วันนี้ 27 พฤษภาคม 2566 ผู้สื่อข่าวประจำ จ.สุรินทร์ รายงานว่าได้รับแจ้งจากผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่2 บ้านหนองกับ ตำบลหนองสนิท อำเภอจอมพระ จังหวัดสุรินทร์ ว่ามีวัวของชาวบ้านถูกสุนัขจรจัดจำนวนหลายตัวรุมขย้ำกัดเอา จนทำให้เสียชีวิต 1 ตัว อยู่บริเวณสระทิศตะวันตกของหมู่บ้านหนองกับ เบื้องต้นผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่2 ได้ประสานทางเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ชีพตำบลหนองสนิทพร้อมผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องร่วมกันตรวจสอบพร้อมกัน
หลังจากนั้นทีมข่าวลงพื้นที่ตรวจสอบร่วมกับเจ้าหน้าที พอไปถึงจุดที่ได้รับแจ้งบริเวณดังกล่าวเป็นสระใกล้กับหมู่บ้าน อยู่ทางทิศตะวันตก พบลูกวัวเพศเมีย สายพันธุ์ชาโลเล่ อายุได้เพียง 5 เดือน สภาพเหมือนโดนเขี้ยวฟันที่แหลมคมกัดแล้วกระชากเพราะว่ามีบาดแผล ฉกรรจ์ฉีดขาดขนาดใหญ่ ตามลำตัวและหู หางวัวยังโดนดึงกัดกระชาก เจ้าของวัวพร้อมชาวบ้านบอกว่าเป็นสุนัขจรจัดที่อยู่บริเวณบ้านหนองกับ อาศัยเศษอาหารกินจำนวน 13 ตัว ที่ชาวบ้านประชาคมให้กำจัดออกแต่ว่าจับไม่ได้
ชาวบ้านเคยบอกว่าสุนัขจรจัดจำนวนนี้ เคยออกไปกัดสัตว์เลี้ยงของชาวบ้านมาหลายจุดแล้ว ชาวบ้านหาวิธีจับแต่ก็ไม่ได้สักที อยู่ในระหว่างปรึกษาแพทย์ปศุสัตว์อำเภอในการดำเนินการต่อไป ต่อจากนี้จึงดำเนินการขุดหลุมฝังซากศพลูกวัวพันธุ์ชาโลเล่ ไว้ พร้อมกลับจะปรึกษากันต่อไปโดยวัวเพศเมีย สายพันธุ์ชาโลเล่สีขาว อายุเพียง 5 เดือน เป็นวัวของเด็กหญิง ณัฐพร ทองแม้น อายุ 10 ปี อยู่บ้านเลขที่ 111 หมู่ที่ 7 บ้านสำโรงน้อย ตำบลหนองสนิท อำเภอจอมพระ จังหวัดสุรินทร์ เป็นนักเรียนอยู่โรงเรียนบ้านหนองกับ เรียนประถมศึกษาปีที่ 4 เล่าทั้งน้ำตาว่า สงสารวัวตัวนี้มากเลย เลี้ยงวัวตั้งแต่อายุได้เพียง 12 วัน หลังออกจากท้องแม่ แม่วัวก็ได้ตายไป ตัวเองเอาเงินเก็บหรือเงินออมจากโรงเรียนที่เคยสะสมไว้วันละ 10 บาทหรือบางวันมีเงินมากหน่อยก็ออมไว้ จนได้เงินมาจำนวน 3,000 บาท พอทราบข่าวว่ามีวัวสายพันธุ์ชาโลเล่ อายุเพียง 12 วัน ที่แม่วัวพึ่งคลอดลูกออกมาแล้วตาย อยู่ที่บ้านตากลาง ตำบลบ้านผือ พอรู้ข่าวจึงเอาเงินออมจำนวน 3,000 บาท ไปซื้อวัวมาเลี้ยง ซื้อนมให้วัวกินด้วย เพราะมันยังเล็กอยู่ จนสุดท้ายมาเจอสุนัขจรจัดรุมกัดขย้ำตายเสียก่อน ทำให้ตัวเองพร้อมครอบครัวร้องไห้ด้วยความสงสารน้อง สงสารวัวตัวนี้จับใจ