วันที่ 28 มีนาคม 2567 เมื่อเวลา 16.30 น. ศูนย์วิทยุ 191 ได้รับแจ้งจากนางวิลาวัลย์ กลับสุข อายุ 58 ปี ว่าลูกชายขาดยาเอะอะโวยวายขอเงินไม่ได้ก็เข้ามาทำร้ายร่างกายขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาช่วยจับไปรักษาที่โรงพยาบาลสุรินทร์ อยู่ที่ซอยบ้านน้ำดื่มสายรุ้ง บ้านโคกปลัด อ.เมือง จ.สุรินทร์ จึงได้ประสาน พ.ต.ท.ชัยสิทธิ์ ทุดบุญ สวป.สภ.เมืองสุรินทร์ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสายตรวจพร้อมนำอุปกรณ์ไม้ง่ามครบมือกว่า 10 นาย และอาสาสมัครสมาคมวีอาร์กู้ชีพสุรินทร์ รีบรุดไปตรวจสอบและให้การช่วยเหลือ
ที่เกิดแหตุเป็นบ้าน 2 ชั้นครึ่งปูครึ่งไม้ บ้านปิดล็อคทั้งหมดเนื่องจากผู้ป่วยขังตัวเองไว้ในบ้าน พ.ต.ท.ชัยสิทธิ์ ทุดบุญ สวป.สภ.เมืองสุรินทร์ พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดไม้ง่ามครบมือกว่า 10 นายมาถึงที่เกิดเหตุพบนางวิลาวัลย์ กลับสุข(แม่หนุ่มขาดยา)อายุ 58 ปี ได้หนีออกมาอยู่ข้างนอกบ้านได้บอกกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า คนที่อยู่ภายในบ้านนั้นเป็นลูกชายของตนเอง ชื่อนายธวัชชัย กลับสุข หรือท็อป(หนุ่มคลั่งขาดยา) อายุ 32 ปี ป่วยเป็นจิตเวชมาหลายปีแล้วซึ่งไม่ได้กินยามาหลายวันแล้วได้ล็อคบ้านปิดประตูหน้าต่างเงียบ โดยก่อนหน้านี้นายธวัชชัย กลับสุข หรือท็อป(หนุ่มคลั่งขาดยา)ได้เกิดอาการคลุ้มคลั่งโวยวายเพราะขอเงินพ่อกับแม่ไม่ได้ จึงได้เดินเข้ามาทำร้ายตน โดยเตะเข้ามาที่ชายโครงด้านซ้ายตนจนตนกระแทกกับข้างฝาบ้าน ตนนั้นเจ็บและจุกเป็นอย่างมาก ตนอยากจะให้เจ้าหน้าที่ตำรวจนำตัวลูกชายไปโรงพยาบาลสุรินทร์เพื่อบำบัดรักษาอีกที
จากนั้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ให้ทางพ่อของนายธวัชชัย กลับสุข หรือท็อป (หนุ่มคลั่งขาดยา) เข้าไปเจรจาให้ตัวนายท็อปนั้นลงมาจากชั้น 2ของตัวบ้าน เพื่อมาพูดคุยกัน แต่ได้รับการปฏิเสธมีแต่เสียงพูดคำว่าได้กินยาจิตเวชเรียบร้อยแล้วจะพักผ่อน ไม่ไปไหนทั้งนั้น คนอื่นไม่เกี่ยวให้กลับไป
ขณะที่ พ.ต.ท.ชัยสิทธิ์ ทุดบุญ สวป.สภ.เมืองสุรินทร์ ใช้ขั้นแรกก่อนคือได้เดินเข้าด้านหลังบ้านเข้าเจรจากับนายท็อป (หนุ่มคลั่งขาดยา) ซึ่งการพูดคุยกับนายท็อป(หนุ่มคลั่งขาดยา) นั้น ยังพูดคุยกันรู้เรื่องไม่ได้มีอาการโวยวายแต่อย่างไร เจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงได้แจ้งกับนายท็อป(หนุ่มคลั่งขาดยา) ถ้าทานยาแล้วก็พักผ่อนนะอย่าให้พี่ต้องมาอีกรอบนะ และอย่าไปทำร้ายพ่อกับแม่นะ ซึ่งนายท็อป(หนุ่มคลั่งขาดยา)ได้ตอบมาว่า พ่อแม่เองก็ต้องไม่เรื่องมากด้วย ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจยังบอกอีกว่าให้เชื่อฟังพ่อแม่นะ ด้านนายท็อป (หนุ่มคลั่งขาดยา) กลับตอบว่า ถ้าพ่อแม่ให้ตังค์ก็จะเชื่อฟังพ่อแม่ ถ้าไม่ให้ตังค์ก็จะไม่เชื่อฟัง โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจใช้เวลาเจรจาประมาณ 2 ชั่วโมง เหตุการณ์ทุกอย่างสงบลงไปด้วยดี
นางวิลาวัลย์ กลับสุข(แม่หนุ่มขาดยา) กล่าวว่า ตนนั้นกำลังทำความสะอาดอยู่ภายในบ้าน ได้ยินนายธวัชชัย กลับสุข หรือท็อป(หนุ่มคลั่งขาดยา) ลูกชายได้เดินมาขอเงินตนว่าจะไปซื้อของ แต่ตนไม่ได้ให้ เท่านั้นนายธวัชชัย กลับสุข หรือท็อป(หนุ่มคลั่งขาดยา)ก็ปรี่เข้ามาทำร้ายตนกระโดดถีบเข้าที่ชายโครงด้านซ้ายจนตนปลิวกระเด็นไปติดกำแพงบ้าน ตนทั้งเจ็บและจุก ตนต้องรีบวิ่งหนีออกมาจากบ้าน พร้อมกับโทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาช่วยจับลูกชายตนไปรักษาที่โรงพยาบาลสุรินทร์ต่อไป เพราะตนเกรงจะได้รับอันตรายและควบคุมลูกชายตนไม่ได้