วิถีชีวิต

สกลนคร นักท่องเที่ยวแห่ชมความอลังการงานแห่ดาวคริสต์มาส เปิดเส้นทางการท่องเที่ยวด้านความเชื่อศรัทธา

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อคืนที่ผ่านมา วันที่ 25 ธ.ค. 2566 ที่บริเวณลานพระบรมราชานุสาวรีย์ รัชกาลที่ 5 ตำบลธาตุเชิงชุม อำเภอเมือง จังหวัดสกลนคร นายชัยพล สุขเอี่ยม อธิบดีกรมการศาสนา เป็นประธานเปิดกิจกรรมในโครงการส่งเสริมการท่องเที่ยวยลศาสนสถาน แลสีสันแห่งดวงดาว ชาวคริสตชนสกลนคร งานประเพณีแห่คาวคริสต์มาส จังหวัดสกลนคร ประจำปี ค.ศ. 2023 “ราตรีแห่งดวงดาว พร่างพราวถิ่นสกล” เปิดเส้นทางการท่องเที่ยว ด้านความเชื่อและศรัทธา ตามรอยนักบุญ เกื้อหนุนชุมชน ซึ่งจังหวัดสกลนคร โดยสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดสกลนคร ร่วมกับ องค์การบริหารส่วนจังหวัดสกลนคร เทศบาลนครสกลนคร การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักมิสซังโรมันคาทอลิกท่าแร่-หนองแสง โรงเรียนเซนต์ยอแซฟสกลนคร และภาคเอกชน เพื่อส่งเสริมและอนุรักษ์ประเพณีสำคัญจังหวัดสกลนคร เป็นการยกระดับการท่องเที่ยวในมิติด้านศาสนา และวัฒนธรรม สนับสนุน ต่อยอด และพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้โดดเด่น เป็นที่ประจักษ์

โดยมี รองผู้ว่าราชการจังหวัดสกลนคร หัวหน้าส่วนราชการ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น คณะสงฆ์ สำนักมิสซังโรมันคาทอลิกท่าแร่-หนองแสง ตลอดจนนักท่องเที่ยว และประชาชนชาวจังหวัดสกลนคร ร่วมงาน พร้อมร่วมถ่ายภาพเช็คอิน กับการประดับตกแต่งแสงไฟที่สวยงาม เป็นจำนวนมาก โดยมีพิธีปล่อยขบวนรถแห่ดาวคริสต์มาส ซึ่งประกอบด้วย ขบวนรถดาวน้อยใหญ่ รวมกว่า 100 คัน ขบวนสามล้อถีบ และรถบุษบก ประดับตกแต่งด้วยดาวดวงน้อยและแสงไฟสวยงาม ประธาน พร้อมด้วย ผู้ร่วมพิธี พระอัครสังฆราช อันตน วีระเดช ใจเสรี พร้อมคณะสงฆ์ ร่วมนั่งบนรถบุษบก พร้อมแจกขนม ทอฟฟี่ ให้กับเด็ก ๆ และผู้มาร่วมชมขบวนแห่ดาวตลอดสองข้างทาง ซึ่งขบวนทั้งหมดมีจุดหมายปลายทางอยู่ที่สำนักมิสซังโรมันคาทอลิกท่าแร่-หนองแสง (โรงเรียนเซนต์ยอแซฟสกลนคร) การแห่ดาวเนื่องในเทศกาลคริสต์มาส เป็นการเฉลิมฉลองการบังเกิดของพระเยซูเจ้า และขอพรสำหรับสันติภาพในโลก ซึ่ง “ดาว” คือ สัญลักษณ์ของการเสด็จ ลงมาประสูติบนโลกมนุษย์ของพระเยซูเจ้า ซึ่งงานประเพณีแห่ดาวคริสต์มาส ที่จังหวัดสกลนคร ครั้งนี้นับเป็นปีที่ 42 แล้ว และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยได้บรรจุประเพณีแห่ดาวคริสต์มาส ให้เป็นงานส่งเสริมการท่องเที่ยวสำคัญของจังหวัดสกลนคร ตั้งแต่ ปี ค.ศ. 2003 (พ.ศ 2546) เป็นต้นมา ดังนั้น เทศกาลแห่ดาวคริสต์มาสจังหวัดสกลนคร ประจำปี ค.ศ. 2023 จึงเป็นการนำ Soft Power ด้านวัฒนธรรม ศาสนา และการท่องเที่ยว ที่มีอยู่ในพื้นที่ พัฒนาต่อยอดในการสร้างมูลค่าเพิ่ม ทางเศรษฐกิจ