ข่าวอาชญากรรม

บุรีรัมย์เด็ก 14 ขี่ จยย.เล่นผ่านหน้าบ้านเพื่อนเก่าเบิ้ลเสียงดังโดนไล่ปาระเบิดรถล้มมีดฟันซ้ำตาหวิดบอด

ด.ช.วัย 14 ชาว อ.ละหานทราย จ.บุรีรัมย์ ขี่ จยย.เล่นกับเพื่อนอีกคัน แต่จังหวะขับผ่านหน้าบ้านเพื่อนเก่าแต่เลิกคบแล้วเพราะมีปัญหากันได้เบิ้ลลองรถเสียงดัง เพื่อนเก่าพาพวกขี่รถไล่ตามปาระเบิดปิงปองใส่รถเสียหลักล้ม ถือมีดลงมาฟันหัวและใบหน้าแผละเหวอะตาหวิดบอด แม่หาหลักฐานและวงจรปิดแจ้งความเอาผิดฐานพยายามฆ่า

(10 มิ.ย.67) นางสาวอรัญญา วรวงค์ อายุ 32 ปี ชาวบ้านตำบลสำโรงใหม่ อ.ละหานทราย จ.บุรีรัมย์ ได้ออกมาร้องขอความเป็นธรรมผ่านสื่อ กรณีที่เด็กชายศรัณย์พร หรือหยอง อายุ 14 ปี ลูกชาย หลังถูกกลุ่มวัยรุ่น 6 คน ขับขี่รถ จยย.2 คันไล่ตามขว้างระเบิดปิงปองใส่ ลูกชายพยายามขับรถจักรยานยนต์หนีแต่เสียหลักล้ม หนึ่งในกลุ่มวัยรุ่นที่ขี่ไล่ตามก็ถือมีดลงไปกระหน่ำฟันทั้งใบหน้าและศรีษะ เป็นแผลทั้งที่ใบหน้าและศรีษะจนตาเกือบบอด เคราะห์ดีที่ชาวบ้านใกล้จุดเกิดเหตุตะโกนบอกให้หยุดกลุ่มผู้ก่อเหตุจึงพากันขับรถหนี ไม่งั้นคงกะทำร้ายลูกชายถึงแก่ชีวิต เหตุเกิดเวลาประมาณ 3 ทุ่มครึ่ง วันที่ 5 มิถุนายน 2567 ที่ผ่านมา บริเวณหน้าโรงเรียนบ้านโคกเฟือง ต.สำโรงใหม่ อ.ละหานทราย

โดย น.ส.อรัญญา ผู้เป็นแม่ บอกว่า จากการสอบถามลูกชายว่าสาเหตุอะไรถึงได้โดนเขาไล่ฟัน ลูกชายก็เล่าให้ฟังว่า คืนเกิดเหตุได้ขี่จักรยานยนต์เล่นกับเพื่อนและแฟนสาวของเพื่อนรวม 3 คัน ก็ขับกันคนละคัน แต่พอขับไปถึงบริเวณสามแยกบ้านโคกไม้แดง ลูกชายก็ได้เบิ้ลเครื่องรถ จยย.ของตัวเอง เพื่อหยอกล้อกับเพื่อนที่มาด้วยกันตามประสาวัยรุ่น แต่จังหวะที่ลูกชายเบิ้ลรถเป็นหน้าบ้านของเพื่อนเก่าซึ่งไม่ได้คบหากันแล้วเพราะมีปัญหาทะเลาะกัน ก็ไม่คิดว่าจะทำให้เพื่อนเก่าไม่พอใจ จากนั้นเขาก็พาพวกรวม 6 คน ขับขี่รถ จยย.2 คันๆ ละ 3 คน ไล่ตามรถของลูกชาย ลูกชายกับเพื่อนที่ไปขับรถเล่นด้วยกันก็พยายามขับหนี แต่รถ จยย.ของน้องเกิดเสียหลักล้มที่บริเวณริมถนนหน้าโรงเรียนบ้านโคกเฟือง จากนั้นกลุ่มวัยรุ่นที่ไล่ตามก็จอดรถ แล้วหนึ่งในกลุ่มวัยรุ่นก็ถือมีดลงไฟกระหน่ำฟันลูกชายที่นอนบาดเจ็บอยู่จากรถล้มอยู่ โดยเลือกฟันที่หน้าและศรีษะ จนลูกชายสลบมีแผลตามใบหน้าและศรีษะตาซ้ายเกือบบอด

จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมองว่าถ้าแค่น้องเบิ้ลรถเสียงดัง แล้วตามมาทำร้ายกันรุนแรงขนาดนี้ถ้าไม่มีชาวบ้านตะโกนให้หยุด ก็คงกะเอาให้ถึงตาย เป็นการกระทำที่เกินกว่าเหตุเข้าข่ายพยายามฆ่าเลย ซึ่งเบื้องต้นตนก็ได้หาหลักฐานและวงจรปิดพาลูกชายเข้าแจ้งความที่ สภ.ละหานทราย แล้ว ก็อยากให้ดำเนินคดีตามกฎหมายกับกลุ่มที่ทำร้ายลูกชาย เพราะจากเหตุการณ์ดังกล่าวลูกชายกลัวจนไม่กล้าออกจากบ้าน ส่วนตนเองก็ต้องลางานมาดูลูกชาย และเดินเรื่องคดีด้วย ก็เดือดร้อน