ข่าวสังคม

นครพนม ตัวแทนกองทุนหมู่บ้านคำสว่างน้อย ต.วังตามัว เมืองนครพนม เข้าร้องทุกข์ นายอำเภอเมืองนครพนมเหตุผู้ใหญ่บ้านเบี้ยวเงินสัญญาที่ตกลงคืนกองทุน

วันที่ 24 ก.ค 2566 เวลา 11.30น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กลุ่มกรรมการกองทุนหมู่บ้านคำสว่างน้อย ต.วังตามัว เมืองนครพนม นำโดยนายไพบุญ คำเรือง ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านพร้อมด้วยกรรมการกองทุน จำนวน 8 คน เข้าร้องเรียนต่อ นายวรวิทย์ พิมพนิตย์ นายอำเภอเมืองนครพนม เพื่อต้องการให้ดำเนินการต่อ นายบัญจพล จันทร์แก้ว ประธานกองทุนหมู่บ้าน เหตุจากเงินกองทุนหมู่บ้านสูญหายจากระบบ ทั้งนี้โดยมีพฤติกรรมหลังจากรับเงินชำระหนี้เงินกู้จากสมาชิกแล้ว แต่กลับไม่นำเงินส่งคืนหรือนำฝากเข้าธนาคาร ไม่ครบตามจำนวน กระทั่งเมื่อทางชุดกรรมการของกองทุนหมู่บ้านฯ ได้รับหนังสือทวงหนี้จากธนาคาร ธกส. จึงเป็นเหตุให้มีการตรวจสอบบัญชีของเงินกองทุนกู้ยืมของสมาชิก ทำให้พบมีมูลค่าความเสียหายเป็นเงินรวมทั้งสิ้น 254,185 บาท

นายไพบุญ คำเรือง ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านและหนึ่งในกรรมการกองทุนหมู่บ้านฯ เพื่อต้องการให้เอาผิดทางวินัยและผิดสัญญาเงินชำระหนี้จากที่เคยทำหนังสือสัญญาไว้ก่อนหน้ารวมถึงต้องการให้ นายบัญจพล จันทร์แก้ว (ผู้ใหญ่บ้าน) พ้นจากการทำหน้าที่โดยทันที สำหรับที่ผ่านมา ชาวบ้านคำสว่างน้อย หมู่ 5 ต.วังตามัว อ.เมือง จ.นครพนม ได้รับเงินกองทุน จำนวน 1,000,000 บาท จากหน่วยงานของรัฐบาล โดยผ่านธนาคาร ธกส. ตามโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจช่วงประมาณ ปี พ.ศ.2558-2559 ซึ่งขณะนั้นมีนายบัญจพล จันทร์แก้ว (ผู้ใหญ่บ้าน) ทำหน้าที่เป็นประธานกองทุนฯ พร้อมด้วยนางสาววรนันท์ ราชทองยศ เป็นเหรัญญิก ซึ่งเงินจำนวนดังกล่าวนี้ นำมาให้ลูกบ้านที่เป็นสมาชิกกู้ยืม บ้านคำสว่างน้อยฯ มีสมาชิก อยู่จำนวน 108 คน และสมาชิกสามารถกู้ยืมเงินได้รายละ 8,000 บาท โดยมีเงื่อนไขระยะเวลาการกู้ยืม หากสมาชิกชำระเงินคืนภายใน 7 ปีและส่งงวดเป็นรายเดือนพร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7 ต่อปี หรือหากกู้ยืมภายใน 2 ปี ก็จะปลอดดอกเบี้ย จนกระทั่งได้รับหนังสือท้วงเงินจากธนาคาร จึงทราบว่า นายบัญจพล จันทร์แก้ว ซึ่งมีหน้าที่เป็นประธานฯและดูแล ไม่ได้นำเงินของสมาชิกส่งต่อให้กับทางธนาคาร เป็นจำนวนเงินถึง 254,185 บาท จึงรวมตัวกันมายื่นหนังสือร้องเรียนเพื่อต้องการเอาผิดด้วยการให้พ้นจากการทำหน้าที่ผู้ใหญ่บ้าน

นายวรวิทย์ พิมพนิตย์ นายอำเภอเมืองนครพนม หลังจากได้รับหนังสือร้องเรียนจาก นายไพบุญ คำเรือง ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านและเป็นหนึ่งในกรรมการกองทุนหมู่บ้านฯ ที่ยื่นหนังสือในครั้งนี้ ก็ได้รับปากกับตัวแทนกรรมการกองทุนหมู่บ้านว่าจะดำเนินการตั้งชุดกรรมการขึ้นมาเพื่อสอบสวนต่อ นายบัญจพล จันทร์แก้ว ในฐานะของผู้ใหญ่บ้านได้เพียงระดับหนึ่งเท่านั้น เพราะจากข้อร้องเรียนที่ยื่นหนังสือมานั้น เป็นเรื่องคดีความทางแพ่งที่ทางชุดกรรมการเองก็ได้นำเรื่องดังกล่าวนี้เข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครพนม เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย ไปก่อนหน้านี้แล้ว พร้อมทั้งยังได้สอบถามถึงวัตถุประสงค์ของการมาร้องเรียนในครั้งนี้ เพื่อต้องการจะไล่ผู้ใหญ่บ้านออกราชการหรือต้องการเงินกองทุนฯที่ขาดหายไปคืนกันแน่ต้องแยกให้ออกจากกันให้ชัดเจน ทำให้หนึ่งในตัวแทนกรรมการฯ ที่เดินทางมาร่วมกัน กล่าวต่อนายวรวิทย์ พิมพนิตย์ นายอำเภอเมืองนครพนม ว่าพวกตนต้องการเงินที่ขาดหายไปคืนและอยากให้กองทุนหมู่บ้านต้องมารับภาระสภาพหนี้นี้แทน นายบัญจพล จันทร์แก้ว เมื่อรับทราบความต้องการของปัญหาดังกล่าวข้างต้นนี้แล้ว นายวรวิทย์ พิมพนิตย์ นายอำเภอเมืองนครพนม พร้อมด้วย นางวิญญา เหมือนเหลา กำนันตำบลวังตามัว อำเภอเมือง จังหวัดนครพนม ซึ่งได้ร่วมกันให้ข้อเสนอแนะพร้อมทั้งเจรจาไกล่เกลี่ยเพื่อหาทางออกร่วมกัน โดยแนะนำให้กรรมการกองทุนหมู่บ้านฯ เจรจากับทางธนาคาร โอนสภาพหนี้ของนายบัญจพล จันทร์แก้ว ให้เป็นลูกหนี้กับธนาคารโดยตรง ก็จะช่วยทำให้ทางกองทุนหมู่บ้านฯ ไม่ต้องรับภาระสภาพหนี้ในเงินจำนวนดังกล่าว