หน.รปภ.บริษัทรับเหมาแห่งหนึ่งที่ จ.สุรินทร์ หิ้วกระเช้าโร่ไหว้ขอโทษทนายอั๋นบนโรงพักนาโพธิ์ จ.บุรีรัมย์ หลังเมนต์ขู่จะจ้างคนอุ้มเผานั่งยางพร้อมไลฟ์สดโชว์ อ้างเพื่อนที่เป็น รปภ.ด้วยกันยืมมือถือไปเล่นใช้ชื่อเฟสตัวเองเป็นคนเมนต์แต่ยอมรับผิดทุกอย่าง ด้านทนายอั๋นให้อภัยพร้อมถอนแจ้งความแต่เตือนนักเลงคีบอร์ดใช้สติอาจเสี่ยงติดคุก ลั่นไม่ท้อพร้อมเดินหน้าต่อสู้เพื่อ ปชช.และความถูกต้อง
ความคืบหน้ากรณีที่นายภัทรพงศ์ ศุภักษร หรือ “ทนายอั๋น” ทนายความชื่อดังที่จังหวัดบุรีรัมย์ ได้นำหลักฐานข้อความที่มีคนเข้าไปคอมเมนต์ในเฟสบุ๊ก ข่มขู่จะเอาชีวิต โดยระบุว่า “เดี๋ยวจะจ้างมือดีๆ อุ้มมันไปนั่งยางโชว์ จะ Live สดให้ดูด้วย , ผมรู้ว่ามันอยู่บุรีรัมย์ ผมก็คนบุรีรัมย์เหมือนกัน , ไอ้อั๋นมันบอกว่าไม่กลัวนะอย่างนี้ผมหาทีมงานไปอุ้มมันดีไหม , เดี๋ยวผมจะหาทีมงานอุ้มไอ้อั๋นไปนั่งยาง , เดี๋ยวจะเชือดไก่ให้ลิงดู” เข้าแจ้งความร้องทุกข์กับ ร.ต.อ.อุดม พลทำ รองสารวัตร (สอบสวน) สถานีตำรวจภูธรนาโพธิ์ จ.บุรีรัมย์ เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา เพื่อให้ติดตามตัวคนที่คอมเมนต์ขู่ฆ่ามาดำเนินคดี
ล่าสุด เมื่อช่วงบ่ายวันนี้ (24 ส.ค.66) นายอุบล (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 55 ปี ซึ่งเป็นชาว อ.ชุมพลบุรี จ.สุรินทร์ ปัจจุบันทำอาชีพเป็นหัวหน้าเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย (หน.รปภ.) ที่บริษัทรับเหมาแห่งหนึ่งใน จ.สุรินทร์ ซึ่งเป็นเจ้าของเฟสบุ๊กที่คอมเมนต์ข่มขู่เอาชีวิตทนายอั๋น ได้หิ้วกระเช้าเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพมาขอโทษทนายอั๋น ที่สถานีตำรวจภูธรนาโพธิ์ จ.บุรีรัมย์ พร้อมยกมือไหว้ขอโทษ
แต่นายอุบลปฏิเสธว่าตัวเองไม่ได้เป็นคนคอมเมนต์ข่มขู่เอาชีวิตทนายอั๋น แต่เพื่อนที่เป็น รปภ.ทำงานที่เดียวกันเป็นคนยืมโทรศัพท์ไปเล่นแล้วคอมเมนต์ข้อความดังกล่าว โดยใช้ชื่อเฟสของตัวเองตอนแรกไม่รู้ว่าเพื่อนยืมมือถือไปคอมเมนต์แบบนี้ เพราะที่ผ่านมาเพื่อนก็ยืมมือถือไปเล่นบ่อย แต่มารู้ทีหลังตอนที่ภรรยาไปบอกว่ามีคนแจ้งความดำเนินดดีที่ตนไปตอมเมนต์ข่มขู่เขาก็ตกใจ เพราะส่วนตัวไม่ได้รู้จักทนายอั๋น เพิ่งมารู้ตอนที่ถูกแจ้งความเอาผิด
นายอุบล ยังบอกอีกว่า ถึงแม้ตนเองจะปฏิเสธว่าไม่ได้เป็นคนทำก็คงไม่มีใครเชื่อแต่เพื่อนยืมมือถือไปเล่น แต่ในเมื่อเป็นชื่อเฟสบุ๊กของตัวเอง ก็พร้อมจะแสดงความรับผิดชอบด้วยการเดินทางมาขอโทษทนายอั๋น ด้วยตัวเอง ก็ขอบคุณที่ทนายอั๋น ไม่ดำเนินคดี จึงรับปากว่าจะไม่ให้เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นอีก
ขณะที่ทนายอั๋น ก็ได้กล่าวเตือนสตินายอุบล ว่า พี่เองก็มีครอบครัวเกิดอะไรขึ้นไม่ใช่ตัวเองพี่เองคนเดียวที่เดือดร้อนถ้าพี่ไปติดคุก หากคนที่พี่ไปกระทำแบบนี้กับเขาไม่ได้ใจกว้างคนที่เดือดร้อนก็คือครอบครัว จึงอยากมีสติในการใช้โซเชียลหรือกระทำอะไรก็แล้วแต่ที่ผิดกฎหมาย แต่วันนี้กรณีที่เกิดขึ้นกับตนเองก็ให้อภัย เพราะคนที่กระทำก็เป็นเพียงประชาชนคนหนึ่งที่อาจจะมีความเห็นต่างทางการเมือง ที่ตนเองจะมาเอาผิด แต่คู่กรณีของตนเองคือผู้ที่ถืออำนาจรัฐและใช้อำนาจรัฐที่ไม่ถูกต้อง วันนี้ก็จะทำการถอนแจ้งความ แต่ก็อยากเตือนสติผู้ที่ใช้สื่อโซเชียลว่าไม่ควรจะโพสต์หรือคอมเมนต์ด้วยความคึกคะนอง เพราะผลหากถูกดำเนินคดีก็จะเสียเงินเสียเวลาทำมาหากินอีก
ทนายอั๋น ยังได้กล่าวทิ้งท้ายด้วยว่า ถึงแม้จะมีคนเข้ามาคอมเมนต์ข่มขู่ แต่ก็ไม่ได้ทำให้ย้อท้อหรือหยุดยั้งในการต่อสู้เพื่อความถูกต้อง และประชาชน