เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สหัสขันธ์ เข้าตรวจสอบต้นไม้พะยูงอายุ 40 ปี ภายในโรงเรียนชุมชนนามะเขือวิทยา ต.นามะเขือ อ.สหัสขันธ์ จ.กาฬสินธุ์ จำนวน 11 ต้น ถูกตัดเป็นท่อนและขนขึ้นรถบรรทุกเตรียมขนย้าย ด้านผอ.โรงเรียนยืนยันทำถูกต้องตามขั้นตอน สาเหตุที่ตัดขายเนื่องจากหวั่นแก๊งมอดไม้ฉวยโอกาสตัดอีก
เมื่อวันที่ 21 มีนาคม 2563 เจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.สหัสขันธ์ จ.กาฬสินธุ์ เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง และฝ่ายความมั่นคงของกอ.รมน.กาฬสินธุ์เข้าตรวจสอบต้นไม้พะยูงที่ถูกตัดภายที่โรงเรียนชุมชนนามะเขือวิทยา ต.นามะเขือ อ.สหัสขันธ์ จ.กาฬสินธุ์ หลังจากได้รับแจ้งจากประชาชนว่ามีการตัดต้นไม้ไปแล้วหลายต้น
โดยจากจากตรวจสอบพบว่าต้นพะยูงขนาดใหญ่อายุหลายสิบปีภายในโรงเรียนถูกตัดไปแล้วจำนวน 11 ต้น ทิ้งไว้เหลือแต่กิ่งไม้ และมีการตัดเป็นท่อนๆยาว 2-3 เมตร ขนขึ้นถนนบรรทุก6 ล้อเต็มค้นรถ ทั้งนี้ระหว่างที่กำลังตรวจสอบนายสมจิตร จำปาสาร ผู้อำนวยการโรงเรียนชุมชนนามะเขือ ได้นำเอกสารขออนุญาตตัดไม้พะยูง ภายในบริเวณโรงเรียนชี้แจงกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง และเจ้าหน้าที่ตำรวจ
นายสมจิตร จำปาสาร ผู้อำนวยการโรงเรียนชุมชนนามะเขือ กล่าวว่า ตามที่เมื่อวานนี้ (20 มี.ค.63) ได้มีกลุ่มคนประมาณ 10 คน เข้ามาในบริเวณโรงเรียน พร้อมรถยนต์ 6 ล้อ และเลื่อยยนต์ โดยอ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ป่าไม้และเป็นผู้ชนะการประมูลจาก จ.มุกดาหาร เพื่อมาตัดไม้พะยูง ทั้งนี้การตัดไม้ดังกล่าวทางโรงเรียน ได้ขออนุญาตจากธนารักษ์พื้นที่ จ.กาฬสินธุ์ เพื่อขายไม้พะยูง โดยจะนำเงินเป็นรายได้ของแผ่นดิน กำหนดตัดทั้งหมดจำนวน 13 ต้น และขณะนี้ได้ทำการตัดและขนขึ้นรถยนต์ 6 ล้อ ยี่ห้ออีซูซุ สีขาว หมายเลขทะเบียน 70-0712 กาฬสินธุ์ เพื่อเตรียมขนย้ายแล้ว 11 ต้น โดยใช้ผ้าเต้นท์ปกคลุมไว้อย่างมิดชิด
นายสมจิตร กล่าวอีกว่า ยืนยันว่าการตัดไม้พะยูงดังกล่าวดำเนินการถูกต้องทุกขั้นตอน ทั้งการประชุมขอมติจากคณะกรรมการสถานศึกษา คณะครู ผู้นำชุมชน สำนักงานพื้นที่การศึกษากาฬสินธุ์ เขต 1 และธนารักษ์พื้นที่ จ.กาฬสินธุ์ ส่วนสาเหตุที่ต้องตัด เนื่องจากไม้พะยูงภายในโรงเรียนนามะเขือวิทยา เดิมมี 36 ต้น ก่อนหน้านี้ถูกลอบตัดไป 4 ต้น ทางคณะครู ร่วมกับผู้นำชุมชน จึงได้ร่วมกันฝังไมโครชิฟ ติดตั้งวงจรปิด 4 ตัว และทำพิธีบวชป่า ป้องกันแก๊งลักลอบตัดไม้ เพื่ออนุรักษ์ไม้พะยูงที่เหลือ พร้อมทั้งได้มีการจัดเวรยามเฝ้ามานานกว่า 3 เดือน แต่ล่าสุดหลายคนเกรงว่าจะไม่ได้รับความปลอดภัยและเกรงว่าไม้พะยูงจะถูกแก๊งมอดไม้ตัดไปอีก โรงเรียนจึงได้ขอมติจากคณะกรรมการสถานศึกษา ผู้นำชุมชน เพื่อขออนุญาตจากธนารักพื้นที่ จ.กาฬสินธุ์ ให้ทำการตัดและขายเพื่อนำรายได้เข้ากรมธนารักษ์และแผ่นดิน ซึ่งไม้ทั้งหมด 13 ต้น มีการประมูลซื้อขายในราคา 239,990 บาท
ทั้งนี้ จากการสอบถามชายที่อ้างว่าชนะการประมูลในการตัดไม้ บอกเพียงว่าเป็นชาว จ.มุกดาหาร และตนเป็นผู้ชนะการประมูลในการตัดไม้ ซึ่งหากเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองและเจ้าหน้าที่ตำรวจ อยากดูเอกสารการขออนุญาต ให้ไปขอดูกับผู้อำนวยการโรงเรียน หรือหากอยากทราบว่าตนเป็นผู้ชนะการประมูลจริงหรือไม่ ก็ให้ไปขอดูรายละเอียดจากธนารักษ์พื้นที่ จ.กาฬสินธุ์เอง
อย่างไรก็ตามแหล่งข่าวระบุว่า สำหรับการตัดไม้พะยูงจำนวน 13 ต้นดังกล่าว สร้างความสงสัยให้กับชาวบ้านจำนวนมาก ถึงสาเหตุความจำเป็นที่จะต้องตัดต้นไม้เพราะเกรงกลัวและวิตกกังวลเกินไปหรือไม่ เพราะก่อนหน้านี้มีการฝังชิฟและติดกล้องวงจรปิดป้องกันการลักลอบตัดไม้ไว้แล้ว เพื่ออนุรักษ์ป่าไม้ และที่สำคัญกรณีการตัดไม้พะยูงในเขตพื้นที่ของกรมธนารักษ์ ทางธนารักษ์จะเป็นผู้ดำเนินการเอง แต่ครั้งนี้มีบุคคลอ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่ป่าไม้และมีการตีตราประทับไว้ ซึ่งตามระเบียบเป็นอำนาจหน้าที่ของกรมธนารักษ์ ไม่ต้องขออนุญาตเจ้าหน้าที่ป่าไม้ จึงสร้างความสงสัยว่ามีอะไรแอบแฝงหรือเป็นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบหรือไม่ จึงเรียกร้องให้อธิบดีกรมป่าไม้และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบต่อไป
