ข่าวด่วน ข่าวอาชญากรรม

สืบเมืองน้ำดำจับโจร สายเปย์ ตะเวนฉกกระเป๋าหาเงินเสพยาซื้อเหล้าเลี้ยงหญิงบ

ชุดสืบสวนสภ.เมืองกาฬสินธุ์แกะรอยกล้องวงจรปิดตามรวบหนุ่มใหญ่วัย 44 ปี อดีตพ่อค้าขายกับข้าว ชาวอำเภอสหัสขันธ์ จังหวัดกาฬสินธุ์ หลังก่อเหตุซิ่งรถเก๋งคู่ใจตะเวนฉกและวิ่งราวกระเป๋าของพ่อค้า แม่ค้า และประชาชน 3 ครั้งซ้อน โดยกล้องวงจรปิดบันทึกภาพพฤติกรรมชัดเจน สุดท้ายจนมุมตำรวจนำตัวไปทำแผน สารภาพหาเงินซื้อสุราดื่มและซื้อยาบ้ามาเสพ

เมื่อเวลา 08.00 น.วันที่ 21 ตุลาคม 2564 พ.ต.อ.ณรงค์ฤทธิ์ สุริยะ ผกก.สภ.เมืองกาฬสินธุ์ พ.ต.ท.เทวฤทธิ์ บูรณรักษ์ รอง ผกก.สส.สภ.เมืองกาฬสินธุ์ พ.ต.ท.สีหนาท จันทร์เหลือง สว.สส.สภ.เมืองกาฬสินธุ์ ร.ต.อ.อมร เดชศรี รอง สว.สส..สภ.เมืองกาฬสินธุ์ ร.ต.อ.อารมณ์ เจริญสรรพ์ รอง สว.สส.สภ.เมืองกาฬสินธุ์ พร้อมด้วยชุดสืบสวนสภ.เมืองกาฬสินธุ์ร่วมกันแถลงผลการจับกุมตัวนายวุฒินันท์ หรือโจ หมั่นประกอบ อายุ 44 ปี อดีตพ่อค้าขายอาหาร อยู่บ้านเลขที่ 17 ม.7 ต.โนนศิลา อ.สหัสขันธ์ จ.กาฬสินธุ์ ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดกาฬสินธุ์ ที่  จ 212/2564  วันที่ 20 ตุลาคม 2564 หลังก่อเหตุขับรถเก๋งตะเวนขโมยกระเป๋าเงินของพ่อค้า แม่ค้า และประชาชนในเขตพื้นที่ อ.เมืองกาฬสินธุ์ ต่อเนื่อง 3 ครั้ง โดยแต่ละครั้งกล้องวงจรปิดสามารถบันทึกพฤติกรรมไว้ได้ชัดเจน ก่อนถูกชุดสืบสวนสภ.เมืองกาฬสินธุ์ แกะรอยติดตามจับกุมตัวได้ที่บ้านพัก พร้อมของกลางรถยนต์เก๋ง ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นซิตี้ สีบรอนซ์เทา ทะเบียน กฉ 2905 กาฬสินธุ์ ซึ่งใช้ขับขี่ในการก่อเหตุ เสื้อ กางเกง และรองเท้าที่สวมใส่ก่อเหตุ ก่อนจะคุมตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่เกิดเหตุทั้ง 3 จุด

                โดยจุดแรกบริเวณถนนบายพาสทุ่งมน ตรงข้ามโรงแรม TK Resident ต.กาฬสินธุ์ อ.เมืองกาฬสินธุ์ นายวุฒินันท์  ได้ขับรถเก๋งคันดังกล่าวมาจอดแล้วอาศัยจังหวะเผลอเดินไปขโมยกระเป๋าของร้อยตรีประสิทธิ กมลพุทธ อายุ 70 ปี ซึ่งวางไว้ตระแกรงหน้ารถจักรยานยนต์ที่จอดไว้บริเวณหน้าบ้านก่อนวิ่งขึ้นรถหลบหนีไป โดยเหตุเกิดเมื่อเวลาประมาณ 11.40 น.วันที่ 10 กรกฎาคม 2564 คนร้ายได้เงินสดไป 1,000 บาท โทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง และเอกสารต่างๆ กล้องวงจรปิดจับภาพได้

                จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้พาผู้ต้องหาไปทำแผนจุดที่ 2 บริเวณร้านโฟกัสกุ้งสด ริมถนนสายกาฬสินธุ์-สมเด็จ ฝั่งขาไป อ.สมเด็จ ใกล้แยกหามแหโพนทอง ต.โพนทอง อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งครั้งนี้นายวุฒินันท์ ได้ย้อนกลับมาก่อนเหตุอีกหลังก่อเหตุครั้งห่างจากวันแรก 3 วัน โดยลงมือในช่วงเวลาประมาณ 22.00 น.เมื่อวันที่ 13 กรกฎาคม 2564 ได้เดินย่องเข้าไปในร้านวิ่งราวฉกกระเป๋าสะพายของเจ้าของร้าน ซึ่งกำลังนั่งคุยกันอยู่หลายคน ได้เงินสดไปประมาณ 1,400 บาท รวมถึงเอกสารต่างเอกสารต่างๆ โดยกล้องวงจรปิดสามารถจับภาพได้ชันเจน ซึ่งทางเจ้าของร้านและเพื่อนๆต่างพากันวิ่งไล่ตามแต่ก็ไม่ทัน

                จากนั้นเจ้าหน้าที่คุมตัวไปทำแผนจุดที่ 3 ซึ่งเป็นการก่อเหตุครั้งล่าสุด นายวุฒินันท์ เกิดความย่ามใจกลับมาก่อนเหตุซ้ำอีก โดยได้ขับรถเก๋งคันเดิมมาจอดบริเวณเยื้องหน้าร้านกาฬสินธุ์ปลาตู้ ตรงข้ามกับโรงพยาบาลธีระวัฒน์ ถนนธนะผล ต.กาฬสินธุ์ อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ เมื่อวันที่ 17 ตุลาคม 2564  ก่อนที่จะอาศัยจังหวะที่เจ้าของร้านเผลอเข้าไปขโมยกระเป๋าสะพายของนางนัยนา วงศ์วิสุด อายุ 52 ปี เจ้าของร้านที่ห้อยไว้หน้าร้านแล้ววิ่งขึ้นรถหลบหนีไป  กล้องวงจรปิดจับภาพได้เช่นกัน ซึ่งครั้งนี้ได้ทรัพย์สินเป็นเงินสดประมาณ 52,000 บาท โทรศัพท์ไอโฟน 8 จำนวน 1 เครื่อง ,เอกสารต่างๆ ก่อนที่จะถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามจับกุมตัวได้ พร้อมของกลางดังกล่าว

                ทั้งนี้ผู้ต้องหารับสารภาพว่า ตนเองมีพฤติกรรมชอบดื่มสุรา และเสพยาบ้า โดยอ้างว่าวันก่อเหตุทั้ง 3 ครั้งได้ขับรถมาจาก อ.สหัสขันธ์ มาเที่ยวในเมืองก่อนมองเห็นกระเป๋าของผู้เสียหายวางอยู่จึงเข้าไปขโมยแล้วนำเงินไปซื้อสุรามาดื่มและซื้อยาบ้ามาเสพ

ด้านพ.ต.อ.ณรงค์ฤทธิ์ สุริยะ ผกก.สภ.เมืองกาฬสินธุ์ กล่าวว่า สำหรับพฤติกรรมของผู้ต้องหารายนี้เมื่อได้ดื่มสุราและเสพยาบ้า จะตะเวนขับรถยนต์ลงมือก่อเหตุ และเมื่อก่อเหตุได้ทรัพย์สินไปแล้ว จะนำเงินไปใช้จ่ายฟุ่มเฟือย นำไปซื้อสุรา และซื้อยาบ้ามาเสพ โดยพฤติการณ์ในการก่อเหตุแต่ละครั้ง ผู้ต้องหาจะขับขี่รถยนต์ตระเวนหาเป้าหมายที่ เมื่อเจอเป้าหมายแล้ว จะขับรถยนต์มาจอดไว้บริเวณจุดที่จะก่อเหตุ จากนั้นจะลงจากรถยนต์ โดยจอดรถสตาร์ทติดเครื่องไว้ และวิ่งเข้าไปเอาทรัพย์สิน เมื่อได้ทรัพย์สินแล้ว จะวิ่งกลับออกมาขึ้นรถยนต์แล้วขับรถหลบหนีไป กระทั่งตำรวจสภ.เมืองกาฬสินธุ์ตามไปจับตัวได้ โดยหลังจากทำแผนเสร็จเจ้าหน้าที่ได้นำตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีในข้อหาลักทรัพย์ในเวลากลางคืน โดยใช้ยานพาหนะเพื่อความสะดวกในการกระทำผิดหรือการพาทรัพย์นั้นไปหรือเพื่อให้พ้นการจับกุม