เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 4 พ.ย. 2566 ที่ วัดทรงธรรม บ้านหนองกระรอก ต.แวงใหญ่ อ.แวงใหญ่ จ.ขอนแก่น นำโดยคุณแม่มะลิ จันปาน พร้อมบุตรหลาน เป็นประธานในการจัดงานบุญมหากฐินทอดถวาย ที่วัดทรงธรรม บ้านหนองกระลอก และอุทิศส่วนกุศลให้คุณพ่อสำราญ จันปานและบรรพบุรุษที่ล่วงลับ มีพระมหาพฤหัสบ์ ปญฺญาวโร เจ้าอาวาสวัดทรงธรรม รองเจ้าคณะอำเภอแวงใหญ่ จังหวัดขอนแก่น เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ โดยมีนายกรุง นามสง่า นายอำเภอแวงใหญ่ น.ส.สรัสนันท์ อรรณพพร สส.ขอนแก่น พรรคเพื่อไทย และชาวบ้านในพื้นที่และใกล้เคียงที่มีศรัทธาในพระพุทธศาสนา ร่วมทำบุญและทอดกฐิน เพื่อสมทบทุนบำรุงพระพุทธศาสนา ให้มั่นคงถาวรคู่กับพระพุทธศาสนาสืบไป
“ สำหรับกิจกรรมก่อนถวายกฐิน มีพิธีสมโภชองค์กฐิน ขบวนแห่องค์กฐินรอบหมู่บ้าน และรอบอุโบสถ 3 รอบจากนั้นประธานจุดธูปเทียนบูชาพระรัตนตรัย ไหว้พระ อาราธนาศีล สมาทานศีล อาราธนาธรรม พระสงฆ์ เจริญพระพุทธมนต์ สมโภชกฐิน ถวายจตุปัจจัยไทยธรรม กรวดน้ำ รับพร ลาพระ เสร็จพิธี”
พระมหาพฤหัสบ์ ปญฺญาวโร เจ้าอาวาสวัดทรงธรรม รองเจ้าคณะอำเภอแวงใหญ่ จังหวัดขอนแก่นแสดงสัมโมทนียกถาว่า หลังจากที่ออกพรรษาแล้ว ก็จะเข้าสู่ช่วงการทอดกฐิน ซึ่งจะเริ่มตั้งแต่ วันแรม 1 ค่ำ เดือน 11 ไปจนถึงวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 12 จึงถือว่าเป็นบุญเฉพาะกาล การทอดกฐิน ถือเป็นสังฆทานชนิดหนึ่ง การทอดกฐิน คือ การนำผ้ากฐินไปวางไว้ต่อหน้าพระสงฆ์อย่างต่ำห้ารูป แล้วให้พระสงฆ์รูปใดรูปหนึ่งที่ได้รับมอบหมาย จากคณะสงฆ์ทั้งนั้นเป็นเอกฉันท์ให้เป็นผู้รับกฐินนั้น ถือว่าเป็นการสร้างบุญใหญ่ที่สมควรทำเป็นอย่างยิ่ง
โดยอานิสงส์บุญจากการทอดกฐิน ถือเป็นบุญใหญ่ที่มีอานิสงส์มากเป็นอย่างยิ่ง เพราะเป็นบุญที่ทำได้ยากและมีข้อจำกัดหลายประการ อีกทั้งการทำบุญทอดกฐินจะมีเฉพาะในพระพุทธศาสนาเท่านั้น ถือเป็นประเพณีที่พุทธศาสนิกชนทั้งหลาย ทุกยุคทุกสมัย มีความศรัทธาเลื่อมใสว่า เป็น “ยอดของมหากุศล” จะเป็นเหตุนำทางให้ผู้ที่ได้มีส่วนร่วมในการทอดกฐินนั้น ได้มหานิสงค์อันยิ่งใหญ่สุดประมาณ