ข่าวอาชญากรรม

บุรีรัมย์ สลดหนุ่ม 47 เครียดถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกดูดเงินเก็บทั้งชีวิต 4 แสนผูกคอลาโลกแม่วอนเร่งล่าตัวดำเนินคดี

หนุ่ม 47 ชาว อ.ละหานทราย จ.บุรีรัมย์ เครียดถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์ โทรหลอกเป็น ตร.อ้างมีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำผิดกฎหมาย ต้องโอนย้ายเงินไปตรวจสอบ ก่อนหลอกเปิดแอปแล้วดูดเงินเก็บสะสมทั้งชีวิตที่ไว้เลี้ยงแม่วัยชราและส่งลูกเรียน 4 แสนเกลี้ยง ผูกคอลาโลก แม่วอนจับตัวผู้กระทำผิดดำเนินคดี

วันที่ 20 ก.พ. 2567 ครอบครัวและญาติได้นำศพของ นายวีราพัชร์ กลิ่นหวล อายุ 47 ปี ซึ่งมีอาชีพรับจ้างทั่วไป เป็นชาวตำบลโคกว่าน อ.ละหานทราย จ.บุรีรัมย์ ไปตั้งบำเพ็ญกุศลที่วัดปานใจนาราม อ.ละหานทราย หลังจากพบศพผูกคอเสียชีวิต บนต้นมะขามบริเวณหลังบ้านของตัวเองที่อาศัยอยู่กับแม่วัยชรา เมื่อเวลาประมาณ 15.00 น. วานนี้ (19 ก.พ.67) โดยสาเหตุเนื่องจากเกิดความเครียดสะสม ภายหลังจากถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์โทรมาแอบอ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ปาย จ.แม่ฮ่องสอน แล้วหลอกว่านายวีราพัชร์ ผู้ตายมีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำผิดกฎหมาย ต้องทำการโอนย้ายเงินในบัญชีทั้งหมดที่มีไปอีกธนาคาร แล้วหลอกล่อให้ทำแอปพลิเคชั่นธนาคารในมือถือ ก่อนจะใช้กลอุบายหลอกดูดเงินในบัญชีที่ผู้ตายเก็บสะสมมาทั้งชีวิตจำนวน 400,000 บาท เพื่อจะเก็บไว้ใช้เลี้ยงดูแม่วัยชราและส่งเสียลูกเรียนหมดเกลี้ยง

โดยจากการตรวจสอบข้อมูลในโทรศัพท์มือถือของผู้ตาย พบว่ามีข้อความการสนทนาผ่านแอพพลิเคชั่นไลน์ กับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่อ้างตัวว่าเป็นตำรวจ สภ.ปาย ตั้งแต่วันที่ 28 พ.ย.2566 ในลักษณะหลอกให้โอนย้ายเงินในบัญชีจากธนาคารที่ใช้อยู่ไปอีกธนาคารหนึ่ง พร้อมหลอกล่อให้ทำแอปธนาคารในมือถือด้วย ทั้งยังมีการส่งข้อความข่มขู่ด้วยว่า “หากคิดจะหลบหนีหรือบ่ายเบี่ยงจะให้เจ้าหน้าที่เข้าไปคุมตัว ผมช่วยอะไรไม่ได้” ทำให้ผู้ตายกลัวและหลงเชื่อทำตามที่แก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกทุกอย่าง กระทั่งเวลา 10.48 นาที วันที่ 29 พ.ย.2566 พบมีข้อความแจ้งเตือนว่าเงินถูกโอนออกจากบัญชีจำนวน 400,000 บาท คงเหลือเงินในบัญชีเพียง 98.64 บาท พอผู้ตายรู้ตัวว่าหลงกลแก๊งคอลเซ็นเตอร์จนสูญเงินที่เก็บมาทั้งชีวิตหมดเกลี้ยง ก็เกิดความเครียดมาตลอดจนสุดท้ายจึงตัดสินใจผูกคอเสียชีวิต

ด้านนางคืน กลิ่นหวล อายุ 76 ปี แม่ของผู้ตาย เล่าว่า ก่อนที่ลูกจะถูกดูดเงินในบัญชีก็เล่าให้ฟังว่า มีคนโทรมาแนะนำตัวว่าเป็นตำรวจบอกว่าลูกไปเกี่ยวข้องกับการกระทำผิดกฎหมาย ต้องทำการตรวจสอบเงินในบัญชีไม่งั้นจะถูกจับ แต่เวลาที่ลูกรับโทรศัพท์ก็จะไม่คุยให้แม่ได้ยินจะชอบไปคุยบนบ้านคนเดียว กระทั่งรู้ว่าถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกดูดเงินค่อยมาระบายให้แม่ฟัง แล้วก็เกิดความเครียดมาตลอด เพราะเงินที่แก๊งคอลเซ็นเตอร์ดูดเอาไป เป็นเงินเก็บสะสมมาทั้งชีวิตทั้งส่วนของแม่และของลูกชายเอง แต่ตนให้ลูกเป็นคนเก็บไว้ในบัญชีของลูก ก็ไม่คิดว่าลูกจะหลงเชื่อแก๊งคอลเซ็นเตอร์ถูกดูดเงินจนหมดเกลี้ยง ก็พยายามปลอบลูกว่าหมดแล้วก็ตั้งใจทำงานหาใหม่แต่ก็ไม่คิดว่าลูกจะเครียดถึงขั้นคิดสั้น ก็อยากฝากถึงแก๊งคอลเซ็นเตอร์ให้เอาเงินมาคืน พร้อมวอนให้เจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยติดตามจับกุมแก๊งคอลเซ็นเตอร์มาดำเนินคดีตามกฎหมาย จะได้ไม่ไปก่อเหตุกับใครอีก