ข่าวอาชญากรรม

บุกร้องเอาผิด-ถอดถอน ผญบ.ฉาวบังคับขืนใจ อสม.แถมยิงปืนขู่สามีโร่แจ้ง ตร.แค่เปรียบเทียบปรับ

อสม.พร้อมสามีและชาวบ้านบุกร้องศูนย์ดำรงธรรม.บุรีรัมย์ จี้เร่งรัดดำเนินคดีและถอดถอน ผญบ. ฉาว มีพฤติกรรมบังคับข่มขืน อสม.แถมยิงปืนข่มขู่สามี 5 นัด โร่แจ้งความ 3 เดือนผ่านไป คดีไม่คืบ ตร.แค่เปรียบเทียบปรับฐานยิงปืนที่สาธารณะ หวั่นไม่ได้รับความเป็นธรรม

วันที่ 18 เมษายน 2566 นางอรุณี (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 42 ปี อสม.ประจำหมู่บ้านแห่งหนึ่งในอำเภอบ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ พร้อมด้วยนายไพฑูลย์ อายุ 48 ปี อดีตผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านซึ่งเป็นสามี และตัวแทนชาวบ้าน ได้นำหลักฐานบันทึกแจ้งความ เอกสารการร้องเรียนเกี่ยวกับพฤติกรรม ผญบ. และรายชื่อชาวบ้านที่เคยยื่นถอดถอน ผญบ.ออกจากตำแหน่ง เข้าร้องเรียนศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดบุรีรัมย์ ให้ช่วยเหลือเร่งรัดคดี และตรวจสอบเอาผิด ผญบ.แห่งหนึ่งในอำเภอบ้านกรวด โดยผู้ร้องกล่าวหาว่า ผญบ. คนดังกล่าวมีพฤติกรรมไม่เหมาะสมกับการเป็นผู้นำ เพราะใช้ตำแหน่งหน้าที่บังคับข่มขืนนางอรุณี อสม. ทั้งยังยิงปืนข่มขู่สามีขณะจะเข้าไปตามหาภรรยาถึง 5 นัด จนต้องวิ่งหลบเอาตัวรอด เหตุเกิดกลางดึกคืนวันที่ 15 ม.ค.66 ที่ผ่านมา หลังเกิดเหตุก็ไปแจ้งความที่ สภ.บ้านกรวด แต่ร้อยเวรฯ บอกว่าดึกแล้ว เดี๋ยวค่อยลงไปดูพื้นที่ตอนเช้าอีกวัน แต่พอประมาณ 10 โมงเช้าอีกวันไปตรวจสอบก็ไม่พบปลอกกระสุนปืนแล้ว เชื่อว่าน่าจะมีการทำลายหลักฐานไปแล้ว แต่ทราบว่ามีการตรวจเขม่าดินปืนกับ ผญบ.และพบคราบเขม่าดินปืนจริง แต่แค่เปรียบเทียบปรับฐานยิงปืนในที่สาธารณะเท่านั้น จึงเกรงว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรมกรณีที่ ผญบ.บังคับขืนใจภรรยา และเจตนายิงปืนใส่

และนอกจาก ผญบ.จะบังคับขืนใจ อสม. ยิงปืนขู่สามีแล้ว ชาวบ้านยังกล่าวหาว่า ผญบ.มีพฤติกรรมบริหารงานที่ไม่โปร่งใสอีกหลายโครงการ จึงได้พากันมาร้องเรียนศูนย์ดำรงธรรมจังหวัด เพื่อให้ช่วยเร่งรัดเรื่องคดีเพราะผ่านไป 3 เดือนแล้วยังไม่มีคืบหน้า และอยากให้ถอดถอนออกจากตำแหน่งด้วย เพราะพฤติกรรมไม่เหมาะสมที่จะเป็นผู้นำ

นางอรุณี ผู้ร้อง บอกว่า ตนเองเป็น อสม.ประจำหมู่บ้านปกติก็จะทำงานร่วมกัน ผญบ.อยู่แล้ว แต่นายเอ (นามสมมติ) ผญบ.ซึ่งอยู่ในหมู่บ้านเดียวกัน ได้ล่อลวงตนเองให้ไปหาบอกว่ามีคนอยากเจอ ตนก็คิดว่าเป็นเรื่องงานจึงออกไปหา แต่กลับถูก ผญบ.เอ บังคับขืนใจตนพยายามขัดขืนแต่สู้แรง ผญบ.ไม่ไหว หลังสำเร็จความไคร่ ผญบ.ก็ยังข่มขู่ถ้าเอาเรื่องไปบอกใครจะเจอดี จึงไม่กล้าบอกใคร กระทั่งครั้งที่สองเกิดเมื่อวันที่ 15 ม.ค.66 โดยประมาณ 3 ทุ่มผู้ใหญ่เอ ได้โทรศัพท์มาบอกให้ตนซื้อเบียร์ไปส่งให้ที่กระท่อมของ นายบี (นามสมมติ) ผญบ.อีกหมู่บ้านหนึ่ง ตนก็ซื้อไปให้ แต่พอไปถึงกระท่อมดังกล่าวก็เห็น ผญบ.ทั้งสองคนมีอาการมึนเมาแล้ว พอตนบอกจะกลับผู้ใหญ่เอ ก็บอกให้นั่งก่อน ต่อมาภรรยา ของผู้ใหญ่เอ และเพื่อน ก็ขี่ จยย.มาโวยวาย ผญบ. ทั้งยังผลัก จยย.นางอรุณี จนล้ม แต่นางอรุณี ได้หลบออกไปจากกระท่อมแล้ว กระทั่งผู้ใหญ่เอ ได้บอกให้ภรรยา และเพื่อนกลับบ้านไปก่อน นางอรุณี จึงออกมาที่รถ จยย.เพื่อจะกลับแต่หากุญแจไม่เจอ ต่อมาประมาณเที่ยงคืน นายไพฑูลย์ สามีก็ขับ จยย.มาที่กระท่อม เพื่อตามหาตนเองให้กลับบ้าน แต่พอสามี มาถึงกระท่อมผู้ใหญ่เอ กลับยิงปืนข่มขู่สามี 5 นัด สามีจึงวิ่งหลบก่อนจะขับรถออกไปจากจุดเกิดเหตุ จากนั้นผู้ใหญ่เอ ก็ย้อนกลับมาที่กระท่อม แล้วใช้ปืนขู่บังคับให้ตนไปรีสอร์ท ด้วยแล้วบังคับขืนใจอีก จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก็อยากให้ดำเนินคดี และถอดถอน ผู้ใหญ่เอ ออกจากตำแหน่ง

ด้านนายไพฑูลย์ อดีตผู้ช่วย ผญบ.สามีของ อสม.ที่ถูก ผญบ.บังคับขืนใจ บอกว่า ไม่คิดว่า ผญบ.จะทำแบบนี้กับภรรยาตนเอง เพราะเป็นผู้นำหมู่บ้านต้องทำตัวเป็นอย่างต้องมีศีลธรรม แต่กลับมาบังคับขืนใจภรรยา ลูกบ้าน ส่วนตัวรับไม่ได้เพราะย่ำยีจิตใจ ก่อนหน้านี้ได้แจ้งความที่ สภ.บ้านกรวด แต่คดีกลับไม่คืนหน้า เพราะตำรวจแค่เปรียบเทียบปรับฐานยิงปืนในที่สาธารณะ จึงเกรงจะไม่ได้รับความเป็นธรรม จึงได้มาร้องเรียนศูนย์ดำรงธรรมให้ช่วยติดตามเร่งรัดคดี และจี้ถอดถอนผู้ใหญ่บ้านออกจากตำแหน่งด้วย

ด้านนายชุมพล ภูผานิล ผู้อำนวยการกลุ่มงานศูนย์ดำรงธรรม จ.บุรีรัมย์ กล่าวว่า วันนี้ชาวบ้านได้มาร้องเรียน ผญบ.ใน 2 ประเด็น คือ กล่าวหาว่ากระทำอนาจารลูกบ้าน และชาวบ้านประสงค์จะถอดถอนออกจากตำแหน่ง โดยกล่าวหาว่ามีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม กรณีดังกล่าวทางศูนย์ดำรงธรรมก็รับเรื่องไว้ แล้วก็จะได้ทำหนังสือติดตามเร่งรัดทั้งกรณีที่ผู้ร้องไปแจ้งความร้องทุกข์เอาไว้ และกรณีที่ยื่นเรื่องถอดถอนไว้ที่ อ.บ้านกรวด จากนั้นก็จะแจ้งผลให้ผู้ร้องทราบตามขั้นตอน