ข่าวสังคม

นครพนม เปิดปฏิบัติการจู่โจม ตรวจค้นเรือนจำกลางนครพนม

วันที่ 28 ธันวาคม 2566 เวลา 06.00 น. ที่เรือนจำกลางนครพนม นายกัมปนาถจักรวาล วิเวศ ศรีพุทธา รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม พร้อมด้วย นายฉลาด อ่อนหัวโทน ผู้บัญชาการเรือนจำกลางนครพนม บูรณาการหน่วยความมั่นคง ซึ่งประกอบไปด้วย มณฑลทหารบกที่ 210 หน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขง (นรข.) กองกำกับการตำรวจภูธรจังหวัดนครพนม กองร้อยตำรวจตะเวนชายแดนที่ 236 ฝ่ายปกครอง (กองอาสารักษาดินแดน) และกำลังพลจากราชทัณฑ์รวม 242 นาย เข้าจู่โจมตรวจค้นผู้ต้องขังและพื้นที่ภายในเรือนจำกลางนครพนม เพื่อตรวจหายาเสพติด โทรศัพท์มือถือ และสิ่งของต้องห้าม สิ่งของที่ไม่ได้รับอนุญาตให้ผู้ต้องขังมีและเก็บรักษาไว้ในเรือนจำ ตามยุทธศาสตร์ชาติ ประเด็นความมั่นคง ภายใต้แนวคิด “ความมั่นคงแบบองค์รวม” มีเป้าหมายที่สำคัญคือประเทศชาติมั่นคง ประชาชนมีความสุข ซึ่งเป็นการดำเนินงานป้องกันปราบปรามอาชญากรรม และยาเสพติดให้หมดไปจากสังคมไทย

จังหวัดนครพนมมีนโยบายที่จะสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติด โดยมีแนวทาง คือทุกส่วนราชการจะต้องดำเนินการกวาดบ้านตัวเองให้ปลอดจากยาเสพติด โดยเรือนจำกลางนครพนม มีนโยบายให้เรือนจำทัณฑสถาน ต้องปลอดจากยาเสพติด และโทรศัพท์มือถือ อันเป็นเครื่องมือในการติดต่อสื่อสารของเครือข่ายผู้ค้ายาเสพติดโดยสิ้นเชิง โดยจะต้องทำการจู่โจมตรวจค้นโดยต่อเนื่อง เนื่องจากเป็นมาตรการหนึ่งในการควบคุมและรักษาความปลอดภัย เพื่อตรวจสอบหาสิ่งของต้องห้ามอันจะก่อให้เกิดความวุ่นวายในเรือนจำ เช่น ยาเสพติดโทรศัพท์เคลื่อนที่ อาวุธหรือสิ่งเทียมอาวุธ อุปกรณ์ในการเล่นการพนัน รวมถึงสิ่งของที่ไม่อนุญาตให้ผู้ต้องขังมีและเก็บรักษาไว้ในเรือนจำ โดยได้บูรณาการกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าดำเนินการเพื่อแสดงให้เห็นถึงการเป็นเรือนจำสีขาว ปลอดยาเสพติดอย่างแท้จริง

นายฉลาด อ่อนหัวโทน ผู้บัญชาการเรือนจำกลางนครพนม เปิดเผยว่า ในการจู่โจมตรวจค้นในครั้งนี้ไม่พบยาเสพติด สิ่งผิดกฎหมายหรือการกระทำความผิดแต่อย่างใดจากผู้ต้องขัง จำนวน 2,424 คน รวมถึงบริเวณพื้นที่ทั้งหมดของเรือนจำกลางนครพนมที่มีเนื้อที่รวม 39 ไร่ 1 งาน 49 ตารางวา โดยในโอกาสนี้ได้มีการเยี่ยม พูดคุย และให้กำลังใจ ผู้ต้องขัง ทั้งหญิง และชาย เพื่อทำให้ข้อคิด คำแนะนำ ทำให้ทุกคนได้เห็นโอกาสในการกลับตัวเป็นคนดีของสังคม หลังจากนั้นได้เยี่ยมชมผลิตภัณฑ์จากเรือนจำกลางนครพนม บริเวณด้านหน้าเรือนจำกลางนครพนม เพื่อสามารถสร้างรายได้ให้กับตัวเองและครอบครัว ไม่กลับไปกระทำผิดซ้ำและไปก่อปัญหาให้สังคม