ข่าวสังคม

ท่าอากาศยานสกลนคร ซ้อมแผนฉุกเฉินเต็มรูปแบบสมจริง สร้างความเชื่อมั่นให้ประชาชน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ท่าอากาศยานสกลนคร ตำบลธาตุนาเวง อำเภอเมือง จังหวัดสกลนคร นายชานน วาสิกศิริ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสกลนคร ซึ่งได้รับมอบหมายจากผู้ว่าราชการจังหวัดสกลนคร ให้เป็นผู้บัญชาการเหตุการณ์ ในการฝึกซ้อมแผนฉุกเฉินและแผนเผชิญเหตุ เต็มรูปแบบ ของท่าอากาศยานสกลนคร ประจำปี พ.ศ. 2567 (SAKON EMEX 2024) “ กรณีอากาศยานไถลออกนอกทางวิ่ง และกรณีการจับตัวประกัน “ กล่าวว่า การฝึกซ้อมในครั้งนี้ เป็นไปตามขั้นตอน ของการซ้อมแผน ฉุกเฉินและแผนเผชิญเหตุ โดยจะมีการถอดบทเรียนเพื่อเป็นแนวทางในการปฏิบัติหากเกิดเหตุการณ์จริง เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนและผู้ ใช้บริการท่าอากาศยานสกลนคร

โดยได้จำลองเหตุการณ์ เมื่อหอบังคับการบินสกลนคร (ATC) ได้รับแจ้งจากนักบินสายการบินอินทนิล แอร์ไลน์ เที่ยวบิน AA123 จากท่าอากาศยานหงส์ไทย ว่าอากาศ ยานเกิดความขัดข้อง มีผู้โดยสาร 70 คน นักบิน และลูกเรือ รวม 6 คน โดยมีน้ำมันเชื้อเพลิงชนิด Jet A-1 จำนวน 1,000 ลิตร ไม่มีสินค้าอันตราย เมื่อหน่วยกู้ภัยและดับเพลิงทราบ จึงได้เตรียมความ พร้อม เพื่อรองรับสถานการณ์ฉุกเฉิน โดยในขณะทำการบินเพื่อลงจอดอากาศยาน เกิดขัดข้อง ล้อหน้าพับ ทำให้ลำตัวของอากาศยานบริเวณท้อง ไถลไปกับพื้นทางวิ่ง (Runway) ชนป้ายไฟบอกตำแหน่ง และหยุดอยู่ที่ระยะ 40 เมตร อากาศยานได้รับความเสียหาย มีถังน้ำมันรั่วไหลออกจำนวนมาก จนทำให้เกิดเพลิงไหม้ มีผู้โดยสารและลูกเรือได้รับบาดเจ็บ ทีมดับเพลิงท่าอากาศยานสกลนคร เข้าระงับเหตุ แต่ไม่สามารถดับเพลิงได้ จึงขอความช่วยเหลือ ไปยังหน่วยงานข้างเคียง ได้แก่ เทศบาลนครสกลนครและศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต 7 สกลนคร พร้อมประสานหน่วยกู้ชีพกู้ภัย 1669 โรงพยาบาลศูนย์สกลนคร และโรงพยาบาลในพื้นที่ เข้าช่วยเหลือผู้ ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตทันทีที่รับทราบเหตุ นางทิพย์วรรณ วังศานุวัตร ผู้อำนวยการท่าอากาศยานสกลนคร ได้โทรศัพท์แจ้งเหตุ และรายงานให้ผู้ว่าราชการจังหวัดสกลนคร ในฐานะผู้บัญชาการเหตุการณ์ และอธิบดีกรมท่าอากาศยาน ทราบโดยทันที พร้อมจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉิน (EOC) เพื่อบัญชาการเหตุการณ์ โดยมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น ตำรวจ ทหาร พิสูจน์หลักฐาน สาธารณสุข ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ร่วมประชุมและติดตามสถานการณ์

ในขณะที่ผู้บัญชาการเหตุการณ์ ฟังสรุป สถานการณ์อยู่นั้น มีผู้ก่อเหตุ เป็นชาย 2 คน ได้ขับรถเข้ามาจอดที่ชานชาลา เพื่อติดต่อขอพบกับผู้โดยสารที่ประสบเหตุ ซึ่งเป็นญาติของตน โดยเข้าไปติดต่อสอบถามกับเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย ที่อยู่หน้าอาคารที่พักผู้โดยสาร เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยแจ้งว่ายังไม่สามารถพบได้ เนื่องจากยังไม่ทราบถึงสถานการณ์ปัจจุบัน ทำให้ ผู้ก่อเหตุเกิดความเครียด นำอาวุธปืนสั้นออกมา ยิงปืนขึ้นฟ้า 1 นัด และเดินกลับเข้ามาบริเวณชานชาลาหน้าอาคาร จับผู้โดยสารที่อยู่หน้าอาคารเป็นตัวประกัน เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าเจรจาและใช้ยุทธวิธีทางตำรวจ ผู้ก่อเหตุเกรี้ยวกราด และยิงปืนต่อสู้ เป็นเหตุให้เสียชีวิต เมื่อเหตุการณ์สงบ จึงได้นำชุดตำรวจ EOD เข้า ตรวจสอบที่เกิดเหตุ โดยผู้บัญชาการเหตุการณ์นำผู้เกี่ยวข้อง ร่วมแถลงข่าวให้สื่อมวลชนทราบ