ข่าวสังคม

บุรีรัมย์ กู้ภัยฯ รุดช่วยหนูน้อย 2 ขวบติดในรถพ่อแม่ลุ้นระทึกเผยวางกุญแจไว้หน้ารถเกิดล็อคอัตโนมัติ

กู้ภัยฯ ตำรวจทางหลวงบุรีรัมย์ รุดช่วยหนูน้อย 2 ขวบเศษติดในรถกระบะเกือบ 20 นาที พ่อแม่ลุ้นระทึกพยายามสื่อสารให้ลูกกดปุ่มลดกระจกแต่ไม่เป็นผล พ่อเผยแวะเข้าห้องน้ำปั้มน้ำมันผลัดกันลงคนละทีกับภรรยา แต่จังหวะปิดประตูเกิดล็อคอัตโนมัติ ขณะกุญกุญแจเผลอวางไว้หน้ารถ

วันที่ 25 ธ.ค. 2566 หน่วยกู้ภัยตำรวจทางหลวงบุรีรัมย์ ได้รับแจ้งมีเด็กติดในรถ ภายในสถานีบริการน้ำมัน หรือปั้มน้ำมัน สาขาหนองโบสถ์ อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ ซึ่งอยู่ติดถนนทางหลวงหมายเลข 24 โชคชัย-เดชอุดม จึงพร้อมด้วยอุปกรณ์รีบเดินทางไปตรวจสอบและให้ความช่วยเหลือ เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุตามที่ได้รับแจ้ง พบรถยนต์กระบะ ยี่ห้อ Isuzu All New สีเทา หมายเลขทะเบียน จย -8392 ชลบุรี จอดอยู่ภายในปั้มจากการตรวจสอบภายในรถกระบะคันดังกล่าว พบเด็กชายวัยเพียง 2 ขวบ 6 เดือน ติดอยู่ในรถโดยมีพ่อและแม่ยืนอยู่ข้างประตูรถด้วยความร้อนใจ ทั้งพยายามสื่อสารให้ลูกกดปุ่มลดกระจกแต่ก็ไม่เป็นผล ซึ่งก่อนที่หน่วยกู้ภัยฯ จะมาถึงน้องติดอยู่ในรถเกือบ 20 นาที หลังจากหน่วยกู้ภัยตำรวจทางหลวงมาถึงก็ได้นำอุปกรณ์ไปทำการเปิดกระจกที่ประตูรถ โดยใช้เวลาเพียง 2 นาที ก็สามารถลดกระจกลงและเปิดประตูได้สำเร็จ ทั้งพ่อและแม่โล่งอก รีบเข้ากอดลูกชายด้วยความดีใจ

จากการสอบถามนายสราวุฒิ ท้าวอิ่ม อายุ 28 ปี พ่อของน้องตะวัน เล่าว่า ตนขับรถคันดังกล่าวมาพร้อมกับภรรยาและลูกชาย รวมสามคนพ่อแม่ลูก มาจากจังหวัดศรีสะเกษตั้งแต่ตอนเช้า เพื่อจะเดินทางไปทำงานที่จังหวัดระยอง แต่พอขับมาถึงที่ปั๊มน้ำมันจุดเกิดเหตุ ก็ได้แวะเข้าห้องน้ำ ซึ่งตนก็ลงไปเข้าห้องน้ำตามปกติ ส่วนภรรยาก็ทำการเปลี่ยนเสื้อผ้าให้กับลูกชายอยู่ในรถ แต่ช่วงที่ภรรยาลงจากรถเพื่อจะเข้าห้องน้ำก็ปิดประตูรถ เป็นจังหวะที่ตนจะเดินมาเปิดประตูเพื่อจะขึ้นรถ แต่จู่ๆ รถเกิดล็อคอัตโนมัติ ซึ่งตอนนั้นกุญแจที่ไว้สำหรับกดเปิด-ปิดรถ ก็เผลอวางไว้ที่หน้ารถด้วยจึงไม่สามารถเปิดประตูได้ ด้วยความเป็นห่วงลูก ทั้งตนและภรรยาก็พยายามพูดคุยกับลูกผ่านกระจกประตูเพราะกลัวลูกจะตกใจ และพยามสื่อสารให้ลูกกดปุ่มลดกระจกแต่ก็ไม่เป็นผล อาจจะด้วยลูกยังเล็กมากจึงยังไม่เข้าใจ จึงได้โทรศัพท์ประสานหน่วยกู้ภัยฯ ให้มาช่วยเหลือ หลังจากนี้ก็จะระมัดระวังมากขึ้น

เหตุการณ์ดังกล่าวถือเป็นอุทาหรณ์สำหรับคนที่มีลูกหรือหลานเล็กๆ ไม่ควรให้ละสายตาแม้แต่เสี้ยววินาที เพราะอาจจะเกิดสิ่งที่ไม่คาดคิดได้ตลอดเวลา แต่เคสนี้ถือว่าโชคดีที่น้องปลอดภัย