เมื่อวันที่ 18 ม.ค. 2567 ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่โรงแรมคุ้มล้านนา ต.หนองไผ่ อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ ซึ่งเป็นโรงแรมชื่อดังของ จ.ศรีสะเกษ เนื่องจากมีการโพสต์ในเฟสบุ๊คว่า เจ้าของโรงแรมแห่งนี้ โดนปลอมเฟสบุ๊คและขอบริจาคเงินจากผู้ที่รู้จักสนิทสนมจำนวนมาก เมื่อไปถึงได้กับ นางจันทร์เพ็ญ ปริปุณณะชัย เจ้าของโรงแรมคุ้มล้านนา ซึ่งได้เปิดเฟสบุ๊คของตนเองและนำเอาหลักฐานการแจ้งความไว้ที่ สภ.เมืองศรีสะเกษ มาให้ผู้สื่อข่าวได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นมา
นางจันทร์เพ็ญ ปริปุณณะชัย เจ้าของโรงแรมคุ้มล้านนา กล่าวว่า วันนี้ตนได้มาร้องทุกข์ต่อสื่อมวลชนเพื่อเตือนภัยตอนนี้ ค่อนข้างจะหนักหนาสาหัสมาก จ.ศรีสะเกษมีการปลอม Facebook ของคนมีชื่อเสียงหลายคนซึ่งได้มีการพากันไปแจ้งความที่ สภ.เมืองศรีสะเกษ ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้เตือนภัยเช่นกันว่า มีคนมาร้องทุกข์เรื่องนี้เยอะมาก มาแจ้งความเยอะขอให้ทุกคนได้ระมัดระวัง ซึ่งคนร้ายจะใช้วิธีการโดยการเอารูปของเราปลอมเป็นชื่อเรา แล้วไปขอแอดเป็นเพื่อนกับคนอื่นๆซึ่งเพื่อน ๆ ก็แปลกใจ พอเค้าอ่านก็มีการขอเรี่ยรายเงินเป็นกองทุนอ้างว่า เพื่อขอให้ช่วยซื้อถังออกซิเจนไปช่วยเหลือตามโรงพยาบาลชนบทที่ห่างไกลทั่วประเทศกองละ 8,990 บาทซึ่งทุกคนก็แปลกใจว่าคุณจันทร์เพ็ญจะทำบุญอะไรเหรอ ซึ่งก็ได้มีการสอบถามมาถาม เราก็เลยตอบไปว่า ตนก็ตกใจเนื่องจากว่าตนไม่ได้ทำบุญอะไรเลย ตนก็ได้เข้าไปเช็คดูปรากฏว่าเป็นเฟสปลอม ตนจึงได้ไปแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.เมืองศรีสะเกษไว้เป็นหลักฐาน เมื่อวันที่ 14 ม.ค. 2567 ที่ผ่านมา
นางจันทร์เพ็ญ ปริปุณณะชัย เจ้าของโรงแรมคุ้มล้านนา กล่าวต่อไปว่า ตนจึงขอฝากเตือนทุกท่านได้โปรดระมัดระวังเรื่องนี้ด้วย ช่วงนี้ค่อนข้างระบาดหนักมากเรื่องการปลอมเฟสของคนมีชื่อเสียงในเขตพื้นที่ จ.ศรีสะเกษโดยวิธีการจะนำเอา QR Code ใส่ไว้ใน Facebook ของตัวเฟสปลอมว่า ขอบริจาคเงินขอให้ทุกคนโอนเงิน โดยวิธีการของเค้าก็คือขอแอดเป็นเพื่อนก่อน จะขอสมัครเป็นเพื่อนก่อนแล้วเร่งให้เราโอนเงินให้ ซึ่งเป็นลักษณะที่ค่อนข้างผิดสังเกต ปกติแล้วจันทร์เพ็ญไม่เคยขอเรี่ยไรเงินใคร มีผู้ที่มีชื่อเสียงในเขตพื้นที่ จ.ศรีสะเกษโดนปลอมเฟสเยอะมากเช่น ล่าสุดเจ้าของห้างสรรพสินค้าชื่อดังของ จ.ศรีสะเกษ เจ้าของร้านขายยาชื่อดังของศรีสะเกษ พี่สาวอีกคนหนึ่งที่เป็นครูเกษียณอายุราชการแล้วก็โดนปลอมเฟสเช่นกัน ซึ่งมีผู้ที่หลงเชื่อแล้วโอนเงินให้กับมิจฉาชีพไปหลายรายด้วยกัน แต่ว่าเพื่อนของตนยังไม่ได้หลงโอนเงินไปให้ เนื่องจากว่าตัวเลขที่ขอบริจาคเป็นกองทุนค่อนข้างเยอะจึงมีความสงสัย จึงขอฝากเตือนภัยในเรื่องนี้กับทุกคนได้มีความระมัดระวังในเรื่องนี้ด้วย