หนุ่มวัย 46 ปี ชาวตำบลโคกเครือ อำเภอหนองกุงศรี จังหวัดกาฬสินธุ์ ถูกคนร้ายใช้อาวุธมีดปาดคอหน้าบ้านพักสาหัส เบื้องต้นคาดสาเหตุ เกิดจากการทวงหนี้ หลังพบคนเจ็บทะเลาะกับชายในหมู่บ้านเดียวกัน เรื่องยืมเงินและมีการทวงหลายครั้งจนทะเลาะกัน ขณะที่ตำรวจคุมตัวผู้ต้องสงสัยสอบเข้ม แต่ยังให้การปฏิเสธ
เมื่อเวลา 07.30 น.วันที่ 30 ตุลาคม 2563 พ.ต.ท.เหล่าชาติ เหล่าสักสาม พนักงานสอบสวน สภ.หนองกุงศรี จ.กาฬสินธุ์ ได้รับแจ้งเหตุมีคนถูกทำร้ายร่างกาย โดยใช้มีดปาดคอได้รับบาดเจ็บสาหัส ที่บริเวณหน้าบ้านเลขที่ 5 บ้านห้วยยางดง ม.8 ต.โคกเครือ อ.หนองกุงศรี จ.กาฬสินธุ์ หลังรับแจ้งจึงรายงานไปยัง พ.ต.อ.พงษ์ศักดิ์ วีระศิริ ผกก.สภ.หนองกุงศรี และประสานไปยังหน่วยกู้ภัยเมตตาธรรมจุดหนองกุงศรีเข้าตรวจสอบ และให้การช่วยเหลือ
โดยที่เกิดเหตุพบนายตะวัน แก้วสีหา อายุ 46 ปี อยู่บ้านเลขที่ 26 ม.8 ต.โคกเครือ อ.หนองกุงศรี จ.กาฬสินธุ์ นอนบาดเจ็บอยู่บนแคร่หน้าบ้านหลังดังกล่าว สภาพเลือดท่วมตัว มีบาดแผลที่บริเวณคอลำคอถูกของมีคมบาดเป็นแผลฉกรรจ์ และพบเลือดนองอยู่เต็มพื้น เจ้าหน้าที่จึงช่วยกันปฐมพยาบาลและเร่งนำตัวส่งโรงพยาบาลหนองกุงศรี แต่เนื่องจากอาการสาหัสจึงนำตัวส่งต่อไปยังโรงพยาบาลกาฬสินธุ์
จากสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า ก่อนเกิดเหตุนายตะวัน ผู้ได้บาดเจ็บได้มานอนเฝ้าตาอายุ 95 ปี ที่ไม่สบายที่บ้านหลังดังกล่าว กระทั่งช่วงเช้าเวลาประมาณ 06.00 น. นางแถว แก้วสีหา อายุ 70 ปี แม่ของผู้บาดเจ็บ ซึ่งพักอยู่บ้านอีกหลังที่อยู่ใกล้กันได้เดินมาพบลูกชายนอนจมกองเลือดอยู่บนแคร่ และมีบาดแผลที่ถูกปาดที่ลำคอ จึงรีบแจ้งเจ้าหน้าที่มาช่วยเหลือ
ทั้งนี้ หลังเกิดเหตุ พล.ต.ต.สมนึก มิควาฬ ผบก.ภว.จว.กาฬสินธุ์ มอบหมายให้ พ.ต.อ.ตรีวิทย์ ศรีประภา รองผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์ ลงพื้นที่ติดตามคดี และได้สั่งการให้ พ.ต.อ.พงษ์ศักดิ์ วีระศิริ ผกก.สภ.หนองกุงศรี พ.ต.ท.เกียรติก้อง เงินสง่า นักวิทยาศาสตร์(สบ.3) สำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจภูธร จ.กาฬสินธุ์ เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน ชุดสืบสวนสภ.หนองกุงศรี และชุดสืบสวนตำรวจภูธร จ.กาฬสินธุ์เข้าตรวจสอบและเก็บหลักฐานเพิ่มเติมในที่เกิดเหตุ
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่พบคราบเลือดอยู่ภายในห้องนอนชั้นล่างของผู้บาดเจ็บ และพัดลมล้มอยู่คาดว่ามีการต่อสู้กัน และยังพบมีดทำครัวเปื้อนเลือดตกอยู่ คาดว่าน่าจะเป็นอาวุธที่คนร้ายใช้ โดยคนร้ายอาศัยช่วงผู้บาดเจ็บนอนหลับแล้วใช้มีดปาดคอหวังฆ่าให้ตาย ซึ่งนายตะวันพยายามต่อสู้และเดินออกมาขอความช่วยเหลือแล้วล้มฟุบที่แคร่หน้าบ้าน
อย่างไรก็ตามเบื้องต้นเจ้าหน้าที่คาดว่า คนร้ายน่าจะรู้จักกันกับผู้บาดเจ็บ และจากการสืบสวนพบว่าก่อนหน้านี้ผู้บาดเจ็บได้มีปากเสียง และทะเลาะกันกับชายคนหนึ่งในหมู่บ้าน เรื่องผู้บาดเจ็บยืมเงินจำนวน 2,000 บาท แต่ยังไม่ใช่หนี้คืน และมีการทวงหนี้กันบ่อยครั้งจนทะเลาะกัน คาดว่าน่าจะมีจากการทวงหนี้ ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่พอจะทราบตัวคนร้ายแล้ว เนื่องจากผู้บาดเจ็บล่าสุดรู้สึกตัวและยืนยันตัวบุคคลได้แล้ว และได้นำตัวผู้ต้องสงสัยมาสอบปากคำ 1 ราย ซึ่งยังคงปฏิเสธ แต่เบื้องต้นตรวจปัสสาวะพบสีม่วง และอยู่ระหว่างสอบสวนและรอสอบปากคำผู้บาดเจ็บเพิ่ม เพื่อที่จะรวบรวมพยานหลักฐานจับกุมตัวคนร้ายมาดำเนินคดีต่อไป
ด้านนางบัวผัน ภูบรรทัด อายุ 57 ปี น้าผู้ได้รับบาดเจ็บ กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุหลานชายมานอนเฝ้าตาที่บ้านหลังนี้ จนรุ่งเช้าแม่มาพบว่าถูกทำร้ายปาดคอแล้ว ที่ผ่านมาหลานไม่เคยมีเรื่องกับใคร เป็นคนทำมาหากิน มีดื่มสุราบ้าง ซึ่งเท่าที่ทราบจากแม่หลานชายได้ไปยืมเงินคนในหมู่บ้านจำนวน 2,000 บาท ส่วนสาเหตุนั้นตนไม่ทราบจะต้องรอเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวน