ข่าวสังคม

ตำรวจสหัสขันธ์ “ซ้อมแผน” รับมือเหตุอาชญากรรม เน้นยำตำรวจต้องทำงานร่วมกับทุกภาคส่วนอย่างเต็มกำลัง

ตำรวจสหัสขันธ์ จังหวัดกาฬสินธุ์ ซ้อมแผนรับมือป้องกันอาชญากรรม เน้นการเฝ้าระวัง ป้องกันและปราบปรามเหล่ามิจฉาชีพ ช่วงสถานการณ์โควิด-19  เพื่อบำบัดทุกข์ บำรุงสุขพี่น้องประชาชน  เน้นย้ำตำรวจทำงานร่วมกับทุกภาคส่วนอย่างเต็มกำลัง

วันที่ 30 มี.ค. 63  พ.ต.อ.พุฒินันท์  อำพันธ์  ผกก.สภ.สหัสขันธ์ จ.กาฬสินธุ์ ได้มอบหมายให้ พ.ต.ท.จรัส  โภคาแสง  รอง ผกก.สหัสขันธ์  พ.ต.ท.ธนสิทธิ์  นาสมตรอง  สวป.สภ.สหัสขันธ์  ดำเนินการซ้อมแผนอาชญากรรม  จำลองเหตุการณ์การปล้นเงินสดที่บริเวณธนาคาร ธ.ก.ส. สาขาสหัสขันธ์  โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สหัสขันธ์  และส่วนงานที่เกี่ยวข้องร่วมปฏิบัติการอย่างรัดกุม  เพื่อไม่ให้ประชาชนตื่นกลัว ซึ่งปรากฏว่าการซ้อมแผนครั้งนี้ ได้รับความสนใจ มีประชาชนติดตามเป็นอย่างมาก

ทั้งนี้ได้จำลองเหตุการณ์เป็นการปล้นเงินบริเวณหน้าธนาคาร ธ.กส. สาขาสหัสขันธ์  โดยผู้เสียหายได้ขับรถมาจอดบริเวณหน้าธนาคาร และกำลังนำถุงผ้าที่มีเงินสดกว่า 300,000 บาท ลงจากรถเพื่อเข้าไปฝากกับธนาคาร  ระหว่างนั้นได้มีคนร้ายขับรถมาเทียบและถืออาวุธปืนขู่ผู้เสียหาย ก่อนจะปล้นเอาเงินสดในถุงผ้าและขับรถหลบหนีไปทางสะพานเทพสุดา  โดยคนร้ายที่ก่อเหตุมีจำนวน 3 คน  ซึ่งระหว่างนั้นตำรวจสายตรวจได้ผ่านมาพบเห็นเหตุการณ์และแจ้งไปยัง ผู้บังคับบัญชาตามลำดับชั้น  และตั้งด่านสกัดจับคนร้ายในทันที  โดยระหว่างที่คนร้ายจะเดินทางหนีผ่านสะพานเทพสุดา  เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการปิดกั้นทางขั้นลงสะพานทั้งสองฝั่ง ขณะที่คนร้ายที่อยู่ในรถพยายามจะหลบหนี แต่ด้วยกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ล้อมเอาไว้ สุดท้ายจึงยอมมอบตัว ซึ่งได้ทำการตรวจค้นรถพบของกลางเป็นเงินสดในถุงผ้าและอาวุธปืน   ได้ทำการตรวจยึดและจับกุมผู้ต้องหานำส่งพนักงานสอบสวน และดำเนินคดีตามกฎหมาย

พ.ต.อ.พุฒินันท์  อำพันธ์  ผกก.สภ.สหัสขันธ์  กล่าวว่า  ในการซ้อมแผนเพื่อการรับมือการก่อเหตุอาชญากรรมในพื้นที่ อ.สหัสขันธ์  ในช่วงสถานการณ์โควิด-19  เป็นการสร้างความพร้อมให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ ต้องตื่นตัวเตรียมรับมือกับเหตุที่อาจจะเกิดขึ้นได้ตลอด 24 ชม.  ยิ่งกับช่วงสถานการณ์โควิด-19  ประชาชนมีความกังวล ไม่สบายใจ  และมีความวิตก เป็นอย่างมาก  การบำบัดทุกข์ บำรุงสุขของประชาชนให้อุ่นใจในการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจ จะช่วยสร้างภาวะจิตใจของประชาชนให้เข้มแข็งขึ้น ซึ่งสถานการณ์เช่นนี้มีความเสี่ยงสูงที่มิจฉาชีพจะฉวยโอกาสก่อเหตุได้โดยง่าย ซึ่งตำรวจต้องเตรียมรับมือด้วยความเข้มแข็ง  และต้องตื่นตัวตลอดเวลาด้วย