คืบหน้า หน.เขตรักษาพันธุ์ป่าดงใหญ่ จ.บุรีรัมย์ รุดเยี่ยมลุงวัย 60 ถูกหมีควายป่าทำร้ายบาดเจ็บขณะเข้าไปแหย่ไข่มดแดงใกล้สวนยาง สั่งจัดชุดลาดตระเวนทั้งกลางวันกลางคืนป้องกันเกิดเหตุ ขณะลุงเล่านาทีถูกขย้ำฮึดสู้เฉียดตาย ผวาไม่กล้าเข้าป่าอีกนาน
ความคืบหน้ากรณีที่หมีควายป่าทำร้าย นายภูมิน จ้อยสาคู อายุ 60 ปี ชาวบ้านบ้านป่าไม้สหกรณ์ ต.ลำนางรอง อ.โนนดินแดง จ.บุรีรัมย์ ได้รับบาดเจ็บที่มือข้างขวา และขาขวาเป็นแผลขนาดใหญ่ เมื่อวานนี้ (10 มี.ค.67) ขณะเข้าไปหาแหย่ไข่มดแดง ใกล้สวนยางพาราบ้านทรัพย์สมบูรณ์ ต.ลำนางรอง ซึ่งอยู่ห่างจาก รพ.โนนดินแดง ไม่ถึง 1 กิโลเมตร
ล่าสุด (11 มี.ค.67) นายสมส่วน รักสัตย์ หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าดงใหญ่ ได้เดินทางเข้าเยี่ยมอาการบาดเจ็บของนายภูมิน จ้อยสาคู ซึ่งยังรักษาตัวอยู่ที่ รพ.โนนดินแดง พร้อมมอบเงินช่วยเหลือของกลุ่ม SAVE ฅน SAVE ช้าง จำนวน 3,000 บาท ให้กับผู้บาดเจ็บด้วย โดยล่าสุดอาการพ้นขีดอันตรายแล้ว สามารถพูดคุยสื่อสารได้ แต่ยังมีอาการปวดที่บาดแผลเพราะแผลค่อนข้างลึก ก็อยู่ในความดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด
จากการสอบถามลุงภูมิน คนเจ็บ ก็ได้เล่าถึงนาทีที่ถูกหมีควายกระโจนเข้าทำร้ายว่า ตอนนั้นกำลังเดินหารังมดแดง จู่ๆ หมีควายตัวดังกล่าวซึ่งมีขนาดใหญ่มาก ก็กระโจนใส่แบบไม่ทันตั้งตัว ทั้งใช้เท้าตะปบที่มือ และกัดขา ซึ่งตอนนั้นในมือของตนถือมีดตะขออยู่ จึงตัดสินใจฮึดสู้ด้วยการแกว่งมีดไปมา เพราะคิดว่าหากหันหลังวิ่งหนี หรือล้มลงก็คงไม่รอด ซึ่งจังหวะที่แกว่งมีดไปมาเพื่อเอาตัวรอด คาดว่ามีดน่าจะไปโดนหมีบาดเจ็บเหมือนกัน จึงได้หนีเข้าป่าไป ตนจึงโทรบอกเมียให้มาช่วยพาส่ง รพ. จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก็รู้สึกหวาดผวา ก็คงไม่กล้าไปแหย่ไข่มดแดงแถวนั้นอีก
จากนั้นหัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าดงใหญ่ ยังได้ลงพื้นที่ตรวจสอบจุดเกิดเหตุ พบเป็นพื้นที่ทำการเกษตรของชาวบ้าน มีทั้งสวนยางพารา มันสำปะหลัง และสวนยูคาลิปตัส ซึ่งเป็นพื้นที่ติดต่อกับเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าดงใหญ่ มีคูกันช้างคั้นกลาง จากการตรวจสอบยังพบร่องรอย ของสัตว์ป่าทั้งช้าง หมี และกระทิง วนเวียนหากินอยู่บริเวณดังกล่าว จึงได้ขอความร่วมมือกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน แจ้งเตือนประชาสัมพันธ์ให้ชาวบ้านระมัดระวัง หากพบเห็นช้าง หมี หรือสัตว์ป่า ออกมาหากินนอกเขตป่า ก็ให้แจ้งเจ้าหน้าที่ไปทำการผลักดันกลับเข้าป่าเพื่อความปลอดภัย ทั้งนี้ยังได้จัดชุดเจ้าหน้าที่และอาสา ออกลาดตระเวนทั้งกลางวันและกลางคืน เพื่อเฝ้าระวังป้องกันไม่ให้หมีหรือสัตว์ป่าออกมาทำร้ายชาวบ้านอีก