ชาวนาในจังหวัดกาฬสินธุ์ เรียกร้องรัฐบาลผลักดันและวางมาตรการเข้ม ลงโทษพ่อค้า นายทุน ที่นำเข้าข้าวจากประเทศเพื่อนบ้านมาจำหน่ายภายในประเทศ ส่งผลกระทบถึงผลผลิตข้าวนาปรังที่จะราคาตกต่ำ หวังตั้งความหวังไว้สูงตันละ 2 หมื่นบาท ที่อาจจะเหลือเพียงตันละ 5 พันบาท
วันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2563 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการติดตามบรรยากาศการทำนาปรัง ในเขตใช้น้ำชลประทานลำปาว จ.กาฬสินธุ์ พื้นที่ อ.ยางตลาด อ.เมืองกาฬสินธุ์ อ.กมลาไสย และ อ.ฆ้องชัย ซึ่งมีพื้นที่รวมประมาณ 270,000 ไร่ พบว่าชาวนากำลังเร่งบำรุงต้นข้าวที่กำลังเจริญเติบโต และกำลังจะเข้าสู่ช่วงตั้งท้องถอดรวง ทั้งนี้ จากการสอบถาม ทราบว่าชาวนาทุกราย ต่างตั้งความหวังไว้สูง ว่าจะขายข้าวเปลือกได้ราคาดี เนื่องจากได้รับน้ำจากชลประทานเขื่อนลำปาวหล่อเลี้ยงบริบูรณ์ ไม่ประสบภัยแล้งเหมือนจังหวัดข้างเคียง
![](https://www.siengphupan.com/wp-content/uploads/2020/02/2-19.jpg)
นายประภาษ ภูวงกต อายุ 66 ปี บ้านเลขที่ 82 หมู่ 10 บ้านดงเมือง ต.ลำพาน อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ อดีตกรรมการสภาชาวนาไทยกาฬสินธุ์ กล่าวว่า ตนมีที่นา 17 ไร่ ทำทั้งนาปีนาปรัง โดยปลูกข้าวเหนียวทั้งหมด ผลผลิตข้าวเปลือกนาปีที่ผ่านมาได้เฉลี่ยไร่ละ 400 กก. เกี่ยวสดและนำไปขายที่แหล่งรับซื้อได้ ก.ก.12 บาท ขณะที่ชาวนาคนอื่นที่นำข้าวเปลือกแห้งไปขายได้ราคาดี สูงถึง 15-18 บาท หักค่าใช้จ่ายทั้งรถไถ ค่าแรง รถเกี่ยว ค่าขนส่งแล้วก็ถือว่าคุ้ม ในฤดูทำนาปรังปี้นี้หวังว่าจะขายได้ในราคาไม่ต่ำกว่าข้าวนาปี จึงลงทุนทำนาปรังเต็มพื้นที่ หวังขายใช้หนี้ ธกส. รวมทั้งเงินกู้ยืมจากกองทุนต่างๆ และค่าปุ๋ย ต้นทุนการทำนาอื่นๆ โดยตั้งเป้าไว้ว่าถ้าขายได้ ก.ก.ละ 10-12 บาท ยังถือว่าได้กำไร
![](https://www.siengphupan.com/wp-content/uploads/2020/02/13-6.jpg)
นายประภาษ กล่าวอีกว่า เนื่องจากหลายพื้นที่ทั่วประเทศประสบปัญหาภัยแล้ง ผลิตข้าวไม่ได้ ขณะที่ จ.กาฬสินธุ์มีน้ำให้ทำการเกษตรและเพาะปลูกข้าวนาปรังเพียงพอ จึงคาดว่าราคารับซื้อข้าวเปลือกปีนี้จะสูงขึ้น จากการสอบถามแหล่งรับซื้อ มีแนวโน้มว่าข้าวเกี่ยวสด ราคารับซื้อไม่น้อยกว่าตันละ 10,000 -12,000 บาท ข้าวเปลือกที่ผ่านการตากแห้งตันละ 15,000-20,000 บาททีเดียว จึงเป็นความหวังของชาวนา ที่จะขายข้าวมีกำไร
![](https://www.siengphupan.com/wp-content/uploads/2020/02/12-7.jpg)
นายประภาษ กล่าวเพิ่มเติมว่า อย่างไรก็ตาม ในช่วงนี้กลับมีกระแสข่าวร้าย ว่ามีข้าวจากประเทศเพื่อนบ้าน คือประเทศเวียดนาม ทะลักผ่านเข้าตลาดข้าวไทย โดยรับซื้อต่ำกว่าราคาข้าวไทยถึง กก.ละ 4-5 บาท ทำให้ตนและเพื่อนชาวนาตกใจ และเกิดความสงสัย ว่าเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวได้อย่างไร เพราะเท่าที่ทราบ รัฐบาลไทยไม่เคยมีนโยบายนำเข้าข้าวต่างประเทศ พอเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว นอกจากจะกระทบจิตใจชาวนาแล้ว ยังส่งผลกระทบถึงราคาข้าว และคุณภาพข้าวของไทยด้วย จึงอยากเรียกร้องให้รัฐบาลหรือภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ทำการตรวจสอบและเร่งผลักดัน ควบคู่กับกำหนดมาตรการเข้ม ลงโทษพ่อค้าหรือนายทุนที่นำเข้าข้าวด้วย เพราะหากเรื่องข่าวข้าวประเทศเพื่อนบ้านตีตลาดข้าวไทยเป็นเรื่องจริง ก็จะทำให้ราคาข้าวหายไปถึงตันละ 4,000 -5,000 บาท โดยเฉพาะจะทำให้ชาวนาไทยเดือดร้อน ขายข้าวได้ราคาต่ำและประสบปัญหาขาดทุนซ้ำซาก
![](https://www.siengphupan.com/wp-content/uploads/2020/02/5-16.jpg)