ประชาสัมพันธ์

บุรีรัมย์ ฮือฮา! วงเวียนหนอนไหมนักรบหนึ่งเดียวในโลกหวังสร้างอัตลักษณ์ดึงดูด นทท.

ฮือฮา! วงเวียนหนอนไหมสวมชุดนักรบหนึ่งเดียวในโลกที่ อ.นาโพธิ์ จ.บุรีรัมย์ รถขับผ่านไปมาต่างอดใจไม่ได้ที่จะต้องถ่ายรูปเป็นที่ระลึก และโพสต์ลงโซเชียล นายกเทศมนตรีตำบลนาโพธิ์เผย ไอเดียสร้างวงเวียนหนอนไหมเพื่อลดอุบัติเหตุ ยังหวังให้เป็นจุดดึงดูด นทท. ทำให้คนรู้จัก อ.นาโพธิ์ และมาอุดหนุนผ้าไหมที่สวยงามมีคุณภาพมาตรฐานมากขึ้นด้วย

วันที่ 8 พ.ย. 2566 เทศบาลตำบลนาโพธิ์ อ.นาโพธิ์ จ.บุรีรัมย์ ได้จัดสรรงบประมาณจำนวน 500,000 บาท ก่อสร้างวงเวียนหนอนไหมนักรบที่แตกต่างไม่เหมือนใคร และเป็นวงเวียนหนอนไหมนักรบหนึ่งเดียวในโลก เพื่อต้องการให้เป็นสัญลักษณ์ดึงดูดนักท่องเที่ยวให้เข้ามาเที่ยวอำเภอนาโพธิ์และเป็นที่รู้จักมากขึ้นด้วย โดยวงเวียนหนอนไหมดังกล่าวมีทั้งหมด 6 ตัว แต่ละตัวจะปั้นเป็นอิริยาบถท่าทางที่แตกกันต่าง ทั้งหนอนไหมท่ายิ้ม หน้าบึ้ง หน้าตาทะเล้น และปากจู๋บ้าง อีกทั้งยังมีการสวมหมวกและตกต่างเหมือนชุดนักรบให้ด้วย และยังตั้งชื่อให้รูปปั้นหนอนไหมแต่ละตัวอีกด้วย เช่น สีแดงคือ หนอนไหมบันดาลโชค สีเหลืองหนอนไหมสุขอนันต์ สีเขียวหนอนไหมสยบทุกข์ สีฟ้าหนอนไหมศรีนาโพธิ์ สีส้มหนอนไหมปราบไพรี สีชมพูหนอนไหมโภคทรัพย์ ซึ่งหนอนไหมนักรบทั้ง 6 ตัว จะอยู่ล้อมรอบอัก หรือกี่สำหรับแกว่งเส้นไหม เพื่อสื่อให้เห็นว่าอำเภอนาโพธิ์เป็นเมืองแห่งผ้าไหม หลังจากก่อสร้างวงเวียนหนอนไหมดังกล่าวแล้วเสร็จ ก็มีประชาชนในพื้นที่ รวมถึงผู้ที่ขับรถผ่านไปมาต่างก็อดใจไม่ได้ที่จะหยิบมือถือขึ้นมาถ่ายรูปเป็นที่ระลึก หรือโพสต์ลงในโซเชียล อย่างไรก็ตามนอกจากจะเป็นจุดดึงดูดนักท่องเที่ยวแล้ว การสร้างวงเวียนยังช่วยลดอุบัติเหตุด้วย เพราะบริเวณดังกล่าวมีมีรถสัญจรไปมาค่อนข้างพลุกพล่าน เพราะอยู่ใจกลางตัวอำเภอเป็นแหล่งชุมชนมีทั้งตลาด โรงเรียน และสถานที่ราชการด้วย

นายวรพงษ์ บาลไธสง นายกเทศมนตรีตำบลนาโพธิ์ กล่าวว่า อ.นาโพธิ์ถือเป็นพื้นที่เหนือสุดของจ.บุรีรัมย์ และเป็นเมืองปิด ต้นทุนสภาพพื้นที่ก็จะไม่มีทะเล ภูเขา น้ำตก หรือป่าไม้ ที่จะสามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวให้เดินทางมาเที่ยวได้ ก็คิดว่าจะต้องทำยังไงถึงจะเป็นส่วนหนึ่งของบุรีรัมย์ ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองท่องเที่ยวและกีฬามาตรฐานระดับโลก และจะสามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวเข้ามาเที่ยวได้ และจะทำยังไงให้คนรู้จัก อ.นาโพธิ์มากขึ้น ปกติคนก็จะรู้อยู่แล้วว่าเป็นเมืองผ้าไหม จึงได้เกิดแนวคิดว่าจะต้องทำอะไรที่เป็นสัญลักษณ์ให้นักท่องเที่ยวหรือคนที่ผ่านไปมา รู้ว่าได้มาถึงเมืองไหมแล้ว จึงเป็นที่มาขอแนวคิดในการนำภูมิปัญญาเมืองแห่งผ้าไหมมาเป็นจุดดึงดูด แต่ก็ต้องมีความโดดเด่นและแตกต่างไม่เหมือนใคร ซึ่งปกติวงเวียนที่เห็นตามอำเภอ หรือจังหวัดต่างๆ ก็จะเป็นรูปปั้นเจ้าเมืองบ้าง หรือหอนาฬิกาบ้าง ดังนั้นจึงเป็นที่มาของการสร้างวงเวียนหนอนไหมที่แตกต่างไม่เหมือนใคร ด้วยการปั้นรูปหนอนไหมในรูปแบบต่างๆ ทั้งหน้ายิ้ม หน้าบึ้ง ทำปากจู๋ หน้าตาทะเร้น และใส่หมวกให้เป็นนักรบหนอน ที่สื่อให้เห็นว่าเป็นกองพลังถักทอเส้นใยไหมขึ้นไปยังตัว อัก หรือภาษาพื้นถิ่นอีกสานเรียกว่ากี่ ซึ่งเป็นอุปกรณ์ในการแกว่งไหม เพื่อที่จะถักทอเป็นผ้าไหม และถือเป็นวงเวียนหนอนไหมนักรบหนึ่งเดียวในโลกก็ว่าได้ ซึ่งหลังจากทำวงเวียนหนอนไหมดังกล่าวแล้วก็มีประชาชน รวมถึงคนที่ขับรถผ่านไปมาต่างแวะถ่ายรูป ถ่ายคลิปไปโพสต์ลงในโซเชียลกันอย่างต่อเนื่อง ก็ขอบคุณที่ทำให้คนรู้จักอ.นาโพธิ์มากขึ้น

ทั้งนี้ ยังได้เชิญชวนนักท่องเที่ยวหรือผู้ที่ขับรถผ่านไปมา แวะเวียนไปถ่ายรูปวงเวียนหนอนไหม และมาอุดหนุนผ้าไหมของชาว อ.นาโพธิ์ ซึ่งมีทั้งผ้าไหมที่เป็นอัตลักษณ์ ผ้าไหมลายพระราชทาน ลวดลายสวยงามและมีคุณภาพมาตรฐานด้วย