วิถีชีวิต

กาฬสินธุ์ บ้านโนนสวาทยึดหลักบวรก้าวสู่หมู่บ้านแผ่นดินธรรมแผ่นดินทอง

เปิดบ้านโนนสวาท ตำบลโนนบุรี อำเภอสหัสขันธ์ จังหวัดกาฬสินธุ์ รับตรวจประเมินหมู่บ้านแผ่นดินธรรมแผ่นดินทอง (หมู่บ้านอยู่เย็น) ชูจุดแข็งยึดหลัก บ ว ร นำการพัฒนา เชื่อมั่นในเศรษฐกิจพอเพียง แบ่งปันพื้นที่สาธารณะ 13 ไร่ สร้างอาชีพ สร้างรายได้ ตลอดทั้งปี

ที่บ้านโนนสวาท ตำบลโนนบุรี อำเภอสหัสขันธ์ จังหวัดกาฬสินธุ์ นายสมชัย เลิศประสิทธิพันธ์ รองอธิบดีกรมการปกครอง ประธานกรรมการ นายณัฐพล วิถี ผู้ตรวจราชการกรมการปกครอง นายคมกริช ชินชนะ ผู้แทนกรมการพัฒนาชุมชน และคณะกรรมการจากทุกภาคส่วน ร่วมตรวจประเมินผลงานและตัดสินการคัดเลือกหมู่บ้านเข้มแข็งตามแนวทาง “แผ่นดินธรรม แผ่นดินทอง” (หมู่บ้านอยู่เย็น) ประจำปี 2566 ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยนายศุภศิษย์ กอเจริญยศ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ มอบหมายให้นายธวัชชัย รอดงาม รองผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ นายสุเทพ ชัยวัฒน์ นายอำเภอเมืองกาฬสินธุ์ แทน ปลัดจังหวัดกาฬสินธุ์ จ่าเอกประสงค์ จันทร์กระจ่าง จ่าจังหวัดกาฬสินธุ์ พร้อมส่วนราชการ ภาคเอกชน พื้นที่อำเภอสหัสขันธ์ โดยนางสาวแววตา นระทัด นายอำเภอสหัสขันธ์ นายนพดล ร้อยพวง ปลัดอำเภอ หัวหน้ากลุ่มบริหารงานปกครอง ปลัดอำเภอกำกับดูแลพื้นที่ตำบลโนนบุรี นายบุญมี แก่นนาคำ นายกเทศมนตรีตำบลโนนบุรี นางนฤมล สิงห์เงา ปลัดเทศบาลตำบลโนนบุรี นายสมญา ศิลาพัฒน์ ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ที่ 6 บ้านโนนสวาท โดยพระครูสิทธิวราคม ดร. เจ้าคณะอำเภอสหัสขันธุ์ (ธ) พระครูสิริพัฒนนิเทศ ดร. รักษาการเจ้าคณะอำเภอสหัสขันธ์ พร้อมคณะกรรมการหมู่บ้าน กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน 8 ตำบล 85 หมู่บ้าน อสม. และนักเรียน ร่วมรับการตรวจประเมินจากคณะกรรมการอย่างพร้อมเพรียง

นายสมชัย เลิศประสิทธิพันธ์ รองอธิบดีกรมการปกครอง กล่าวว่า การประเมินและคัดเลือกโครงการหมู่บ้านเข้มแข็งตามแนวทาง “แผ่นดินธรรม แผ่นดินทอง” (หมู่บ้าน อยู่เย็น) ประจำปี ๒๕๖๖ เป็นโครงการที่มุ่งเน้นให้เกิดความเข้มแข็งของชุมชน ให้ขับเคลื่อนด้านเศรษฐกิจพอเพียง และ บ ว ร และประเมินผลด้านการปฏิบัติงาน การบริหารจัดการหมู่บ้านโดยกลไกของคณะกรรมการหมู่บ้าน หรือ ก.ม. ซึ่งจะดูในทุกด้านไม่ว่าจะเป็นการจัดการขยะเปียก การทำเกษตรปลอดภัย การส่งเสริมอาชีพในหมู่บ้าน การดูแลสุขภาพของคนนชุมชนและผู้สูงอายุ การป้องกันและปราบปรามยาเสพติด เป็นต้น

นายศุภศิษย์ กอเจริญยศ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ กล่าวว่า สำหรับพื้นที่บ้านโนนสวาท เป็นหมู่บ้านที่มีประชากรเพียง 227 คน 74 ครัวเรือน แต่มีความเข้มแข็งโดยเฉพาะการใช้พื้นที่สาธารณะประโยชน์ในหมู่บ้าน รวมกันปลูกพืชผลต่าง ๆ ทั้งผักสวนครัว หลากหลายชนิด นอกจากนี้ยังมีการจัดการพื้นที่ โดยแบ่งให้คนละ 50 ตารางวาเท่ากัน โดยมีครัวเรือนที่อยู่ในพื้นที่ 55 แปลง และได้อิสระในการเลือกปลูกพันธุ์พืชต่าง ๆ ตามฤดูกาล ซึ่งทำให้ชาวบ้านโนนสวาท มีรายได้เสริม มีอาชีพ และมีกิจกรรมชุมชนร่วมกันตลอดทั้งปี โดยได้รับงบประมาณจากมูลินิธิปิดทองหลังพระ สืบสานแนวทางพระราชดำริ ดำเนินโครงการปรับปรุงระบบส่งน้ำ ด้วยพลังงานแสงอาทิตย์ ในพื้นที่เกษตรแปลงรวม ภายใต้โครงการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมฐานรากเพื่อบรรเทาผลกระทบจากสถานการณ์โควิด19 ในปี 2563 และมีการต่อยอดโครงการจนถึงระยะที่ 3 ที่บริหารจัดการพื้นที่ 13 ไร่ เป็นแปลงเกษตรรวม ผ่านการคัดเลือกระดับจังหวัด และระดับเขตตรวจราชการ กรมการปกครองที่ 12 เป็นตัวแทนการเข้าประเมินระดับภาค ซึ่งพลังความเข้มแข็งและสิ่งที่ชาวบ้านโนนสวาทได้ทำมาโดยตลอด จะเป็นสิ่งที่พิสูจน์ได้ในแนวทางเศรษฐกิจพอเพียง ที่ถือเป็นแนวปฏิบัติที่จะสร้างชุมชนให้มีความเข้มแข็งและยั่งยืน