ข่าวด่วน

หัวหน้าหน่วยกู้ภัยร่วมใจกาฬสินธุ์ ยืนยันมีเจตนาช่วยคนเจ็บจากอุบัติเหตุ ทำถูกต้องตามหลักการ

หัวหน้าหน่วยกู้ภัยร่วมใจกาฬสินธุ์จุดอำเภอกมลาไสย จังหวัดกาฬสินธุ์ยืนยันมีเจตนาช่วยคนเจ็บจากอุบัติเหตุ พร้อมได้ประเมินสถานการณ์แล้วและทำถูกต้องตามหลักการที่ได้อบรมมา เหตุที่ต้องรีบนำส่งโรงพยาบาลเพราะได้รับบาดเจ็บสาหัส

จากกรณีโลกออนไลน์มีการแชร์คลิปวีดีโอเหตุการณ์อาสาสมัครกู้ภัยหน่วยงานหนึ่งเข้าช่วยผู้ได้รับบาดเจ็บจากอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์ชนกับรถกระบะ บนถนนสายกาฬสินธุ์-ร้อยเอ็ด บริเวณสี่แยกบ้านบ่อ อ.กมลาไสย จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งหลังจากคลิปดังกล่าวถูกโพสต์และแชร์ออกไป ทำให้มีผู้วิพากษ์วิจารณ์กันจำนวนมาก เนื่องจากชายซึ่งเป็นอาสาสมัครกู้ภัย เข้าช่วยคนได้รับบาดเจ็บทันที  โดยการจับขาที่มีสภาพหักพับทั้งสองข้างดัดให้อยู่ในท่าเหยียดตรง ซึ่งหลายคนตั้งข้อสังเกตว่า การช่วยเหลือดังกล่าวได้มีการประเมินสถานการณ์และสภาพผู้บาดเจ็บก่อน และเป็นการช่วยเหลืออย่างผิดวิธีหรือไม่ เพราะต่อมาผู้ได้รับบาดเจ็บนั้นเสียชีวิตระหว่างนำขึ้นรถฉุกเฉินของโรงพยาบาลกมลาไสย กระทั่งทางสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ หรือ สพฉ.สั่งดำเนินการตรวจสอบเรื่องดังกล่าว

ล่าสุดเมื่อเวลา 15.00 น.วันที่ 7 พฤษภาคม 2563 ผู้สื่อข่าวได้เข้าสอบถามนายชาติชาย คงสมบัติ หัวหน้าอาสากู้ภัยร่วมใจกาฬสินธุ์จุดอำเภอกมลาไสย จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งเป็นชายอาสากู้ภัยที่อยู่ในคลิปวีดีโอที่ชาวบ้านถ่ายไว้ โดยนายชาติชาย กล่าวว่า สำหรับเหตุการณ์ดังกล่าวขณะนั้นตนกำลังจะเข้านอนแต่ได้รับแจ้งว่าเกิดอุบัติเหตุจึงเร่งขับรถไปในชุดนั้น ซึ่งเมื่อถึงที่เกิดเหตุสถานการณ์ตอนนั้นตนได้ประเมินผู้ป่วยแล้ว พบว่ามีอาการบาดเจ็บสาหัส มีแผลที่คอ แขน ขาหักหลายจุด ซึ่งขณะนั้นหน่วยกู้ภัยอื่นๆยังมาไม่ถึง มีเพียงหน่วยกู้ชีพขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นไปถึงก่อน แต่หลายคนไม่กล้าที่จะเข้าไปช่วยเหลือ และหลังจากที่ประเมินสถานการณ์แล้ว ตนจึงรีบเข้าไปช่วย ซึ่งยืนยันว่าได้ทำอย่างถูกต้องและชำนาญตามวิธีที่ได้อบรมมา เพื่อเร่งนำตัวไปส่งโรงพยาบาลให้เร็วที่สุด พร้อมกับแจ้งให้โรงพยาบาลกมลาไสยออกไปรับเปลี่ยนถ่ายผู้บาดเจ็บ เนื่องจากในฉุกเฉินมีเครื่องมืออุปกรณ์ครบกว่า

นายชาติชาย กล่าวอีกว่า เรื่องดังกล่าวเมื่อสถานการณ์มีผู้บาดเจ็บสาหัส อาการเป็นตายเท่ากันจึงต้องการช่วยเหลืออย่างรวดเร็วและถูกต้องตามประสบการณ์ที่ทำงานอาสากู้ภัยมากว่า 20 ปี  ยืนยันว่าเจตนาในตอนนั้นต้องการช่วยเหลือผู้บาดเจ็บให้ถูกนำส่งตัวถึงโรงพยาบาลโดยเร็วเท่านั้น และเป็นการช่วยเหลือตามหลักการที่ตนได้ฝึกฝนมา และมีประสบการณ์ในการช่วยเหลือผู้บาดเจ็บจากอุบัติเหตุและสาธารณภัยต่างๆมาตลอด ซึ่งภาพที่ปรากฏในคลิปตามที่มีชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์และไลฟ์สด ในขณะที่ตนปฏิบัติหน้าที่ช่วยเหลือคนเจ็บอยู่นั้น หลายคนจะมองไม่ดีในการช่วยเหลือ อย่างไรก็ตาม เป็นการช่วยเหลือผู้บาดเจ็บหลังจากที่ตนประเมินอาการคนเจ็บแล้วว่าสามารถที่จะทำได้ และคำนึงถึงความปลอดภัยของคนเจ็บเป็นหลัก เพราะอาการสาหัสมาก โดยที่บริเวณลำคอมีบาดแผลฉกรรจ์

สำหรับตนนั้นมีอาชีพทำธุรกิจหลายอย่าง แต่การทำงานกู้ภัยเป็นงานอาสาที่ตนรัก เพราะอยากทำเพื่อสังคมและบ้านเกิดของตนเอง ซึ่งแม้เกิดเหตุการณ์นี้ก็ยังจะทำงานนี้ต่อไป กระแสโซเชียลที่เกิดขึ้น ไม่สามารถทำให้ตนถดถอยกำลังใจที่จะปฏิบัติหน้าที่ต่อไปได้ ทั้งนี้หวังว่าสังคม คงเข้าใจในสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งเป็นการช่วยชีวิตคนในภาวะฉุกเฉิน และเร่งรีบทำเวลาในช่วง พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เพราะช่วงนั้นเป็นเวลาประมาณ 21.20 น.

ขณะที่นายจิติภักร พลไกรศร อายุ 39 ปี ชาวบ้านที่ถ่ายคลิปวีดีโอ กล่าวว่า ช่วงที่เกิดเหตุนั้นเป็นเวลาประมาณ 21.00 น. ขณะที่กำลังนั่งทานข้าวกับเพื่อนใกล้ที่เกิดเหตุ โดยห่างจาก 4 แยกไฟแดงบ้านบ่อประมาณ 100 เมตร ได้ยินเสียงเหมือนรถชนกัน จึงชวนเพื่อนขับรถจักรยานยนต์ออกมาดู พบรถกู้ภัยของเทศบาลตำบลธัญญา จอดกั้นทางจราจรไว้ เพื่อกันพื้นที่ไม่ให้รถคันอื่นชนรถที่ประสบอุบัติเหตุ ซึ่งเป็นรถยนต์กระบะ อีซูซุ  สีดำ จอดนิ่งอยู่ฝั่งด้านด้านทิศตะวันออก ในลักษณะเสียหลักข้ามเลนมาจากฝั่งตะวันตก ขณะที่รถคู่กรณี เป็นรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า บิ๊กไบค์ สีดำ ทะเบียน  พกย 375 กรุงเทพมหานคร จอดอยู่ใกล้เสาสัญญาณไฟ ในสภาพพังยับเยิน ใกล้กันพบร่างคนได้รับบาดเจ็บสาหัสนอนแน่นิ่งอยู่

นายจิติภักร กล่าวอีกว่า เป็นครั้งแรกที่ตนเห็นเหตุการณ์ที่คนถูกรถชนคนและได้รับบาดเจ็บสาหัส ซึ่งก็ลุ้นอยู่ว่าเจ้าหน้าที่กู้ชีพกู้ภัยจะเข้าไปให้ความช่วยเหลือคนเจ็บอย่างไร ขณะนั้นก็มีรถตู้ของกู้ภัยหน่วยหนึ่งวิ่งเข้ามาจอดอยู่ใกล้ๆกับร่างคนบาดเจ็บ จากนั้นก็เห็นเจ้าหน้าที่กู้ภัยผู้ชายคนหนึ่ง ซึ่งไม่ได้สวมชุดกู้ภัย ลงเข้าไปให้ความช่วยเหลือคนเจ็บ ด้วยความที่ตนอยากจะรู้ว่ากู้ภัยจะช่วยเหลือคนเจ็บอย่างไร จึงได้นำมือถือที่พกติดตัวไปขึ้นมาถ่ายคลิปและไลฟ์สด ตามภาพที่ปรากฏในคลิป และไม่คาดคิดว่าจะเป็นกระแสโด่งดังในโลกโชเชียลดังกล่าว ส่วนประเด็นการช่วยเหลืออย่างไรแบบไหนนั้นตนไม่ขอออกความเห็น