อุณหภูมิการเมืองเริ่มร้อนระอุแข่งกับอากาศที่ร้อนเกิน 40 องศา ก็คงจะเป็นการลงพื้นที่ของผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ทั่วประเทศหนึ่งขุนพลหญิงแกร่งแห่งงานพระพุทธศาสนาและงานความเดือดร้อนของประชาชนรวมไปถึงการตรวจสอบทุจริตคอรัปชั่น ในหลายพื้นที่
ขุนพลหญิงพรรคเสรีรวมไทยเขต 1 เบอร์ 8 อุดรธานี นางสาวอิงค์ณภัจฉร์ชินวัตรนุวงค์ได้ลงพื้นที่อย่างต่อเนื่องขอคะแนน จากพี่น้องประชาชน ทั้ง online on ground โดยเน้นย้ำการทำงานที่ผ่านมาได้รับทราบปัญหาของประชาชนในพื้นที่ รวมไปถึง การพัฒนาเมือง ที่ไม่เป็นไปอย่าง เต็มที่ ตามศักยภาพของเมืองที่ควรจะเป็น รวมไปถึง ความเดือดร้อน ของพ่อแม่ครูบาอาจารย์พระเกจิอาจารย์พระสงฆ์ที่อาศัยอยู่ในเขตป่าไม้และอุทยานในแถบอีสานและทั่วประเทศ ที่ข้อกฏหมายไม่สอดคล้องและข้อกฏหมายที่ไม่เกิดประโยชน์กับประชาชน ในฐานะประธานชมรมรักพุทธศาสนนานาชาติ จะขอเข้าไปทำงานแก้ไข ข้อกฎหมายที่ไม่เป็นธรรม ไม่เท่าเทียม
ซึ่งจากการพูดคุยนางสาวอิงค์ณวัยโจ๋ให้สัมภาษณ์ว่า การเข้าไป ในสภาครั้งนี้มีความหมายมาก ทั้งต่อพื้นที่จังหวัดอุดรธานีเองและทั่วประเทศและอานิสงส์ใหญ่ที่จะต้องได้ทำนั่นก็คือ งานปกป้องคุ้มครองพระพุทธศาสนาและรักษาสถาบันหลักของชาติซึ่งเป็นสิ่งสำคัญ ไม่มีศาสนา ไม่มีพระมหากษัตริย์ไม่มีพระมหากษัตริย์ไม่มีประเทศไม่มีประเทศไม่มีประชาชน เราควรปลูกฝังลูกหลานให้ควรคำนึงถึงรากเหง้า เพราะเราจะเบ่งบานไปไม่ได้หากเรา ไม่มีรากเหง้าไม่ว่าทางวัฒนธรรมเศรษฐกิจการเมืองสังคมซึ่งมันผูกพัน กันมาภารกิจอีกหนึ่งภารกิจที่สำคัญคือการปกป้องคุ้มครองะทธศาสนา
ซึ่งตอนนี้ต้องได้ร่วมมือ ร่วมใจ การรักษาพระพุทธศาสนา โดยเฉพาะอย่างยิ่ง พระสงฆ์ ซึ่งเป็นหนึ่งในพระรัตนตรัย ขณะนี้ได้มี การออกข้อกฎหมายต่างๆ ที่ออกมาและไม่เอื้อต่อการ ส่งเสริมสนับสนุน พัฒนาปกป้องคุ้มครองพระพุทธศาสนาให้มั่นคงรวมไปถึงภัยคุกคามพระพุทธศาสนาที่มาในทุกรูปแบบดังนั้นการเข้าสภาในครั้งนี้ ที่ถูกกำหนดโดยเหตุปัจจัยที่กล่าวมาศาสนาและสถาบันหลักของแผ่นดิน ประเทศชาติและประชาชนต้องมั่นคงกว่านี้ก็ขอให้พี่น้องประชาชนผู้ที่รักชาติรักแผ่นดินทุกท่าน ได้เลือกให้ดิฉันเข้าไปทำงาน ในสภา แก้ไขข้อกฎหมาย ต้นตอ แห่งปัญหาท้งหมดทั้งมวลนางสาวอิงค์ณภัจฉร์กล่าว ในตอนท้าย
