ข่าวสังคม

มหาสารคาม เรื่องราวดีๆรอยยิ้มแห่งความสุข ยายวัย80ทำบัตรประชาชนครั้งแรก

มีเรื่องราวดี ๆ รอยยิ้มแห่งความสุข ที่สร้างความอบอุ่นหัวใจให้กับหลาย ๆ คน เมื่อคุณยายอายุ 80 ปี ที่พลัดพรากจากบ้านเกิดที่จังหวัดมหาสารคามไปกว่า 50 ปี ได้เดินทาง เดินทางไกล 1,700 กิโลเมตร กลับมาที่บ้านเกิด เพื่อที่จะมาทำบัตรประชาชนครั้งแรกในชีวิต พร้อมขอบคุณ นาย อบต. ศรีบรรพต ที่เสียสละทั้งเวลาและเงินส่วนตัวพามาส่งถึงบ้านเกิดเพื่อทำบัตรประชาชนในครั้งแรกของชีวิต

โดยเฟสบุ๊คที่ทำการปกครองอำเภอกันทรวิชัย จังหวัดมหาสารคาม ได้โพสต์ภาพพร้อมข้อความ ระบุว่า ได้รับการประสานจาก อบต.ศรีบรรพต อ.ศรีสาคร จังหวัดนราธิวาส ให้สืบค้นข้อมูลของ นางสาวจันดี สำเพา ที่ออกจากพื้นที่ไปตั้งแต่อายุ 17 ปี เพื่อไปทำงานที่กรุงเทพฯ แล้วได้พบรักกับสามีที่ จ.นราธิวาส ไม่มีเอกสารหลักฐานในการจัดทำบัตรประจำตัวประชาชน ไม่สามารถติดต่อญาติพี่น้องได้ จนได้รับการช่วยเหลือจาก นายก อบต.ศรีบรรพต และเจ้าหน้าที่ โดยได้ประสานมายังสำนักทะเบียนท้องถิ่นอำเภอกันทรวิชัย จ.มหาสารคาม เพื่อสืบค้นข้อมูล ในฐานข้อมูล และข้อมูลบุคคล เพื่อยืนยันตัวตน และเตรียมการสอบข้อเท็จจริงไว้ก่อนที่ที่คุณยายจะมาถึง จากนั้นจึงได้ดำเนินการเพิ่มเติมด้วยการถ่ายบัตรประจำตัวประชาชนครั้งแรกในวัย 80 ปี

วันที่ 18สิงหาค 2566 เวลา 14.00 น .ที่ว่าการอำเภอกันทรวิชัย อ.กันทรวิชัย จ.มหาสารคาม ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่สอบถาม โดยนางนุชิดา ทับศรี ปลัดอำเภอหัวหน้างานบริหารงานปกครอง อำเภอกันทรวิชัย กล่าวว่า สืบเนื่องจาก คุณยายจันดี สำเพา เป็นราษฏรอำเภอกันทรวิชัย ย้อนกลับไปเมื่อ 60 กว่าปีก่อน สมัยนั้นจะทำบัตรประชาชนตอนอายุ 17 ปี คุณยายจันดี ก็มาทำบัตรประชาชน สมัยนั้นจะเป็นบัตรเหลือง คือ บัตรที่ใช้แทนบัตรประชาชนตัวจริง แล้วยายจันดีก็เข้าไปทำงานที่กรุงเทพฯ ระหว่างนั้นก็มีสามี และเดินทางไปที่นราธิวาส ซึ่งก็ไม่เคยมีบัตรประชาชนเลย และเมื่อไม่นานมานี้ ทาง อบต.ศรีบรรพต อ.ศรีสาคร จ.นราธิวาส ได้สำรวจผู้ยากไร้ผู้ด้อยโอกาส เพื่อให้การช่วยเหลือ ก็มาพบคุณยายที่บ้านไม่มีน้ำ ไม่มีไฟ ทาง อบต. ก็ไม่สามารถให้การช่วยเหลือได้ เพราะคุณยายไม่มีบัตรประชาชน จึงได้สอบถามคุณยายว่าพื้นเพอยู่ที่ไหน พอทราบว่าอยู่อำเภอกันทรวิชัย จ.มหาสารคาม ทางเจ้าหน้าที่ก็ได้ติดต่อมาที่ สำนักทะเบียนท้องถิ่นอำเภอกันทรวิชัย ทางเจ้าหน้าที่ก็ได้ทำการสืบค้นข้อมูลระยะหนึ่ง ซึ่งค่อนข้างใช้เวลาเพราะชื่อหมู่บ้านก็เปลี่ยน ตำบลก็เปลี่ยน ได้สอบถามผู้ใหญ่บ้าน 3 หมู่บ้าน จนมาทราบว่าคุณยาย มีทะเบียนบ้านอยู่ที่บ้านดอนเวียงจันทร์ สอบถามผู้เฒ่าผู้แก่ และอดีตผู้ใหญ่บ้าน ก็รู้จักกับคุณยายจันดี ทางอำเภอก็ได้สอบข้อเท็จจริงจนคุณยายได้บัตรประชาชนในที่สุด ซึ่งก็ต้องขอชื่นชม ท่านนายก อบต.ศรีบรรพต และคณะเจ้าหน้าที่ ที่ได้ใช้ทุนส่วนตัว นำคุณยายจันดี สำเพา เดินทางจากจังหวัดนราธิวาส มาที่จังหวัดมหาสารคาม ระยะทาง 1,700 กิโลเมตร (เฉพาะขามาเพียงขาเดียว) เพื่อที่มาขอให้ทำบัตรประชาชนให้คุณยาย ใช้ระยะเวลาเดินทางถึง 3 วัน

จากนั้น ปลัดนุชิดา พร้อมด้วย ปลัดชญาภา ได้นำผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ที่ บ้านเลขที่ 26 หมู่ 8 บ้านดอนเวียงจันทร์ ต.ท่าขอนยาง อ.กันทรวิชัย จ.มหาสารคาม ซึ่งเป็นบ้านของน้องสาวยายจันดี พบกับคุณยายจันดี สำเพา อายุ 80 ปี เดินออกมากับน้องสาวชื่อ นางน้อย แพงจันทร์ อายุ 72 ปี ทั้งสองคนหน้าตายิ้มแย้มแจ่มใส นั่งใกล้ และจับมือกันตลอดเวลา ซึ่งต่างคนก็ต่างคิดกันไปว่า อีกคนไม่อยู่บนโลกนี้แล้ว ไม่คิดว่าจะกลับมาได้เจอกันอีกครั้ง

นางสาวจันดี สำเพา อายุ 80 ปี เล่าว่า ตนเองเคยทำบัตรเหลืองเมื่อตอนอายุ 17 ปี แต่ยังไม่เคยได้บัตรจริงสักที ออกจากบ้านที่มหาสารคาม ไปเป็นแม่บ้านที่กรุงเทพฯ เมื่ออายุ 23 ปี อยู่กรุงเทพฯ ได้ 4-5 ปี ก็ขึ้นรถไปทำงานที่หาดใหญ่ จ.สงขลา จากนั้นก็ได้แฟนเป็นคนจังหวัดนราธิวาส ก่อนที่ไปปักหลักอยู่กินกันที่บ้านไอร์ตุย หมู่ 1 ต.ศรีบรรพต อ.ศรีสาคร จ.นราธิวาส ตลอดระยะเวลาที่อยู่ก็ใช้ชีวิตตามปกติ ไม่ค่อยเจ็บป่วย ไปอยู่บนเขา หากจะมาตลาด ก็ต้องเดินเท้ากว่า 3 กิโลเมตรมาซื้อของ ซึ่งตอนนี้สามีก็เสียชีวิตไปแล้ว ซึ่งที่บ้านไม่มีไฟฟ้า ไม่มีน้ำประปา พอทาง อบต.ศรีบรรพต มาสำรวจผู้ด้อยโอกาส ก็ปรากฏว่าไม่มีบัตรประชาชน ทาง อบต.ศรีบรรพต จึงประสาน และพามาที่มหาสารคาม ก็ต้องขอขอบคุณทั้ง นายก อบต.ศรีบรรพพตและเจ้าหน้าที่และ ส.ส.ในพื้นที่ ทุกคน ที่พามาได้เจอญาติพี่น้องที่ไม่ได้เจอกัน เกือบ 60 ปี

ด้านนางน้อย แพงจันทร์ อายุ 72 ปี น้องสาวยายจันดี กล่าวว่า ตอนนั้นยังเด็กจำไม่ค่อยได้แล้ว จำได้แต่ว่าพี่สาวไปทำงานกรุงเทพฯ ภาษาบ้าน ๆ ก็คือไปเป็นคนใช้ในกรุงเทพฯ ในสมัยนั้น แม่เคยเล่าให้ฟังว่า พี่สาวส่งเงินมาให้เดือนละ 150 บาท เพราะแม่บอกว่าแม่จะไปไปรษณีย์ ไปเบิกเงิน พี่สาวเคยเขียนจดหมายมาหา จ่าหน้าซองที่อยู่หาดใหญ่ บอกว่าจะกลับบ้านตอนสงกรานต์ จากนั้นก็ไม่เคยได้ข่าวอีกเลย จนเมื่อ 10 กว่าปีก่อน ตนฝันว่า พี่สาวกำลังหนีออกจากบ้านของนายจ้าง แล้วปีนกำแพง และถูกเจ้าของบ้านยิงตาย ก็เลยคิดไปเองว่าพี่สาวตายแล้ว ชาตินี้คงไม่มีโอกาสได้เจอกันอีก เวลาไปวัดในวันพระ ก็ไปทำบุญกรวดน้ำ เรียกพี่สาวให้มากินมาทานตลอด ไม่คิดเลยว่าชาตินี้จะได้กลับมาเจอกันอีก

ขณะที่นายธวัชชัย เหล่าสมบัติ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 8 บ้านดอนเวียงจันทร์ ต.ท่าขอนยาง อ.กันทรวิชัย จ.มหาสารคาม กล่าวว่า ตนเห็นรายชื่อของยายจันดี สำเพา ในรายชื่อผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งมาตลอดระยะเวลา 11 ปี ที่ตนเป็นผู้ใหญ่บ้าน แต่ก็ไม่เคยเห็นตัวคนสักครั้ง พอทางปลัดอำเภอกันทรวิชัย โทรศัพท์มาสอบถามหาบุคคล ก็คุ้น ๆ จึงได้มาดูบ้านเลขที่ และรายชื่อที่ทำการบันทึกไว้ ก็พบว่ามีจริง ๆ จึงได้แจ้งให้กับทางอำเภอฯ ได้ทราบ ซึ่งตลอดระยะเวลา 47 ปี ตั้งแต่เกิดมา ตนก็ยังไม่เคยเห็นหน้าคุณยายเลย จึงได้ออกตามหา และมาสอบถามจนทราบว่ายายจันดี เป็นพี่สาวของยายน้อยจริง ๆ ก็ยินดีกับทั้งสองคนที่ได้กลับมาเจอกันอีกครั้ง ในรอบ 57 ปี

นอกจากคุณยายจันดีจะโชคดีที่ได้พบญาติพี่น้องและได้ทำบัตรประชาชนครั้งแรกแล้ว คุณยายยังถูกล็อตเตอรี่ เลขท้าย 2 ตัว งวดประจำวันที่ 16 สิงหาคม ที่ผ่านมา ถึง 3 ใบ โดยล็อตเตอรี่ทั้ง 3 ใบนั้น ทาง นายก อบต.ศรีบรรพต เป็นคนซื้อให้คุณยายไว้เสี่ยงโชคอีกด้วย