนำใหญ่ แต่เขาจะไม่ออกตัวเขาจะให้ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านทำ เช่นผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านจะให้ภรรยาเขาไปทำเรื่องเอกสารไปเก็บบัตรประจำตัวประชาชนชาวบ้านมาแล้วก็มาลงเลือกตั้งล่วงหน้า ยกตัวอย่างเช่นในหมู่บ้านหนึ่งมีผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งจำนวน 200 คน แต่เลือกตั้งนอกเขตไปแล้วไป 100 คนซึ่งมันดูผิดปกติในการเลือกตั้ง ตนจึงลงพื้นที่สอบถามชาวบ้านว่าทำไมถึงไปใช้สิทธิเลือกตั้งนอกเขต ตนจึงได้ทราบว่ามีคนไปเก็บบัตรประชาชนไปโดยที่เจ้าตัวไม่รู้ว่าเก็บไปเลือกตั้งนอกเขต เพราะบางคนอายุมากและคิดว่าจะเดินทางไปเลือกตั้งอย่างไร แต่มีชาวบ้านบอกว่าจะมีคนนำรถส่วนตัวพาเดินทางไปเลือกตั้งล่วงหน้า สำหรับการที่ตนออกมาพูดและพาชาวบ้านไปแจ้งความนั้น ตนเองก็รู้สึกกว่าว่าจะไปทำให้ใครไม่พอใจแต่ตนก็อยากทำซึ่งคนแก่ตามบ้านไม่รู้เกี่ยวกับข้อกฎหมาย