ข่าวอาชญากรรม

สุรินทร์ หญิงสาวร้องนักข่าวถูกสื่อท้องถิ่นเมาบุกรุกบ้านยามค่ำคืน แถมขู่และขับรถเก๋งพุ่งชน ขณะที่สื่อท้องถิ่นบอกไม่ผิดแจงไปที่อยากดังเดี๋ยวจัดให้ รีเทริน์ part 6 มาทำข่าวลูกไล่พ่อออกจากบ้าน

จากกรณีเพจอยากดังเดี๋ยวจัดให้ รีเทริน์ part 6 มีสมาชิกเพจแจ้งเรื่องร้องเรียน..ข้อเท็จจริงคือ ?? ฝากพี่ๆช่องวัน 31 ช่วยสกรีนตรวจสอบด้วย สตก.ข่าวพื้นที่ใช่หรือไม่ มีข้อความว่าสวัสดีค่ะ ขอร้องทุกข์หน่อยค่ะฝากเรื่องนักข่าวกร่าง บุกรุกบ้านยามค่ำ ฝ่ายเมียนักข่าว พยายามขับรถชนข่มขู่ด้วยคำพูดหยาบคายและการกระทำ ขอฝากเพจพี่ด้วยนะคะยังมีเรื่องที่จะต้องเล่าอีกเยอะเลยค่ะอยากให้พี่ช่วย เขาอ้างตัวว่าเป็นนักข่าวช่องวัน 31 ค่ะเขาว่าเขาชื่อ ก…อยู่ๆก็บุกรุกเข้ามาเขากับเมีย 2 คนตอน 3 ทุ่มกว่ามาหาเรื่องหนูถึงในบ้านเลยค่ะพยานแวดล้อมมีเป็น 10 คน.คลิปหลักฐานวิดีโอนักข่าวกร่าง บุกรุกบ้านยามวิกาลก็พร้อมเปิดหลักฐานเด็ดๆมางัดสู้กัน อยู่ในบ้านดีๆก็ถูกเข้ามาหาเรื่องแถมเจ้าบ้านยังผิดอีก นายสั่งสอบสวน!! ถามก่อนสอบสวนเรื่องอะไรทั้งที่เขามาหาเรื่องเราถึงในบ้านในอาณาเขตของเรากรุณาแยกแยะด้วยค่ะดูให้ออกใครหาเรื่องใครเสธอย่าฟังความข้างเดียว

ถ้าในเมื่อลูกช่วยแม่ที่พิการโดนพ่อตีทุกวันเนื่องจากเมาเหล้าทุกวันแล้วมันผิดก็พร้อมบวกวันจันทร์เจอกันค่ะดิฉันจะเอาตำรวจสายตรวจมาเป็นพยานก็ได้เพราะดิฉันแจ้งมาเป็นประจำให้มาระงับเหตุที่บ้านเนื่องจากพ่อเมาอาละวาดทำลายข้าวของภายในบ้านและก็ตีแม่ที่เป็นพิการเส้นเลือดสมองตีบ #ส่วนนักข่าวที่แอบอ้างรู้จักเสธยศใหญ่แล้วมาข่มขู่บุกรุกบ้านคนอื่นยามค่ำคืนจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด นักข่าวกร่าง บุกรุกยามวิกาล เมียนักข่าว พยายามขับรถชน ข่มขู่ด้วยคำพูดหยาบคายและการกระทำ จะใช้กำลังประทุสร้าย นักข่าวกร่าง เมาแล้ว อ้างว่ารู้จักเสธยศใหญ่จะสั่งให้เสธเอาลูกน้องออกจากงาน #วันจันทร์เจอกันค่ะพร้อมชนทุกสถานการณ์ จะแต่งเรื่องให้คนสงสารก็แต่งให้มันสวยๆงามๆหน่อย อย่าแต่งให้มันขี้เหร่เหมือนหน้าตามึงสิว๊อยยย นักข่าวฝั่งเรา 5-6 ช่องก็พร้อมที่จะติดตามไปสัมภาษณ์ความจริง #ฝากแชร์ออกไปค่ะ

หลังจากนั้นได้มีการอัพเดทเคส…ผู้สื่อข่าวพื้นที่ จ.สุรินทร์ ชี้แจงของสื่อมวลชนท้องถิ่นที่อยู่ในคลิปส่งต่อให้กับอยากดังเดี๋ยวจัดให้ รีเทริน์ part 6 ให้นำเสนอกรณีที่เป็นเหตุ ลูกทำร้ายพ่อและไล่ออกจากบ้าน พ่อของคนที่ให้ข่าวขอร้อง ทีมข่าวจึงได้ลงพื้นที่เลยไปถามว่าทุบรถผมทำไมแล้วชายเสื้อฟ้าบอกว่าเขาเป็นทหารตอนนี้พ่อเขาออกไปอยู่ที่ ต.โคคอสุรินทร์ สุรินทร์ – ร้องสื่อ ลูกทรพีทำร้ายบิดาไล่ออกจากบ้าน

ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนว่า ลูกทำร้ายร่างกายบิดา พร้อมกับไล่ออกจากบ้าน ทั้งๆที่เป็นบ้านพักอาศัยตนสร้างขึ้นเอาไว้ตั้งแต่ปี 45 คุณต้องระเหเร่ร่อนไปอยู่กับบ้านญาติ ซึ่งมีลูกสาวต่างมารดาอีกคนมารับตัวไป ผู้สื่อข่าวจึงได้ลงพื้นที่ไปสอบถามกับทางลูกที่ไล่พ่อออกจากบ้านทราบชื่อภายหลังว่าชื่อ นางสาวสุวรรณ สังข์ลาย และสามีซึ่งอ้างตนว่าเป็นทหารแต่ไม่ทราบว่าอยู่สังกัดไหน ซึ่งอยู่บ้านเลขที่ 31/2 ถ.ทุ่งโพธิ์ ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดสุรินทร์ ซึ่งเป็นบ้านชั้นเดียวอยู่ในเขตพื้นที่ของทางเทศบาลเมืองสุรินทร์ กลับโดนด่าและไล่ทุบรถของผู้สื่อข่าว จึงได้เถียงกัน แล้วออกจากพื้นที่ วันรุ่งขึ้นจึงได้ไปสอบถามกับทางผู้ที่ร้องเรียนกับทางผู้สื่อข่าวชื่อนายเหียง สังข์ลาย อายุ 67 ปี เป็นคนที่ถูกทำร้ายและเป็นคนที่โดนนางสาวสุวรรณซึ่งเป็นบุตรสาวไล่พ่อออกจากบ้าน ซึ่งตอนนี้พ่อได้ระเหเร่ร่อนไปอยู่อาศัยกับบ้านญาติอีกที่หนึ่ง ที่อยู่ทางตำบลคอโค อำเภอเมือง จังหวัดสุรินทร์ ส่วนแม่นางสาวสุวรรณ สังข์ลาย ที่เป็นภรรยาของ นายเหียง สังข์ลาย เป็นชาวกัมพูชา

นายเหียง สังข์ลาย อายุ 61 (ถอดเสื้อ) พ่อที่ถูกทำร้ายและไล่ออกจากบ้าน ได้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า เมื่อคืนกลางดึกของวันที่ 1 กันยายน 2566 ว่าโดน นางสาวสุวรรณ สังข์ลาย ทำร้ายร่างกาย แล้วบ้านตรงนี้ตนเองเป็นคนสร้างตั้งแต่สมัยปี 45 แล้วได้นำที่ดินไปจำนำพร้อมกับเอารถของตนเองไปจำนำ ซึ่งเป็นรถที่ตนซื้อเองมาด้วยเงินสด คนนี้เป็นลูกแต่ไม่มั่นใจว่าเป็นลูกแท้ๆหรือเป็นลูกใคร แต่ว่าเซ็นรับรองเป็นบุตร จึงได้ขอร้องทีมข่าวให้ลงพื้นที่ตรวจสอบว่าเป็นอย่างไร โดยปกติแล้วลูกแท้ๆจะไม่ทำแบบนี้จะไม่ไล่พ่ออย่างนี้แต่นี่ไล่พ่อออกจากบ้าน หลานนายเหียง สังข์ลาย ซึ่งเป็นลูกของลูกสาวต่างบรรดาอีกคนหนึ่ง ได้บอกผู้สื่อข่าวว่า สงสัยน้องอั๋นแม่ที่ไปรับตาก็โดนทำร้ายร่างกาย ด้วยการโยนกระติกน้ำใส่โดนหัว แล้วก็ด่าตากับแม่ว่าไอ้เหี้ย ไอ้สัตว์ แล้วก็ไล่ตาออกจากบ้านรูป คนที่ทำร้ายบิดาพร้อมกับไล่ออกจากบ้าน ( เสื้อลาย )

ล่าสุดวันที่ 3 กันยายน 2566 ทีมข่าวลงพื้นที่บ้านเลขที่ 31/2 ถ.ทุ่งโพธิ์ อ.เมือง จ.สุรินทร์ ซึ่งบ้านหลังดังกล่าวมีสมาชิกอยู่ด้วยกัน 8 คน ทีมข่าวได้พบกับ น.ส.สุวรรณ สังข์ลาย อายุ 20 ปี(เจ้าของบ้าน)เป็นเจ้าของคลิปดังกล่าว ได้เล่าว่าเมื่อวันที่ 1 กันยาน 2566 เวลา 21.20 น.โดยช่วงเวลาดังกล่าวตนกับนายเฮียง สังข์ลาย(พ่อ)และ น.ส.มลฤดีฯ(พี่สาว)ต่างแม่ได้ทะเลาะกันเรื่องที่ตนบอกว่าให้ไปกินสุรากันที่อื่น โดยนิสัยพ่อเวลาเมาแล้วชอบปาขวดแล้วจะเข้ามาทำร้ายร่างกาย นางกิมหงส์(แม่)ที่ตนดูแลอยู่ ซึ่งในเหตุการณ์นั้น น.ส.มลฤดีฯ(พี่สาว)ต่างแม่ ได้โทรศัพท์เรียก น.ส.เบิ้ล (อ้างว่าเป็นนักข่าวช่องหนึ่ง) ได้ขับรถยนต์เก๋งยี่ห้อฮอนด้าซิตี้สีบรอนซ์ หมายเลขทะเบียน กน-9812 สุรินทร์ ได้เข้ามาจอดรถในบริเวณบ้านของตน และลงมาจากรถได้ก็เดินเข้ามาพร้อมกับหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาถ่ายและได้พูดจาก่อกวน ตนจึงได้บอกว่าไม่อนุญาตให้ถ่ายภาพและทำไมต้องมาบุกรุกเข้ามายามดึกโดยไม่ขออนุญาต ตนได้รับคำตอบว่าเป็นนักข่าว (ช่องวัน) ได้รับการร้องเรียนมาว่าลูกไล่พ่อก็มาทำข่าวปกติสามารถเข้าถ่ายภาพได้ทุกทีไม่ต้องขออนุญาต โดยตนได้บอกว่าให้ออกไปจากพื้นที่บริเวณบ้านตนแต่ น.ส.เปิ้ล(อ้างว่าเป็นนักข่าว)พูดว่าตนต่างๆนาๆพร้อมกับได้ขึ้นรถยนต์เก๋งพร้อมทั้งขับวิ่งเข้ามาชนตน ซึ่งตนได้รับบาดเจ็บที่หัวเข่าเล็กน้อย ตนจึงรีบไปเคาะกระจกรถยนต์เก๋งเพื่อให้ น.ส.เปิ้ล ลงมาจากรถเพื่อคุยกันแต่ น.ส.เปิ้ลได้ขับรถออกไป จากนั้นผ่านไปประมาณ 10 นาทีได้มี น.ส.เปิ้ลและแฟนของ น.ส.เบิ้ล ชืี่อว่ากร ได้พูดจาในลักษณะที่เป็นการยั่วโมโหและก่อกวนเสียงดัง ได้ตะโกนว่าใครทุบรถกู เดี๋ยวมึงเจอกู ซึ่งทำให้ตนได้รับความเสียหายเนื่องจากตนไม่ได้อนุญาตให้น.ส.เบิ้ลและแฟนของนางเปิ้ล เข้ามาภายในบริเวณภายในบ้าน ตนจึงเข้าร้องทุกข์ให้ดำเนินคดีกับนางเปิ้ล และ แฟนของนางเปิ้ล ซึ่งตนจะให้ดำเนินคดีให้ถึงที่สุด เพราะการเป็นผู้สื่อข่าวก็ไม่มีสิทธิ์คุกคามคนอื่นได้

ทีมข่าวทราบว่า คนในคลิปใส่เสื้อช่องวันคือ นายธนากรฯจึงได้โทรศัพท์ติดต่อเพื่อขอสัมภาษณ์ถึงเหตุการณ์ดังกล่าว แต่ได้รับคำตอบว่าไม่สะดวกที่จะให้สัมภาษณ์เรื่องดังกล่าว แต่นายธนากรบอกเพียงสั่นๆว่า ผมไปทำข่าวเพราะถูกร้องเรียนมาไม่ถือว่าบุกรุก และผมกับแฟนก็ไม่ได้ขับรถชนด้วย แต่ผมเองที่ถูกทุบรถ ตนก็ไม่ทราบมาก่อนด้วยว่าทางพ่อนั้นเคยตีแม่มาก่อนด้วย และถ้าอยากได้ข้อมูลเพิ่มให้ไปติดตามดูได้ที่เพจอยากดังเดี๋ยวจัดให้ เพราะตนได้อธิบายไว้ในโพสต์นั้นหมดแล้ว