ประชาสัมพันธ์

ศาลจังหวัดกาฬสินธุ์ จัดงานวันรพีน้อมรำลึกพระบิดาแห่งกฎหมายไทย

ศาลจังหวัดกาฬสินธุ์ จัดงานวันรพี ประจำปี 2565 เพื่อน้อมรำลึกพระมหากรุณาธิคุณพระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้ารพีพัฒนศักดิ์ กรมหลวงราชบุรีดิเรกฤทธิ์ พระบิดาแห่งกฎหมายไทย

เมื่อเวลา 07.00 น. วันที่ 5 สิงหาคม 2565 ที่บริเวณหน้าอาคารศาลจังหวัดกาฬสินธุ์ นายทรงพล  ใจกริ่ม ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์  นางสาวโกมลลดา ไกรสิงห์ ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลจังหวัดกาฬสินธุ์ นายธวัชชัย  รอดงาม รองผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์  พล.ต.ต.วรวัฒน์ มะลิ ผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์ นายธนภัทร ณ ระนอง ปลัดจังหวัดกาฬสินธุ์ นางวัฒนานันท์ ธรรมบุตร ผู้อำนวยการสำนักอำนวยการประจำศาล จ.กาฬสินธุ์ นายพูนศักดิ์ นามเพ็ง หัวหน้าส่วนช่วยอำนายการประจำศาล จ.กาฬสินธุ์ นำคณะผู้พิพากษา หัวหน้าส่วนราชการ  ผู้แทนนักกฎหมาย หน่วยงานต่างๆ และเจ้าหน้าที่ในสังกัดกระทรวงยุติธรรมจัดพิธีวางพวงมาลา และถวายเครื่องราชสักการะ เบื้องหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้ารพีพัฒนศักดิ์ กรมหลวงราชบุรีดิเรกฤทธิ์ เนื่องในวันรพี ประจำปี 2565 พร้อมร่วมกันถวายภัตตาหาร ถวายสังฆทานแด่พระภิกษุสงฆ์ เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล และเทิดพระเกียรติ ด้วยความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ

พระองค์เจ้ารพีพัฒนศักดิ์ กรมหลวงราชบุรีดิเรกฤทธิ์ ผู้มีบทบาทสำคัญในการปฏิรูประบบการศาลไทย และก่อตั้งโรงเรียนกฎหมายขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 5 พระองค์ทรงเป็นแบบอย่างของนักกฎหมายที่ดี ทรงจัดการแก้ไข และวางระเบียบการในกระทรวงให้ดียิ่งขึ้น เช่น ทรงแก้ไขระเบียบการของหอทะเบียนที่ดินทั่วพระราชอาณาจักร ทรงทำนุบำรุงการเกษตร โดยเฉพาะเรื่องการชลประทาน และการทดน้ำ พระองค์ได้ทรงปฏิบัติราชการสำคัญอันเป็นประโยชน์แก่ประเทศชาติ และประชาชนอย่างยิ่ง จนกระทั่งปี พ.ศ. 2462 ทรงประชวรด้วยวัณโรคที่พระวักกะ (ไต) จึงได้ทรงไปรักษาพระองค์ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส และในวันที่ 7 สิงหาคม พ.ศ.2463 ได้ทรงสิ้นพระชนม์ เมื่อพระชนมายุเพียง 47 พรรษา   

จากการที่ได้ทรงทุ่มเทพพระวรกาย ศึกษาวิชาการทางกฎหมาย และทรงทำให้ระบบกฎหมาย และศาลยุติธรรม ของประเทศไทยเจริญก้าวหน้า ทัดเทียมกับอารยประเทศทั้งปวงนี้เอง ทำให้ประชาชน ต่างขนานพระนามว่าพระบิดาแห่งกฎหมายไทย และกำหนดให้วันที่ 7 สิงหาคม ซึ่งเป็นวันคล้ายวันสิ้นพระชนม์ของพระองค์เป็นวันรพี เพื่อให้นักกฎหมาย ได้มีโอกาสแสดงความระลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ ด้วยการวางพวงมาลาและบำเพ็ญกุศลร่วมกัน ตลอดจนการจัดกิจกรรมทางกฎหมาย เพื่อเผยแพร่ วิชาการกฎหมายให้กว้างขวางสู่ประชาชน สมดังพระประสงค์ที่ต้องการให้นักกฎหมายมีบทบาทในการพัฒนาประเทศ โดยพัฒนากฎหมายให้ก้าวหน้า เหมาะสมแก่สภาพสังคม ที่เปลี่ยนไปตามยุคสมัย และใช้กฎหมายเพื่อให้เกิดความยุติธรรมแก่ประชาชนจนถึงปัจจุบัน