หลังจากเมื่อวันที่ 27 ตุลาคม 2566 ที่ผ่านมา ตลาดช่องจอมได้เกิดเพลงลุกไหม้อย่างหนัก ทำให้สิ้นค้าข้าวของเครื่องใช้ที่นำมาขาย โดนไฟไหม้วอดเพียงเสี้ยวนาที วันนี้พ่อค้า-แม่ค้าชาวกัมพูชาได้นำเศษซากของที่ถูกไฟไหม้แต่ยังใช้งานได้มาวางขาย เริ่มต้นเพียงชิ้นละ1บาท
วันที่ 6 พ.ย. 2566 ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่ “ตลาดชายแดนไทย-กัมพูชา” หรือตลาดช่องจอม เพื่อสำรวจพื้นที่หลังจากที่เกิดเพลิงลุกไหม้อย่างหนักเมื่อกลางดึกของวันที่ 27 ตุลาคม 2566 ที่ผ่านมา ส่วนสาเหตุที่แน่ชัดในการเกิดเพลิงไหม้ในครั้งนี้ ยังไม่ทราบสาเหตุ
หลังจากที่ผู้สื่อข่าวไปถึงต่างรู้สึกตกใจ เพราะพื้นที่บริเวณนี้ เคยเต็มไปด้วยข้องใช้มากมายหลายอย่าง ทั้งที่นอน เสื้อผ้า เครื่องใช้ภายในครัวเรือน และรวมไปถึงอุปกรณ์ไฟฟ้า หลอดไฟ และ โซล่าเซลล์ รวมๆแล้วเป็นร้อยร้านสิ้นค้านับหมื่นรายการ โดนเพลิงไหม้วอดจนเหลือแต่ขี้เถ้า ต่างสร้างความหดหู่ใจ กับคนที่เคยมาเดินเลือกซื้อของใช้ เพราะตอนนี้เหลือเพียงขี้เถ้า
พ่อค้า-แม่ค้าชาวกัมพูชา และชาวไทย ที่โดนเพลิงไหม้ร้านจนไม่เหลืออะไร บ้างก็กลับไปบ้านเกิดคืนบ้างก็กัดฟันสู้นำสิ่งของที่โดนเพลิงลุกไหม้ในคืนนั้นมาขาย สถาพการใช้งานอาจยังใช้การได้บ้าง เช่นมีด, แก้วน้ำ ,จานชาม, มีด 2 คมเริ่มต้นชิ้นละ 1 บาท พ่อค้า-แม่ค้าชาวกัมพูชาเปิดใจกับผู้สื่อข่าวอีกว่า ลำบากของที่นำมาขายบางคนก็ขายกินเปอร์เซ็น ไฟไหม้มาก็เท่ากับว่าหมดทุกอย่าง แถมยังติดหนี้อีก จึงได้พากันนำของที่โดนไฟไหม้ มาวางขายถ้าไม่ทำก็ไม่มีเงินซื้อเขากิน ได้วันละ 200-300 บาท ก็ยังดีที่ไม่ได้เงิน