เมื่อเวลา 11.00 น.วันที่ 1 พ.ค. 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บริเวณหน้าห้องประชุมแก่นเมือง ศาลากลางจังหวัดขอนแก่น นายไกรสร กองฉลาด ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น, พ.ต.อ.คะเชนทร์ ยืนยง รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดขอนแก่น, น.พ.วิทยา ชาติบัญชาชัย กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ศปถ.จังหวัดขอนแก่น ร่วมแถลงข่าว การขับเคลื่อนวาระสำคัญของจังหวัดขอนแก่น “จังหวัดขอนแก่น ขับขี่ปลอดภัย 365 วัน” และมาตรการองค์กรด้านความปลอดภัยทางถนนของทุกภาคส่วน ซึ่งในวันที่ 1 สิงหาคม 2566 นี้ จะเริ่มบังคับใช้กฏหมายอย่างเคร่งครัด จับจริง ปรับจริง โดยมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและภาคีเครือข่ายร่วมงานแถลงข่าว
นายไกรสร กองฉลาด ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น กล่าวว่า จังหวัดขอนแก่น ได้ประกาศ เป็นวาระสำคัญของจังหวัด ให้สอดรับกับนโยบายของรัฐบาล โดยบูรณาการขับเคลื่อนร่วมกับทุกภาคส่วน อย่างเข้มข้นในทุกพื้นที่อย่างต่อเนื่องทั้งในช่วงภาวะปกติและช่วงเทศกาลสำคัญ เพื่อเป็นการรณรงค์การขับเคลื่อนวาระจังหวัดขอนแก่นขับขี่ปลอดภัย 365 วัน ปี พ.ศ. 2566 การสวมหมวกนิรภัย 100% และมาตรการองค์กรด้านความปลอดภัยทางถนนของทุกภาคส่วน
“จังหวัดขอนแก่น กำหนดให้มีการบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด กำหนดช่วงระยะเวลาดำเนินการวันที่ 1 พฤษภาคม – 31 กรกฏาคม 66 ประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้ โดยสถานีตำรวจภูธรทั้ง 30 แห่ง ร่วมกับ ศปถ.อำเภอ,ศปถ.ทุกแห่ง ดำเนินการบังคับใช้กฎหมายจราจรทางบกอย่างจริงจังในเชิงบวก โดยการว่ากล่าวตักเตือน เพื่อให้ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเสี่ยงและเพื่อแสดงความห่วงใยในความปลอดภัยทั้งชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน และในวัน 1 สิงหาคม 66 เป็นต้นไป ดีเดย์บังคับใช้กฎหมายจราจรทางบกอย่างเคร่งครัด จับจริง ปรับจริง ไม่มีข้อยกเว้น”
ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น กล่าวอีกว่า เพื่อสร้างวัฒนธรรมความปลอดภัยทางถนนให้กับบุคลากรเจ้าหน้าที่ พนักงานและลูกจ้างภายในองค์กรของตนเอง ซึ่งประกอบด้วยหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน รัฐวิสาหกิจและสถาบันศึกษาต่างๆ ช่วงเดือน พฤษภาคม – มิถุนายน 66 จังหวัดขอนแก่นจะเชิญหน่วยงานภาครัฐ 134 หน่วย และโรงงานสถานประกอบการ จำนวน 24 แห่ง และสถาบับการศึกษา ร่วมดำเนินการลงนามบันทึกความร่วมมือ (MOU) เพื่อรณรงค์สวมหมวกกันน็อค เพื่อความปลอดภัยของผู้ขับขี่”
ทั้งนี้ จังหวัดขอนแก่นกำหนดเป้าหมายในปี 2566 ซึ่งศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนนจังหวัดขอนแก่น (ศปถ.จังหวัดขอนแก่น) กำหนดค่าเป้าหมาย ลดอัตราการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุลง ร้อยละ 20 คือการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนนในพื้นที่ ไม่เกิน 325 คน ซึ่งได้กำหนดค่าเป้าหมายตัวชี้วัดเป็นรายอำเภอ โดยให้ศูนย์ปฏิบัติการความปลอดภัยทางถนนระดับอำเภอ (ศปถ.อำเภอ)ทุกอำเภอ และให้ศูนย์ปฏิบัติการความปลอดภัยทางถนนระดับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (ศปถ.อปท.)ทุกแห่ง ดำเนินการขับเคลื่อนกลไกการบริหารจัดการอย่างจริงจังให้สอดคล้องกับค่าเป้าหมายที่กำหนดไว้ ซึ่งปัจจัยเสี่ยงสำคัญ ที่ส่งผลต่อการเกิดอุบัติเหตุทางถนน จากการไม่เคารพกฎหมายการจราจร ไม่สวมหมวกกันน็อค เมาแล้วขับและขับขี่เร็วเกินกว่ากฎหมายกำหนด