วิถีชีวิต

ชาวนากาฬสินธุ์เฮ เพิ่มโควตารับซื้อผลผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าวคุณภาพมาตรฐาน

ชาวนากาฬสินธุ์เฮ ศูนย์เมล็ดพันธุ์ข้าวกาฬสินธุ์ เพิ่มโควตารับซื้อผลผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าวเปลือกฤดูกาลผลิตข้าวนาปี 2563 จากเดิม 3,000 ตัน เป็น 3,600 ตัน ประกันราคารับซื้อตามมาตรฐานของกรมการข้าวกิโลกรัมละ 19-20 บาท

วันที่ 13 กรกฎาคม 2563 ที่ศูนย์เมล็ดพันธุ์ข้าวกาฬสินธุ์ บ้านห้วยสีทน ม.6 ต.โพนทอง อ.เมืองกาฬสินธุ์ จ.กาฬสินธุ์ นายฉันทลักษณ์ ฆารไสว ผู้อำนวยการศูนย์เมล็ดพันธุ์ข้าวกาฬสินธุ์ กล่าวว่า ในฤดูกาลผลิตข้าวนาปี 2563 ศูนย์เมล็ดพันธุ์ข้าวกาฬสินธุ์ ได้ตั้งเป้าผลผลิตซึ่งเป็นเมล็ดพันธุ์ข้าวเปลือก 2 ชนิดคือ ข้าวเปลือกเหนียว  กข 6  จำนวน 1,600 ตัน และข้าวเจ้าหรือข้าวขาวดอกมะลิ 105 จำนวน 2,000 ตัน

นายฉันทลักษณ์กล่าวอีกว่า การตั้งเป้าผลผลิตข้าวเปลือกทั้ง 2 ชนิดในฤดูกาลผลิต 2563 ดังกล่าว ถือเป็นการเพิ่มโควต้าทั้งการจำหน่ายเมล็ดพันธุ์และรับซื้อผลผลิตจากชาวนา โดยเฉพาะข้าวเหนียว กข 6 ซึ่งในฤดูกาลเพาะปลูกปี 2562 ที่ผ่านมา ตั้งเป้าไว้เพียง 1,000 ตัน ขณะที่ปี 2563 เพิ่มขึ้นอีก 600 ตัน รวมเป็น 1,600 ตัน ซึ่งเมล็ดพันธุ์ได้จำหน่ายให้กับชาวนาที่เป็นสมาชิกไปหมดแล้ว แต่ในส่วนเมล็ดพันธุ์ข้าวขาวดอกมะลิ 105 ยังเหลือจำหน่ายในคลังเมล็ดพันธุ์ข้าวประมาณ 50 ตัน

นายฉันทลักษณ์กล่าวเพิ่มเติมว่า สาเหตุที่เพิ่มโควตาให้กับผลผลิตข้าวเปลือก กข 6 นั้น เนื่องจากเป็นที่นิยมเพาะปลูกและบริโภคในครัวเรือน นอกจากนี้ชาวนายังสามารถนำผลผลิตจำหน่ายตามลานรับซื้อหรือตลาดทั่วไป และได้ราคาสูงอีกด้วย เนื่องจากคุณภาพเมล็ดข้าวดี ไม่มีการปลอมปน อย่างไรก็ตาม สำหรับราคารัฐซื้อผลลิตเมล็ดพันธุ์ข้าวเปลือกทั้ง 2 ชนิดดังกล่าว ยึดตามเกณฑ์และระเบียบของกรมการข้าว ซึ่งเป็นมาตรฐานเดียวกันทั่วประเทศ ชาวนาที่เป็นสมาชิกจึงเชื่อมั่นและมั่นใจว่าจะได้รับความเป็นธรรมจากการจำหน่ายผลผลิต โดยมีการประกันราคารับซื้อผลผลิตข้าวทั้ง 2 ชนิด กิโลกรัมละ 19-20 บาท ขณะที่ในส่วนของการจำหน่ายเมล็ดพันธุ์เพื่อนำไปเพาะปลูก กิโลกรัมละ 26-27 บาท

ทั้งนี้ มีชาวนาที่เป็นสมาชิกของศูนย์เมล็ดพันธุ์ข้าวกาฬสินธุ์ 30 กลุ่ม จำนวน 1,500 ราย กระจายอยู่ในพื้นที่นอกเขตชลประทาน ส่วนมากอาศัยน้ำฝนเป็นปัจจัยหลักในการทำนา นิยมทำนาดำและนาหยอด ซึ่งจะช่วยให้การบริหารจัดการในแปลงนาได้ง่ายกว่าการทำนาหว่าน โดยเฉพาะในช่วงตัดสายพันธุ์ปลอมปน ทั้งนี้ จะมีเจ้าหน้าที่ของศูนย์เมล็ดพันธุ์ข้าวกาฬสินธุ์ ลงพื้นที่ให้คำแนะนำชาวนาที่เป็นสมาชิก และจัดทีมตรวจแปลงนาเพื่อตัดสายพันธุ์ปลอมปนในนาข้าว เพื่อคุณภาพของเมล็ดพันธุ์ และสร้างความเชื่อมั่นให้กับชาวนา ที่จะขายผลผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าวคุณภาพมาตรฐาน และมีกำไรจากการทำนา

ขณะที่นางวนิดา  อาสาคติ  อายุ 42 ปี  บ้านเลขที่ 307 หมู่ 19 ชาวนาบ้านตูม ต.บัวบาน อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่าครอบครัวตนเป็นสมาชิกผู้ปลูกข้าวเมล็ดพันธุ์ ของศูนย์เมล็ดพันธุ์ข้าวกาฬสินธุ์มาประมาณ 20 ปี ผลดีคือได้ผลผลิตเมล็ดข้าวเปลือกคุณภาพ มีประกันราคาแน่นอน  และจำหน่ายได้ราคาสูงกว่าแหล่งรับซื้อทั่วไป ทั้งนี้ นอกจากจะจำหน่ายผลผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าวเปลือกคืนให้กับศูนย์เมล็ดพันธุ์ข้าว ตามสัดส่วนหรือโควต้าที่ได้รับแล้ว ผลดีที่ตามมาอีกคือยังได้ขายต้นกล้าที่เหลือจากการถอนปักดำ ให้กับเพื่อนชาวนามัดละ 2-3 บาท และยังขายเมล็ดพันธุ์ข้าวเปลือกบางส่วนที่เหลือจากการขายให้ศูนย์เมล็ดพันธุ์ ให้กับเพื่อนชาวนาเพื่อในไปเพาะปลูกในราคาสูงอีกด้วย การเพิ่มโควตารับซื้อผลผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าว กข 6 จากเดิม 1,000 ตัน เป็น 1,600 ตันในปีนี้ หรือรวมกับข้าวขาวดอกมะลิ 105 อีก 2,000 ตัน เป็น 3,600 ตันดังกล่าว จึงเป็นผลดีที่ชาวนาจะได้มีรายได้เพิ่มขึ้น และกระจายกลุ่มชาวนาผู้ผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าวได้เป็นอย่างดีอีกด้วย