วันที่ 1 พ.ย. 2566 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่สำรวจร้านอาหารที่มีการใช้น้ำตาลเป็นวัตถุดิบหลักในการประกอบเมนูอาหาร โดยเดินทางไปที่ร้าน “การะเวก คาเฟ่” ร้านจำหน่ายขนมไทยและเครื่องดื่มประเภทชา กาแฟ ตั้งอยู่เลขที่ 2/9 ถ.กสิกรทุ่งสร้าง ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ขอนแก่น ภายหลังจากสำนักงานคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย (สอน.) ได้กำหนดราคาน้ำตาลทรายหน้าโรงงานใหม่ จากเดิมน้ำตาลทรายขาวอยู่ที่กิโลกรัมละ 19 บาท เป็นราคา กก.ละ 23 บาท น้ำตาลทรายขาวบริสุทธิ์จากเดิม กก.ละ 20 เป็น กก.ละ 24 บาท ซึ่งที่ร้านการะเวก เป็นร้านจำหน่ายขนมไทยที่ใช้น้ำตาลเป็นวัตถุดิบหลัก และเป็นร้านขึ้นชื่ออันดับต้น ๆ ของเมืองขอนแก่น ที่สืบทอดมาถึงรุ่นที่ 3 โดยภายในร้านพบว่า เจ้าของร้านได้ช่วยกันนำขนมไทยแต่ละเมนูที่เพิ่งทำเสร็จใหม่ ๆ มาบรรจุใส่กล่องและจัดเรียงไว้เพื่อจำหน่ายให้กับลูกค้า เช่น ทองหยิบ ทองหยอด รวมทอง ฝอยทอง เม็ดขนุน สังขยา และหม้อแกงไข่
นายพงศธรณ์ ขาวไชยมหา หรือ บอม อายุ 28 ปี เจ้าของร้านการะเวก คาเฟ่ กล่าวว่า ที่ร้านใช้น้ำตาลทรายในการทำขนมหวานวันละ 20 กิโลกรัม เพื่อนำมาทำขนมไทย ประมาณ 20 เมนู ซึ่งก่อนหน้านี้เคยซื้อน้ำตาลถูกสุดกิโลกรัมละ20 บาท โดยก่อนที่ราคาน้ำตาลจะปรับราคาขึ้นอีก 4 บาท ทางร้านได้มีการติดตามข่าวสารทางช่องทางต่าง ๆ มาโดยตลอด ยอมรับว่ารู้สึกกังวลที่น้ำตาลปรับราคาสูงขึ้น เนื่องจากที่ร้านตนเองเป็นร้านที่ทำขนมหวานจำหน่าย จึงได้รับผลกระทบโดยตรง
“แต่เข้าใจเหตุและปัจจัยที่ทำให้ราคาน้ำตาลต้องปรับสูงขึ้น เช่น สภาพเศรษฐกิจและภาวะสงครามต่างประเทศ ซึ่งแม้ว่าราคาน้ำตาลจะปรับสูงขึ้น แต่ทางร้านก็ยังคงตรึงราคาจำหน่ายเท่าเดิม ใช้น้ำตาลเป็นวัตถุดิบและส่วนผสมในอัตราเท่าเดิม และยังทำขนมแต่ละเมนูในจำนวนเท่าเดิม ไม่ได้มีการปรับลดส่วนใดลงมา เพราะเห็นใจลูกค้า ทั้งลูกค้าประจำและลูกค้าที่แวะเวียนมา รวมทั้งต้องการคงคุณภาพของขนมไทยของร้านเอาไว้ ในราคาเริ่มต้นที่ 40 บาท”
นายพงศธรณ์ กล่าวอีกว่า ยังคงหวังว่าราคาน้ำตาลจะไม่เพิ่มสูงขึ้นไปมากกว่านี้ เพราะในอนาคตหากราคาน้ำตาลปรับเพิ่มสูงขึ้นอีก ทางร้านก็อาจจะมีการปรับลดปริมาณของแต่ละเมนูลง แต่รสชาติและความอร่อยจะยังเป็นเช่นเดิม และหากต้องลดปริมาณลง ทางร้านก็จะมีการคำนวณราคาจำหน่ายใหม่ให้เหมาะสมกับปริมาณ เพื่อไม่ให้กระทบกับลูกค้า.