ข่าวอาชญากรรม

นครพนม วิญญาณเด็กปั๊มเหี้ยน อยากกลับบ้าน ญาตินิมนต์พระสงฆ์สวดส่งวิญญาณที่ปั๊ม ขณะที่คดียังไม่คืบ


จากกรณีคนร้ายก่อเหตุใช้อาวุธปืนยิงนายพรมจักร อายุ 33 ปี ชาวลาวอยู่ แขวงบริคำไชย หลานชาย ภรรยาเจ้าของปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่งใน ต.บ้านผึ้ง อ.เมือง จ.นครพนม และใช้อาวุธปืนไม่ทราบชนิดจ่อยิง น.ส.วิชุดา อายุ 50 ปี พนักงานปั๊ม ชาว บ้านดอนม่วง ม.9 ต.บ้านผึ้ง อ.เมือง จ.นครพนม เสียชีวิตคาที่ เหตุเกิดเวลาประมาณ 22.00 น. วันที่ 29 ธ.ค.2566 ภายหลังเจ้าหน้าที่ตำรวจตั้งปมสังหารไว้หลายประเด็น ทั้งปมชู้สาว ขัดผลประโยชน์ และหนี้สินพร้อมหิ้วตัวผู้ต้องสงสัย 3 รายมาสอบเครียด พร้อมตรวจสอบดีเอ็นเอและเก็บตัวอย่างชิ้นเนื้อในซอกเล็บของผู้ตาย นำไปตรวจสอบอย่างละเอียดตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ความคืบหน้าล่าสุดเมื่อ เวลา 09.30 น. วันที่ 2 ม.ค.2567 นายชาตรี อายุ 61 ปี และนางสมจิตร อายุ 57 ปี สองสามีภรรยาเจ้าของปั๊ม นิมนต์พระครูโพธิกิจวิมล เจ้าคณะตำบลในเมืองเขต 1 เจ้าอาวาสวัดโพธิ์ศรี พร้อมพระสงฆ์รวม 4 รูป มาสวดเพื่อเชิญดวงวิญญาณ นายพรหมจัก และ น.ส.วิชุดา 2 พนักงานปั๊มผู้ตายกลับบ้าน และไปสู่ภพภูมิที่ดีตามความเชื่อตามประเพณีของชาวอีสาน โดยมีญาติและเพื่อนร่วมงานทั้ง 3 ปั๊มของผู้ตายมาร่วมพิธี หลังญาติแต่งขันธ์ห้า เขียนชื่อ-สกุล-อายุ ผู้ตายทั้งคู่ในกระดาษ พระสงฆ์สวดคาถาถอด สวดมาติกาบังสุกุล เผากระดาษที่เขียนชื่อและกรวดน้ำลงบนจาน เพื่อบอกกล่าวให้พระภูมิเจ้าที่และดวงวิญญาณผู้ตายรับทราบ ก่อนจะสวดชยันโต เพื่อให้เรื่องร้ายกลายเป็นดีและเป็นสิริมงคลแก่เจ้าของปั๊ม

จากนั้นจึงนำขันน้ำมนต์ประพรหมผู้ร่วมพิธี และที่หัวจ่ายของปั๊ม 4 ตัว ก่อนที่ น.ส.สุภิรม น้องสาวนายพรหมจัก พร้อมญาติจะนำผ้าห่ม กางเกงบ็อกเซอร์ของผู้ตายเปื้อนคราบเลือดเผาทิ้ง

นายชาตรี กล่าวว่า ตั้งแต่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจเรียกไปสอบปากคำแค่ครั้งเดียว ถ้าตำรวจจับคนร้ายยังไม่ได้ก็ไม่กระจ่าง เท่าที่ให้การกับตำรวจไปก็ไม่น่าจะเป็นประเด็นอะไร ส่วนสงสัยใครเป็นคนร้ายที่ลงมือก่อเหตุหรือไม่ ตนไม่ทราบ โดยปกติตนจะมาปั๊มที่นี้เฉพาะในวันที่รถบรรทุกมาลงน้ำมันเท่านั้น

นางพตฉรัตน์ หรือ หญิง อายุ 44 ปีอยู่ บ้านเลขที่ 116 บ้านดอนม่วง ต.บ้านผึ้ง อ.เมือง จ.นครพนม ลูกพี่ลูกน้องกับ น.ส. วิชุดา เด็กปั๊มที่ถูกฆ่าโหด เปิดเผยว่า หลังวันเกิดเหตุคือวันที่ 31 ธันวาคม หลังจากตนไปซื้อของที่ตลาดนัดบริเวณหน้าค่ายพระยอดเมืองขวาง หลังจากซื้อของเสร็จได้ขับขี่รถจักรยานยนต์กลับบ้าน ระหว่างทางจะผ่านหน้าปั๊มที่เกิดเหตุ และเมื่อตนขับผ่านหน้าปั๊มซึ่งเป็นช่วงโพล้เพล้ เวลาประมาณ หกโมงเย็น ตนได้มองเข้าไปที่ปั๊มก็พบเห็นร่างของนางวิชุดา ยืนอยู่บริเวณหัวจ่ายน้ำมัน ลักษณะเหมือนยืนร้องไห้ ยังไม่รู้ว่าตัวเองเสียชีวิตแล้ว ซึ่งปกติตนจะเป็นคนที่มักจะเห็นวิญญาณของคนที่เสียชีวิต แล้วเสมอ โดยเห็นตั้งแต่เด็กเรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน โดยวันนั้นจะเห็นแต่วิญญาณของผู้หญิงเพียงคนเดียว โดยวันนั้นตนขับรถผ่านหน้าปั๊มซึ่งอยู่ในระยะห่างพอสมควร พอหันมองเข้าไปที่ปั๊มก็เห็นร่างของผู้ตายยื่นอยู่ลักษณะเหมือนรอคอยอยากกลับบ้าน แต่ยังกลับไม่ได้ โดยตนได้กลับมาเล่าให้ญาติ ๆ ฟังก็มีความเห็นว่าจะนิมนต์พระไปทำพิธีเชิญดวงวิญญาณผู้ตาย กลับบ้านในวันศุกร์นี้

โดยศพของนางวิชุดา ที่ฝากไว้ที่ห้องเย็นของโรงพยาบาลนครพนม ทางญาติตกลงกันว่าจะไปรับ เพื่อนำกลับมาตั้งบำเพ็ญกุศลที่ บ้านดอนม่วง ม.9 ต.บ้านผึ้ง อ.เมือง จ.นครพนมในวันที่ 5 มกราคม 67 ก่อนจะมีพิธีฌาปนกิจในวันรุ่งขึ้นทันที

ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่ สภ.เมืองนครพนม เพื่อสอบถามความคืบหน้าเกี่ยวกับคดีนี้กับ พ.ต.อ.ภาคภูมิ เตชะเรืองศิลป์ ผกก.สภ.เมืองนครพนม แต่ไม่พบ จึงโทรศัพท์ติดต่อแต่ไม่รับสาย มี รอง ผกก.คนหนึ่ง ให้คำตอบสั้นๆ ว่า คดีนี้ ตำรวจยังมืดแปดด้าน โดยยังไม่ได้ตัดประเด็นใด ๆ ที่สงสัยทิ้ง โดยชุดสืบสวนยังคงลงพื้นที่แกะรอยคนร้ายรายนี้อย่างต่อเนื่อง