ข่าวสังคม

บุรีรัมย์ ชาวนาโร่แจ้งความเกษตรกรและเมียรองนายกฯ 18 คนตัดต้นข้าวในนาไปเลี้ยงวัวไม่ขออนุญาต

ชาวนา อ.นาโพธิ์ จ.บุรีรัมย์ โร่แจ้งความเรียกค่าเสียหายเกษตรกรและเมียรองนายก อบต.รวม 18 คนๆละ 1,500 บาท หลังนำเครื่องตัดหญ้าและ จยย.พ่วงลงตัดต้นข้าวในนา 5 ไร่ไปเลี้ยงวัวโดยไม่ขออนุญาตทั้งกลัวต้นข้าวที่ถูกจะไม่งอกเหมือนเดิมเพราะใกล้สิ้นสุดหน้าฝน คู่กรณีเผยเข้าใจผิดเพราะญาติเจ้าของนาบอกขอแล้วทั้งเห็นหญ้าขึ้นแซมจึงพากันไปตัด หลายคนยอมจ่ายแต่บางคนขอไปไกล่เกลี่ยที่ศาล

วันที่ 10 ก.ย. 2566 นายธีระชาติ นวลไธสง ชาวนา ต.นาโพธิ์ อ.นาโพธิ์ จ.บุรีรัมย์ ได้แจ้งความที่ สภ.นาโพธิ์ เพื่อเอาผิดกับเกษตรกร และภรรยารองนายก อบต.แห่งหนึ่งใน อ.นาโพธิ์ รวมจำนวน 18 คน ฐานร่วมกันทำให้เสียทรัพย์ หลังจากเกษตรกร และภรรยารองนายก อบต. ได้พากันนำเครื่องตัดหญ้าและรถจักรยานยนต์พ่วงข้าง ลงไปตัดต้นข้าวในนาเนื้อที่ประมาณ 5 ไร่นำไปเลี้ยงวัวของตัวเองโดยไม่ได้ขออนุญาต ทำให้ต้นข้าวที่ปลูกไว้ได้รับความเสียหาย เพราะมีการนำรถลงไปเหยียบย่ำในนาด้วย ทั้งเกรงว่าข้าวที่ถูกตัดจะไม่เจริญเติบโตและออกรวงเพราะช่วงนี้ก็ใกล้จะสิ้นสุดหน้าฝนแล้ว

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เรียกทั้งสองฝ่ายไปเจรจาไกล่เกลี่ยกันที่โรงพัก โดยเจ้าของนาได้เรียกค่าเสียหายกับคนที่ไปตัดต้นข้าวในนาคนละ 1,500 บาท แต่ไม่สามารถตกลงกันได้เพราะเกษตรกรที่ถูกแจ้งความบางคนบอกว่าสูงเกินไปก็ขอต่อรองลดเหลือคนละ 500 หรือ 1,000 บาท เพราะเห็นว่าไม่ได้เสียหายมากส่วนต้นข้าวที่ตัดก็จะงอกขึ้นใหม่อยู่แล้ว เพราะนาหลายคนเขาก็ตัดเพื่อให้ต้นข้าวงอกใหม่ บางคนถึงกับจ้างตัดด้วยซ้ำ แต่นายธีระชาติ เจ้าของนาก็ไม่ยอม เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงให้กลับไปพูดคุยตกลงกันก่อน ได้ข้อสรุปว่าอย่างไรแล้วค่อยมาพบตำรวจอีกครั้ง

จากการสอบถามนายธีระชาติ เจ้าของนา บอกว่า ความจริงก็ไม่ได้แจ้งความเอาผิด เพราะส่วนตัวก็เห็นใจว่าเป็นเกษตรกรเหมือนกัน และบางคนก็เป็นญาติพี่น้องกันด้วยซ้ำ แต่ก็อยากให้เห็นใจตนเองด้วยเหมือนกันเพราะตนก็ลงทุนปลูกข้าวก็หวังได้ผลผลิต ส่วนที่เขาบอกว่านาคนอื่นเขาก็ตัดเพื่อให้ข้าวงอกใหม่ มันก็ขึ้นอยู่กับแต่ละคนแต่ตนเห็นว่าใกล้จะสิ้นสุดหน้าฝนแล้วกลัวข้าวจะไม่งอก บางส่วนก็ถูกรถเหยียบย่ำเสียหายด้วย แล้วที่บอกว่ามีญาติโทรมาขออนุญาตก่อนไปตัดนั้น ได้มีญาติคนหนึ่งโทรมาบอกจริง แต่เขาไปถึงนาแล้วค่อยโทรมาบอกว่าจะขอตัดหญ้าที่ขึ้นแซมต้นข้าว ตนเห็นว่าเขาไปถึงนาแล้วก็เลยให้ตัดเพราะคิดว่าเขาตัดแค่ จยย.พ่วงคันเดียวคงไม่เยอะ และไม่คิดว่าคนอื่นที่ไม่ได้ขออนุญาตจะพากันไปตัดหายไปกว่า 5 ไร่จากนาทั้งหมด 6 ไร่ จึงไปแจ้งความเพื่อเรียกค่าเสียหายคนละ1,500 บาท

ด้านนางละมัย อายุ 56 ปี ซึ่งเป็นญาติกับเจ้าของนา บอกว่า ตนได้โทรไปบอกเจ้าของนาแล้วว่า ซึ่งก็มีศักดิ์เป็นหลานชายหลานก็บอกว่าถ้าไปถึงที่นาแล้วจะตัดก็ตัด ก็คิดว่าเจ้าของอนุญาตแล้วจึงตัดก็ตัดรถ จยย.พ่วงคันหนึ่ง พอเห็นชาวบ้านที่เลี้ยงวัวเหมือนกันขับรถผ่านไปจึงเรียกเขามาตัดด้วย เพราะคิดว่าเจ้าของอนุญาตให้ตัดแล้ว แต่หลังจากนั้นมีคนอื่นไปตัดตนก็ไม่รู้ว่าเขาไปตัด เพราะตนตัดเสร็จก็เอากลับมาให้วัว ส่วนที่ตนเองตัดก็ยอมจ่ายค่าเสียหายให้เจ้าของนาเพราะไม่อยากยุ่งยาก ส่วนคนอื่นตนก็ไม่รู้

ขณะที่นางพัชนี อายุ 52 ปี ภรรยารองนายก อบต. ก็ยอมรับว่า ได้ไปตัดหญ้าและค้นข้าวในนาของนายธีระชาติ จริงเพราะคิดว่านางมะลัย ซึ่งเป็นญาติกับเจ้าของนา บอกว่าได้โทรบอกเจ้าของนาแล้ว จึงเข้าใจว่าเจ้าของนาอนุญาตให้ตัดได้ ตนก็ไปตัดได้ประมาณ 8 มัดก็เอามาให้วัวที่เลี้ยงไว้กิน พอวันหลังได้ยินว่าเจ้าของนาไปแจ้งความเอาผิดฐานไปตัดต้นข้าวในนาโดยไม่ขออนุญาต ตนก็ตกใจเพราะไม่เคยเกิดแบบนี้มาก่อน ก็คงเป็นการสื่อสารที่ไม่เข้าใจกันก็เป็นอุทาหรณ์ ส่วนตัวก็ยอมจ่ายค่าเสียหายให้เจ้าของนาเพราะไม่อยากยุ่งยากเดินทางไปศาล แต่คนอื่นตนไม่รู้