ประชาสัมพันธ์

สกลนคร วางแผนผลักดันน้ำในเขตเมืองที่ท่วมขัง ขณะที่หนองหารปริมาณน้ำเกิน 100เปอร์เซ็นต์

วันที่ 19 ก.ย. 2566 ที่ศาลากลางจังหวัดสกลนคร นางจุรีรัตน์ เทพอาสน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสกลนคร เป็นประธานการประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อวางแผนการบริหารจัดการน้ำ หลังจากเกิดฝนตกหนักต่อเนื่อง ในช่วงเช้าที่ผ่านมาตั้งแต่เวลา 05.00 น. ส่งผลให้มีน้ำท่วมขังในเขตเทศบาลนครสกลนคร เป็นบริเวณกว้าง ซึ่งเทศบาลนครสกลนครได้รับการสนับสนุน เครื่องสูบน้ำ จากศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต 7 สกลนคร ขณะนี้สถานการณ์คลี่คลายลงแล้ว

ทั้งนี้ โครงการชลประทานสกลนครได้รายงานสถานการณ์น้ำ ซึ่งที่หนองหาร ปริมาณน้ำเก็บกัก 266.924 ล้าน ลบ.ม. วันนี้ขึ้นมาสูงถึง 280.894 ล้านลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ 105.23 ซึ่งเกินระดับเก็บกักเล็กน้อย โดยมีปริมาณน้ำฝนสะสมมากกว่าค่าเฉลี่ย 30 ปี หรืออยู่ที่ประมาณ 1,658.0 ม.ม. โดยอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ 3 อ่าง มีน้ำร้อยละ 90.71 ของความจุอ่างเก็บน้ำขนาดกลาง 34 แห่ง มีน้ำรวม ร้อยละ 103.03 ของความจุ และอ่างเก็บน้ำขนาดเล็ก 78 แห่ง มีน้ำรวม ร้อยละ 97.51 ของความจุ

นางจุรีรัตน์ เทพอาสน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสกลนคร กล่าวว่า จากการติดตามสถานการณ์น้ำพบว่า น้ำในแหล่งน้ำขนาดใหญ่ โดยเฉพาะ น้ำพุงยังสามารถรองรับน้ำได้ ส่วนน้ำก่ำ ระดับน้ำต่ำกว่าตลิ่งประมาณ 1 เมตร และยังสามารถระบายน้ำลงไปสู่แม่น้ำโขงได้ จังหวัดสกลนครโดย หน่วยงานของกรมชลประทาน ได้วางแผน บริหารจัดการน้ำด้วยการปิดบานประตูเขื่อนน้ำพุง เพื่อผลักดันน้ำไม่ให้ไหลลงหนองหาร พร้อมย้ำ สถานการณ์ยังไม่วิกฤต โดยขอให้ทุกหน่วยงานลงพื้นที่เข้าไปให้ความช่วยเหลือประชาชน เยี่ยมเยียน เยียวยา ตามระเบียบที่กำหนด โดยไม่ต้องรอจนถึงสิ้นสุดภัย

นายโกมุท ทีฆธนานนท์ นายกเทศมนตรีนครสกลนคร กล่าวว่า จากสภาพฝนที่ตกหนักในช่วงนี้ทำให้มีน้ำท่วมขังในเขตเมือง ซึ่งตนและทีมงานได้ออกไปช่วยเหลือประชาชนด้วยการติดตั้งเครื่องผลักดันน้ำซึ่งได้รับการสนับสนุนจากศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต 7 สกลนคร โดยเทศบาลนครวางแผนใช้งบพัฒนาเมืองของกรมโยธาธิการและผังเมือง ในการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมเขตเมือง ซึ่งเป็นพื้นที่ท่วมซ้ำซากไว้แล้ว

จากการคาดการณ์ความเสียหายเบื้องต้น จำนวน 7 อำเภอ ในบางส่วน ได้แก่ อำเภอพังโคน โพนนาแก้ว อากาศอำนวย วานรนิวาส บ้านม่วง เจริญศิลป์ และอำเภอคำตากล้า โดยคาดว่ามีพื้นที่นาข้าวเสียหาย 38,142 ไร่ พืชสวน 508 ไร่และบ่อปลา เสียหาย จำนวน 8 บ่อ