ข่าวสังคม

ชาวบ้านนับร้อยแห่ปิดบัญชี หลังถูกแก๊งมิจฉาชีพ หลอกนำชื่อไปเปิดบัญชี ธนาคารเป็นบัญชีม้ายันไม่เคยขอเปิดบัญชี

วันที่ 22 มีนาคม 2566 ที่บริเวณหน้าธนาคารกสิกรไทยสาขานครพนม ถนนอภิบาลบัญชา มีกลุ่มชาวบ้านจำนวนนับร้อยรายได้เดินทางมาติดต่อเพื่อขอปิดบัญชีธนาคารของตนที่ถูกแก๊งมิจฉาชีพหลอก นำเอาบัตรประชาชนไปเปิดบัญชีไว้ เพื่อใช้เป็นบัญชีม้า ของพวกแก๊งมิจฉาชีพ โดยนางกองสา กัญยะมา อายุ 58 ปี อยู่บ้านหนองกระบี่ ต.นาเลียงอ.นาแก จังหวัดนครพนม เปิดเผยว่า เมื่อประมาณเดือนมิถุนายน ปี 2565ได้มีกลุ่มบุคคลชายหญิงรวม 3 คน อ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่มาจากกรมชลประทาน มีเงิน 400 บาท มาแจกถ้าใครอยากได้ก็ขอให้นำบัตรประชาชนมาแสดงพร้อมทำการแสกนใบหน้า พวกตนหลงเชื่อจึงได้มอบัตรประชาชนให้ไปพร้อมทำการแสกนใบหน้าตามวิธีการของคนกลุ่มนั้นไป โดยมีชาวบ้านทั้งหมด 27 คนที่ถูกแก๊งดังกล่าวหลอกเอาบัตรประชาชนพร้อมทำการแสกนใบหน้าไป ต่อมาทางธนาคารกสิกรไทยก็มีหนังสือแจ้งมาว่ามีการเคลื่อนไหวของบัญชีธนาคารที่มีชื่อตนเป็นเจ้าของอาจเป็นการสวมรอยเปิดบัญชีของแก๊งมิจฉาชีพขอให้ตนติดต่อธนาคารด่วน ตนจึงเดินทางไปที่ธนาคารกสิกรไทยสาขานครพนมเพื่อขอตรวจสอบจึงพบว่าที่บัญชีออมทรัพย์เลขที่ 132808645 เปิดในชื่อของตนโดยตนไม่เคยมาขอเปิดบัญชีแต่อย่างใด ตนจึงเดินทางไปแจ้งความที่สถานีตำรวจท้องที่ที่เกิดเหตุว่าถูกแก๊งมิจฉาชีพหลอกนำเอาเอกสารไปเปิดบัญชีธนาคาร ซึ่งตนเกรงว่าจะเกิดความเสียหายจึงมาแจ้งความไว้เพื่อเป็นหลักฐานให้ธนาคารปิดบัญชีดังกล่าวเพื่อไม่ให้แก๊งมิจฉาชีพนำไปก่อความเสียหายได้ต่อไป

ส่วนนางนงคาร ท่อนทอง อายุ 62 ปี อยู่บ้านท่าลาด หมู่ 4 ต.ท่าลาด อ.เรณูนคร จ.นครพนม เปิดเผยว่าตนพร้อมด้วยชาวบ้านจากหมู่บ้านต่าง ๆ อีกหกหมู่บ้านที่อยู่ใกล้เคียงก็ถูกคนในหมู่บ้านชื่อนายสวาท จุนทอง พาคนมาหลอกในลักษณะเดียวกัน โดยต่างได้ค่าตอบแทนคนละ 400 บาท แลกกับการให้บัตรประชาชนไปพร้อมการแสกนใบหน้าหลังจากนั้นก็นำไปเปิดบัญชีม้า เพื่อให้แก๊งมิจฉาชีพใช้โอนเงินเข้า ออกบางหมู่บ้านมีผู้ถูกหลอกถึง 300 คน โดย ก่อนหน้านี้ ประมาณเดือนสิงหาคม 2565 มีแก๊งมิจฉาชีพ เข้าไปว่าจ้างคนในหมู่บ้าน สร้างเม็กบ้านราชชมพู บ้านวังยาง ต.ท่าลาด อ.เรณูนคร จ.นครพนม ให้นำเอกสารไปเปิดบัญชีม้า โดยนายหน้าตระเวนหลอกลวงชาวบ้าน ให้นำเอกสารหลักฐาน สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน อ้างว่าจะนำไปเป็นสมาชิกพรรคการเมือง บางรายอ้างว่าเพื่อรับค่าตอบแทนสวัสดิการจากหน่วยงานรัฐ พร้อมให้ค่าตอบแทน หัวละ 400 บาท ทำให้ชาวบ้าน หลงเชื่อตกเป็นเหยื่อแทบทุกหมู่บ้านรวมแล้วนับพันราย จนกระทั่งภายหลัง ว่ามีชาวบ้านบางรายได้รับการแจ้งจากธนาคาร ว่าตนเองมีชื่อเป็นเจ้าของ บัญชีซึ่งถูกนำไปใช้ในทางที่ผิดกฎหมาย โดยถูกแก๊งมิจฉาชีพนำไปใช้เป็นบัญชีม้า ทำให้ชาวบ้าน รวม 8 หมู่บ้าน ใน ต.ท่าลาด อ.เรณูนคร ได้พากันไปขอตรวจสอบข้อมูลกับธนาคารต่างๆ พบว่ามีชื่อเปิดบัญชีจริง ทั้งที่พวกตนไม่เคยไปขอเปิดบัญชีกับธนาคารแห่งนี้มาก่อน อีกทั้งมีเงินผ่านบัญชี เหล่านั้นเป็นจำนวนมากพากันมาแจ้งความไว้เป็นหลักฐาน เพื่อนำบันทึกประจำวันไปขอปิดบัญชีดังกล่าว

ทั้งนี้รัฐบาลได้ออกพระราชกำหนด เกี่ยวกับมาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี พ.ศ.2566 โดยมีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 17 มีนาคม 2566 ที่ผ่านมา โดยเน้นเอาผิดเกี่ยวกับ การกระทำผิดอาชญากรรมทางออนไลน์ รวมถึงการเปิดบัญชีม้า ประกอบธุรกรรมทางการเงินที่ผิดกฎหมาย โดยมีโทษทั้งจำทั้งปรับ

ผู้สื่อข่าวได้ติดต่อขอข้อมูลวิธีการเปิดบัญชีกับธนาคารแห่งหนึ่ง เจ้าหน้าที่ได้เปิดเผยว่า ปัจจุบันทางธนาคารแห่งประเทศไทยได้วางกฎระเบียบการขอเปิดบัญชีไว้อย่างรัดกุมโดยลูกค้าของธนาคารสามารถขอเปิดบัญชีได้ที่ที่ทำการของธนาคารนั้น ๆ หรือไม่ก็สามารถขอเปิดบัญชีผ่านแอปพลิเคชั่นของแต่ละธนาคารซึ่งแต่ละธนาคารจะมีข้อปลีกย่อยแตกต่างกันไป แต่ที่สำคัญที่สุดลูกค้าจะต้องมีการสแกนใบหน้าเพื่อยืนยันแสดงตัวตนของตนเองดังนั้นกรณีนี้น่าจะเป็นการขอเปิดบัญชีทางออนไลน์ โดยแก๊งมิจฉาชีพได้หลอกให้ชาวบ้านเข้าใจผิดว่าเป็นการเก็บหลักฐานเพื่อรับเงินสวัสดิการของรัฐบ้างแล้วแต่เหตุผลที่ใช้อ้าง แต่จริงๆ แล้วเป็นการขอเปิดบัญชีกับธนาคารในขณะนั้นนั่นเอง เพราะหากถ่ายภาพใบหน้าหรือบัตรประชาชนไปก็ไม่อาจนำไปขอเปิดบัญชีภายหลังได้