ข่าวอาชญากรรม

ตำรวจนครพนม ตรวจยึดยาบ้า 60,000 เม็ด พร้อมผู้ต้องหา 2 ราย

วันที่ 4 มิ.ย.67 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 3 มิถุนายน 2567 ภายใต้อำนวยการของ พล.ต.ต.พฤทธิพงศ์ นุชนารถ ผู้บังคับการตำรวจน้ำ พ.ต.อ.อดิศักดิ์ มีศิลป์ ผู้กำกับกองกำกับการ 10 กองบังคับการตำรวจน้ำ (ผกก.10 บก.รน.) ได้มอบหมายให้ พ.ต.ต.นวพล ขวัญทอง สว.ส.รน.1 กก.10 บก.รน. ร่วมวางแผนจับกุม หลังมีสายข่าวแจ้งว่า กลุ่มค้ายานรกเตรียมลำเลียงเข้าไปยังพื้นที่ตอนในของประเทศ เจ้าหน้าที่ตำรวจ ส.รน.1กก.10 บก.รน.(ตำรวจน้ำ) และ เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สืบสวนนครพนม จึงได้ออกปฏิบัติหน้าที่ในเขตรับผิดชอบ กระทั่งเมื่อมาถึงบริเวณริมถนน ริมถนน สาย หนองญาติ – นาแก หมายเลข 2033 ตรงบริเวณทางเข้า สถานีพัฒนาที่ดินจังหวัดนครพนม โดยมีป้ายเตือนทางโค้งอันตรายเป็นจุดสังเกตุ จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้เดินทางไปตามสายลับแจ้ง เมื่อไปถึงพบว่ารถยนต์ ได้ขับออกไปแล้ว โดยขับรถยนต์มุ่งหน้าไปทางอำเภอ นาแก เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม ได้ขับรถยนต์ไล่ติดตาม จนกระทั่งถึง บ้านคำพอก เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้พบรถยนต์ ยี่ห้อ ISUZU รุ่น ดีแม๊ก ทะเบียน บท 1502 นครพนม

พ.ต.ต.นวพล ขวัญทอง จึงได้ส่งสัญญาณให้หยุดรถ เมื่อรถยนต์คันดังกล่าวเห็นสัญญาณจึงได้จอดรถยนต์ จากนั้น พ.ต.ต.นวพล ขวัญทอง จึงได้แสดงตัว เป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อขอตรวจสอบ สิ่งของที่อยู่ภายในรถยนต์ เมื่อนายวีระวุฒิฯ ทราบว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงได้เปิดประตูรถยนต์ พยายามทำการวิ่งหนี และมีชายไม่ทราบชื่อ สกุล จริง ซึ่งนั่งมากับนาย วีระวุฒิ หรือโต้ง ได้ทำการวิ่งหลบหนีเช่นกัน เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้ทำการวิ่งไล่ติดตาม จนสามารถควบคุมตัวนายคีรีชัยฯ ได้ จากนั้นเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้ตรวจค้นภายในรถยนต์ เพื่อตรวจสอบสิ่งของภายในรถยนต์คันดังกล่าว ผลการตรวจสอบพบกระสอบสีขาว จำนวน 1 กระสอบ ซึ่งชุกซ่อนไว้ภายในกล่องพลาสติกสีเทาไว้บริเวณเบาะผู้โดยสารด้านหลังคนขับ เมื่อเปิดดูภายในกระสอบ พบพบยาเสพติดให้โทษ ประเภท 1 (ยาบ้า) นับได้ 60,000 เม็ด จึงได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้งสองคน พร้อมของกลางมาที่ สถานีตำรวจน้ำ นครพนม เพื่อสอบสวนขยายผล

นายวีระวุฒิ ให้การรับสารภาพว่า เป็นเอเย่นต์ส่งยาบ้าไปยังพื้นที่ชั้นใน โดยรับมาจากนายทุนที่อยู่ฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน และอำพรางตัวเป็นพ่อค้าเล่ขายเต่า อยู่ ใน บ้านนางาม ต.นางาม อ.เรณูนคร จ.นครพนม ตนจึงไปชักชวนนายคีรีชัย ซึ่งเป็นเพื่อนในหมู่บ้านเดียวกัน เข้ามาร่วมขบวนการด้วย โดยจะให้ค่าแรงครั้งละ 3,000 บาท ส่วนตัวนายวีระวุฒิ ได้รับค่าแรงจากนายจ้างครั้งละ 50,000 บาท โดย นายวีระวุฒิ ผู้ต้องหา ยอมรับว่า การเป็นเอเยนต์ค้ายาบ้ารวยไว โดยอาศัยความชำนานในเส้นทางการเล่ขายเตา จึงสามารถหลบหนีการจับกุมมาได้หลายครั้ง

ทั้งนี้ ทางตำรวจชุดจับกุม ได้ส่งเรื่องให้กับสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ภาค 4 (ป.ป.ส.ฯ) เข้าตรวจสอบทรัพย์ของ นายวีระวุฒิ ผู้ต้องหา รวมถึงเส้นทางการเงินทั้งหมด เพื่อดำเนินการยึดทรัพย์ เมื่อรวยอย่างผิดกฎหมาย ทางราชการก็สามารถทำให้จนอย่างยาจกได้เช่นกัน